xs
xsm
sm
md
lg

Aston Martin DBS Volante เมื่อรถพี่บอนด์ท้าสายลม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ย้อนกลับไปปลายปี 2006 พร้อมกับการเปิดตัวเจมส์ บอนด์คนใหม่ที่ได้แดเนี่ยล เครกมารับบทในตอน Casino Royale นอกจากจะมีฟอร์ด มอนเดโอใหม่ออกมาแล่นให้แปลกใจตอนต้นของเรื่องแล้ว แน่นอนว่ารถสปอร์ตคู่ใจของยอดสายลับยังเป็นแอสตัน มาร์ตินเหมือนเดิม แต่เป็นรุ่นใหม่แกะกล่องที่ใช้ชื่อว่า DBS

ตอนแรกทำท่าว่าจะจับเข้าฉากเพียงอย่างเดียว แต่สุดท้ายแบรนด์ดังของอังกฤษก็จัดการส่งขายจนได้โดยถือเป็นตัวแทนในการทำตลาดต่อจากรุ่นแวนควิช และอีกเช่นกันที่คนส่วนใหญ่คิดว่า DBS จะมีแค่ตัวถังคูเป้ในการทำตลาด เพราะรอแล้วรออีกยังไม่มาสักที จนกระทั่งเกือบ 3 ปีผ่านไป ฝันที่เฝ้ารอเป็นจริงจนได้

DBS Volante มีคิวเปิดตัวคันจริงใน แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 เดือนกันยายนนี้ และมาพร้อมความสวยและดุดันสไตล์เดียวกับรุ่นคูเป้ โดยตัวรถได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของ DB9 เปิดประทุนแบบ 2+2 ที่นั่ง ซึ่งใช้พื้นตัวถังแบบ VH-Vertical Horizontal ซึ่งใช้โครงสร้างตัวถังที่ผลิตจากอะลูมิเนียม เช่นเดียวกับการผลิตชิ้นส่วนตัวถังต่างๆ ด้วยอะลูมิเนียม แม็กนีเซียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเบาขึ้น

สำหรับชุดหลังคาผ้าใบได้รับการผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาเช่นกัน และโครงของหลังคามีความแข็งแกร่งสามารถทนต่อแรงลมปะทะในระดับความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะแอสตัน มาร์ตินออกแบบให้ตัวระบบหลังคาสามารถกางออกหรือพับเก็บทั้งในจังหวะที่หยุดนิ่งหรือแล่นด้วยความเร็วไม่เกินนี้ได้ และใช้เวลา 14 วินาทีในการทำงาน พร้อมระบบ ROPS หรือ Roll-Over Protection System ซึ่งเป็นคานเหล็กที่ฝังอยู่ด้านหลัง

แน่นอนว่าภายในมาพร้อมกับความหรูหราและความสปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ แถมด้วยเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ชั้นดีของ Bang&Olufsen ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรถสปอร์ตรุ่นนี้โดยเฉพาะและใช้ชื่อว่า BeoSound DBS โดยตัวระบบเสียงมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับรถสปอร์ตเปิดประทุน ไม่ต่างจากรุ่นคูเป้ ในเวอร์ชัน Volante มากับขุมพลังวี12 ทวินแคม 48 วาล์ว 6,000 ซีซี 510 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 58.1 กก.-ม. ที่ 5,750 รอบ/นาที และเป็นแบบ Flat Torque โดยแรงบิดจำนวน 85% ของเครื่องยนต์ถูกรีดออกมาในช่วงรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ปี 1,500 รอบต่อนาที

สำหรับระบบส่งกำลังลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งแบแบบธรรมดา 6 จังหวะที่มาพร้อมกับอัตราทดเฟืองท้ายขนาด 3.71:1 และอัตโนมัติ 6 จังหวะเป็นเฟืองท้ายขนาด 3.46 : 1 ให้สมรรถนะทันใจด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.3 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 307 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากความสวยด้วยล้อแม็กขนาด 20 นิ้วที่ผลิตด้วยกรรมวิธี Forged แล้วยังมีส่วนช่วยให้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถลดลงได้อีก 8 กิโลกรัมเมื่อเปรียบเทียบกับล้อชุดเดิมของ DB9 Volante (แต่ตัวรถมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 1,810 กิโลกรัม) โดยที่ระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้ หรือ ADS-Adaptive Damping System ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงานเช่นเดียวกับระบบเบรกเป็นแบบคาร์บอนเซรามิก หรือ CCM Carbon Ceramic Matrix ด้านหน้า 398 มิลลิเมตรและด้าน หลัง 360 มิลลิเมตร

ราคาอยู่ที่ 168,000 ปอนด์ หรือ 9.24 ล้านบาท และแอสตัน มาร์ตินพร้อมทยอยขายในตลาดทั่วโลกนับตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป ใครที่อยากสัมผัสกับความแรงและความเร้าใจท่ามกลางสายลม รีบเบิกเงินมาเตรียมเอาไว้ได้เลย

กำลังโหลดความคิดเห็น