ดูเหมือนว่ากระแสรถยนต์พลังไฟฟ้า หรือ EV จะมาแรงมาก เพราะนอกจากผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นแล้ว ทางด้านแบรนด์ดังในเครือเดมเลอร์เอจีอย่างสมาร์ทก็ยังเปิดตัวเวอร์ชัน EV ของรุ่นฟอร์ทู หรือ 2 ที่นั่งออกมาด้วย และเตรียมวางขายในยุโรปตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สมาร์ทผลิตเวอร์ชันพลังไฟฟ้า เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2007 ทางสมาร์ทเคยทดลองผลิตฟอร์ทู EV รุ่นแรกออกมา 100 คันและเปิดให้ใช้บริการในลักษณะเช่าใช้สำหรับการใช้งานในนครลอนดอน ประเทศอังกฤษ และในปี 2008 ก็มีการเปิดตัวเจนเนอเรชันที่ 2 ของสมาร์ท EV ออกมา พร้อมกับได้รับการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ
สำหรับเวอร์ชันใหม่ EV ของสมาร์ท ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 3 ของรถยนต์พลังไฟฟ้าจากค่ายนี้ได้รับการพัฒนาและดัดแปลงบนพื้นฐานเดียวกับรุ่นธรรมดา ซึ่งใช้เครื่องยนต์ธรรมดา และวางอยู่ด้านท้าย โดยทางทีมวิศวกรถอดเครื่องยนต์ออก และแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 12.2 กก.-ม. ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กเพื่อไม่ให้กินพื้นที่ในการติดตั้ง
เช่นเดียวกับแบตเตอรี่แบบลิเธียมขนาด 14 kWh ซึ่งติดตั้งแทนที่ตำแหน่งเดิมของถังน้ำมันเชื้อเพลิง โดยแบตเตอรี่ชุดนี้เป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยทางเทสล่า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถสปอร์ตพลังไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา และทางเดมเลอร์เข้าไปถือหุ้นอยู่ 10%
ด้วยตัวถังขนาดเล็กกับกำลังในระดับ 30 แรงม้า ทำให้สมาร์ท ฟอร์ทู EV มีสมรรถนะที่ดีพอตัว จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใช้เวลา 6.5 วินาทีดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินเสียอีก แต่ข้อเสียอาจจะอยู่ตรงนี้เน้นการใช้งานในเมือง ความเร็วสูงสุดก็เลยโดนล็อกเอาไว้ที่ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าจนเต็มแบตฯ สามารถแล่นทำระยะทางได้ 115 กิโลเมตรตามมาตรฐานการทดสอบของหน่วยงาน NEDC ซึ่งมากกว่าระยะเฉลี่ยของการใช้งานในเมืองของลูกค้าในยุโรปซึ่งอยู่ที่ 30-40 กิโลเมตรต่อวันเท่านั้น ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่ สามารถเสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านระดับ 220 โวลต์ได้ และใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นจึงเต็ม
จากการทดสอบและวิจัยโดนทีมงานของสมาร์ทพบว่าค่าใช้จ่ายในการใช้ฟอร์ทู EV ต่ำมาก เพียง 2 ยูโร หรือ 100 กว่าบาทต่อการขับ 100 กิโลเมตร ซึ่งพลังไฟฟ้าในบางประเทศจะมีราคาถูกมาก ซึ่งทำให้ช่วยลดต้นทุนในการเดินทาง อีกทั้งในเรื่องการบำรุงรักษาก็ไม่วุ่นวาย เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นปกติก็มีเพียงมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ รวมถึงอุปกรณ์ในระบบไฟฟ้าเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ข่าวร้ายสำหรับคนที่อยากขับจิ๋วพลังไฟฟ้ารุ่นนี้ เพราะแม้จะมีกำหนดเริ่มออกใช้งานในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ก็เป็นในลักษณะเช่าใช้ และจำกัดจำนวนลูกค้าเหมือนกับ 2 รุ่นก่อนหน้านี้ โดยคราวนี้เมืองหลักของรถยนต์รุ่นนี้อยู่ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งรัฐบาลกำลังส่งเสริมให้หันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้ากันมากขึ้นตามแนวคิด ‘e-Mobility Berlin’ จากนั้นค่อยกระจายออกสู่เมืองต่างๆ เช่น ฮัมบูร์ก, โรม, ปารีส, มิลาน, มาดริด และปิซ่า ก่อนบินข้ามไปฝั่งอเมริกา
ส่วนเรื่องการผลิตออกขายในเชิงพาณิชย์คงต้องรอสักระยะ เพราะทางเดมเลอร์ตั้งเป้าเอาไว้ว่าน่าจะเป็นก่อนปี 2012 โน่น