ข่าวในประเทศ - ลามิน่าชี้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมหันใช้ฟิล์มอาคารป้องกันความร้อนและรังสียูวีมากขึ้น เดินหน้าจัดกิจกรรมเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ ทดแทนตลาดโครงการที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังมั่นใจรักษายอดจำหน่าย 40 ล้านบาท
จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” และฟิล์มกรองแสงกลุ่มพิเศษ “ลูม่าร์” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดของตลาดฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ที่อยู่อาศัย ว่าผู้บริโภคหันมาเข้าใจและตื่นตัวในการติดตั้งฟิล์มกรองแสงให้กับอาคาร ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วมงานสถาปนิก ’52 ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งล่าสุดในช่วงระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา และได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าและผู้เข้ามาชมงาน ทำให้ทราบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารบ้านเรือนกันมากขึ้นจากในอดีตที่ผ่านมา
บริษัทฯ ได้เน้นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ว่านอกจากจะสามารถป้องกันในเรื่องของความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคารได้แล้ว ยังสามารถป้องกันรังสียูวี ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัสดุภายในบ้าน เช่น พื้นไม้, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เสื่อมสภาพทำให้ผู้บริโภคที่มีความเข้าใจและตื่นตัวในเรื่องการดูแลรักษาที่อยู่อาศัยหันมาให้ความสนใจมากขึ้น
“ที่ผ่านมาตลาดใหญ่ของฟิล์มกรองแสงอาคารจะอยู่ที่โครงการหรืออาคารขนาดใหญ่ ที่มองเรื่องของความร้อนและความปลอดภัยเป็นหลัก แต่หลังจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้โครงการขนาดใหญ่ลดลง แต่ลามิน่าก็เดินหน้าการทำตลาดฟิล์มกรองแสงอาคารอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าร่วมงานสถาปนิก’52 เป็นปีที่ 6 ในปีนี้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วไปเป็นอย่างดี”
นางสาวจันทร์นภากล่าวว่า หลังจากการพูดคุยกับลูกค้าภายในงานแล้ว พบว่าลูกค้าให้ความสนใจถึงคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ในส่วนของการป้องกันรังสียูวี ที่ส่งผลกระทบต่อเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งภายในบ้าน ขณะเดียวกันก็มองในเรื่องของการป้องกันความร้อน เพื่อช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเช่นกัน
สำหรับเป้าหมายทางการตลาดในปีนี้ ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาระดับการขายเอาไว้ได้ที่ 40 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของยอดจำหน่ายทั้งหมดของบริษัท เนื่องจากลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ลดลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าลูกค้าส่วนบุคคลจะสามารถเข้ามาทดแทนตลาดตรงนี้ได้
ทั้งนี้ อัตราค่าบริการสำหรับบ้านขนาดใหญ่จะเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท แต่สำหรับลูกค้าส่วนบุคคลที่มีความสนใจจะใช้บริการ สามารถติดต่อมาที่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่หรืองานเล็ก เนื่องจากลามิน่ามีช่างติดฟิล์มที่มีความชำนาญและได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ไว้คอยให้บริการในส่วนของฟิล์มอาคารอย่างเต็มที่
จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายฟิล์มกรองแสง “ลามิน่า” และฟิล์มกรองแสงกลุ่มพิเศษ “ลูม่าร์” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ล่าสุดของตลาดฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ที่อยู่อาศัย ว่าผู้บริโภคหันมาเข้าใจและตื่นตัวในการติดตั้งฟิล์มกรองแสงให้กับอาคาร ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการที่บริษัทฯ ได้เข้าร่วมงานสถาปนิก ’52 ซึ่งเป็นการจัดงานครั้งล่าสุดในช่วงระหว่างวันที่ 28 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา และได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกค้าและผู้เข้ามาชมงาน ทำให้ทราบว่าผู้บริโภคให้ความสนใจกับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารบ้านเรือนกันมากขึ้นจากในอดีตที่ผ่านมา
บริษัทฯ ได้เน้นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ว่านอกจากจะสามารถป้องกันในเรื่องของความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคารได้แล้ว ยังสามารถป้องกันรังสียูวี ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัสดุภายในบ้าน เช่น พื้นไม้, เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ เสื่อมสภาพทำให้ผู้บริโภคที่มีความเข้าใจและตื่นตัวในเรื่องการดูแลรักษาที่อยู่อาศัยหันมาให้ความสนใจมากขึ้น
“ที่ผ่านมาตลาดใหญ่ของฟิล์มกรองแสงอาคารจะอยู่ที่โครงการหรืออาคารขนาดใหญ่ ที่มองเรื่องของความร้อนและความปลอดภัยเป็นหลัก แต่หลังจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้โครงการขนาดใหญ่ลดลง แต่ลามิน่าก็เดินหน้าการทำตลาดฟิล์มกรองแสงอาคารอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าร่วมงานสถาปนิก’52 เป็นปีที่ 6 ในปีนี้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วไปเป็นอย่างดี”
นางสาวจันทร์นภากล่าวว่า หลังจากการพูดคุยกับลูกค้าภายในงานแล้ว พบว่าลูกค้าให้ความสนใจถึงคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคาร ในส่วนของการป้องกันรังสียูวี ที่ส่งผลกระทบต่อเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งภายในบ้าน ขณะเดียวกันก็มองในเรื่องของการป้องกันความร้อน เพื่อช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศภายในบ้านเช่นกัน
สำหรับเป้าหมายทางการตลาดในปีนี้ ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาระดับการขายเอาไว้ได้ที่ 40 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของยอดจำหน่ายทั้งหมดของบริษัท เนื่องจากลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ลดลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าลูกค้าส่วนบุคคลจะสามารถเข้ามาทดแทนตลาดตรงนี้ได้
ทั้งนี้ อัตราค่าบริการสำหรับบ้านขนาดใหญ่จะเริ่มต้นที่ประมาณ 30,000-50,000 บาท แต่สำหรับลูกค้าส่วนบุคคลที่มีความสนใจจะใช้บริการ สามารถติดต่อมาที่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่หรืองานเล็ก เนื่องจากลามิน่ามีช่างติดฟิล์มที่มีความชำนาญและได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ไว้คอยให้บริการในส่วนของฟิล์มอาคารอย่างเต็มที่
