ตามปกติแล้ว แม้จะเป็นมอเตอร์โชว์ใหญ่ขนาดไหน แต่เรามักจะไม่ค่อยได้เห็นบูธของปากานี่ ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอิตาเลี่ยน เข้ามาร่วมจัดแสดง ยกเว้นเพียงงานเดียวเท่านั้นที่มีให้เห็นเป็นประจำ คือ เจนีวา มอเตอร์โชว์
และในปีนี้ ปากานี่นำของใหม่ที่ราคาแพงสุดขั้วมาเปิดตัว กับเวอร์ชัน R ของรถสปอร์ตหนึ่งเดียวในโชว์รูมนั่นก็คือ ซอนด้า ซึ่งรุ่นนี้ได้รับการผลิตขึ้นมาตามคำเรียกร้องของลูกค้าที่ต้องการความแรงและความเร้าใจที่เหนือระดับจากเวอร์ชัน F ที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน
งานนี้เรียกว่าเป็นการพัฒนาเวอร์ชันที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนถนนและสนามแข่ง โดยตัวรถได้รับการปรับปรุงและพัฒนาความสวยสะดุดตาบนพื้นฐานของซอนด้า F พร้อมกับชุดตัวถังที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยเฉพาะด้านท้ายที่ว่ากันว่าเมื่อแล่นด้วยความเร็วสูงในระดับ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว จะมีแรงกดบนตัวถังเพื่อให้ตัวรถมีการทรงตัวที่ดีถึง 1,500 กิโลกรัม หรือมากกว่าน้ำหนักของตัวรถเปล่าร่วมๆ 430 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ขนาดตัวรถแบบเครื่องยนต์วางกลางลำ 2 ที่นั่งมีความยาว 4,886 มิลลิเมตร กว้าง 2,014 มิลลิเมตร สูง 1,141 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,785 มิลลิเมตร ล้อแม็กผลิตด้วยวิธี Forged ด้านหน้ามีขนาดท 19 และด้านหลัง 20 นิ้ว ส่วนแชสซีส์ผลิตจากคาร์บอน-ไททาเนียม ชิ้นส่วนตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อลดน้ำหนัก และมีการเสริม Roll Cage รอบคันเพื่อความปลอดภัยหากเกิดความผิดพลาดในการขับ
เครื่องยนต์ที่วางอยู่ด้านท้ายเป็นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ได้รับการโมดิฟายโดย AMG เป็นบล็อกวี12 ทวินแคม 48 วาล์ว 5,987 ซีซี ใช้ระบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump มีกำลังสูงสุด 750 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 72.3 กก.-ม. ที่ 5,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ 6 จังหวะเปลี่ยนเกียร์ในแบบซีเควนเชี่ยล ม้า 1 ตัวแบกน้ำหนักเพียง 1.43 กิโลกรัมเท่านั้น และใช้เวลาเพียง 2.7 วินาทีในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนความเร็วปลายเกิน 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หยุดอย่างมั่นใจด้วยดิสก์เบรกแบบคาร์บอน-เซรามิก ด้านหน้าและหลังมีขนาดเท่ากัน 380X34 มิลลิเมตร แต่ด้านหน้าจับคู่กับคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบ และด้านหลัง 4 ลูกสูบที่ผลิตโดยเบรมโบ พร้อมกับสามารถปรับระดับการทำงานของแรงดันไฮดรอลิกในระบบเบรกได้ถึง 12 ระดับ เช่นเดียวกับระบบแทร็กชั่นคอนโทรลของบ๊อช มอเตอร์สปอร์ตที่ปรับระดับได้มากเท่านี้
แรง เร้าใจ และสเปกไฮโซขนาดนี้ ไม่ต้องสืบเลยสำหรับราคา ตัวเลขที่ขายในยุโรปมีมากถึง 7 หลักอยู่ที่ 1.47 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยก็กว่า 70 ล้านบาท ถ้าจะนำเข้ามาขับในบ้านเรา ก็ลองเอา 3 คูณดู น่าจะได้ตัวเลขแบบคร่าวๆ ส่วนการผลิตยังเป็นแบบจำกัดจำนวนเช่นเคย…ใครมาช้าก็อด
