ข่าวในประเทศ - ตลาดรถยนต์ยังไม่ฟื้น ตกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน เดือน พ.ค. 52 ลดลง 26.2% ปิกอัพนำโด่งทรุดหนักสุด38.5% แจงเหตุโตโยต้าปรับไลน์ผลิตมียอดส่งมอบค้างอยู่ ขณะที่ยอดสะสม 5 เดือนเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น จากความเชื่อมันของผู้บริโภคและภาวะการเมืองนิ่ง
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2552 ปริมาณการขาย 40,539 คัน ลดลง 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 17,361 คัน ลดลง 18.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 23,178 คัน ลดลง 31.1% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 20,209 คัน ลดลง 30.6%
สถิติการขายสะสมในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 188,026 คัน ลดลง 30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 77,310 คัน ลดลง 13.9% รถเพื่อการพาณิชย์ 110,716 คัน ลดลง 39.0% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 96,343 คัน ลดลง 38.5%
" ปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดจากการหดตัวของยอดขายรถยนต์ของโตโยต้า ซึ่งเป็นผลมาจากการรักษาสมดุลของยอดการผลิตเพื่อการขายในประเทศกับการส่งออก ส่งผลให้มียอดค้างจองในรถยนต์นั่งบางรุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ประกอบกับการลดจำนวนการผลิตของรถยนต์นั่งขนาดกลางเพื่อรอการเปิดตัวรุ่นใหม่ จึงส่งผลให้ตลาดรถยนต์นั่งและตลาดรถยนต์รวมมีอัตราการเติบโตลดลง"นายวุฒิกร กล่าว
สำหรับการหดตัวดังกล่าวของตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม นับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และเป็นปริมาณการขายที่ต่ำกว่าสถิติการขายตามฤดูกาล โดยตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการหดตัวที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 18.3% สูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี
นายวุฒิกรกล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มของการหดตัวลดลง เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น ความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะรถยนต์นั่งยังคงมีอยู่มาก ประกอบความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและสถานการณ์การเมืองในประเทศ
ส่วนตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน คาดว่าจะมีปริมาณการขายดีขึ้น เนื่องจากตามสถิติการขายแล้วเดือนมิถุนายนจะมียอดขายสูงสุดของไตรมาสที่สอง ประกอบกับการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเร่งส่งมอบรถค้างจองที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่มีแน้วโน้มเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ได้
ตารางแสดงยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภท (หน่วย : คัน)
ตารางแสดงยอดขายประเภทรถยนต์นั่ง (หน่วย : คัน)
ตารางแสดงยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (หน่วย : คัน)
ตารางแสดงยอดขายรถปิกอัพล้วน (หน่วย : คัน)
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2552 ปริมาณการขาย 40,539 คัน ลดลง 26.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 17,361 คัน ลดลง 18.3% รถเพื่อการพาณิชย์ 23,178 คัน ลดลง 31.1% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 20,209 คัน ลดลง 30.6%
สถิติการขายสะสมในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 188,026 คัน ลดลง 30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 77,310 คัน ลดลง 13.9% รถเพื่อการพาณิชย์ 110,716 คัน ลดลง 39.0% รวมทั้ง รถปิกอัพขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 96,343 คัน ลดลง 38.5%
" ปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดจากการหดตัวของยอดขายรถยนต์ของโตโยต้า ซึ่งเป็นผลมาจากการรักษาสมดุลของยอดการผลิตเพื่อการขายในประเทศกับการส่งออก ส่งผลให้มียอดค้างจองในรถยนต์นั่งบางรุ่นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ประกอบกับการลดจำนวนการผลิตของรถยนต์นั่งขนาดกลางเพื่อรอการเปิดตัวรุ่นใหม่ จึงส่งผลให้ตลาดรถยนต์นั่งและตลาดรถยนต์รวมมีอัตราการเติบโตลดลง"นายวุฒิกร กล่าว
สำหรับการหดตัวดังกล่าวของตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม นับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และเป็นปริมาณการขายที่ต่ำกว่าสถิติการขายตามฤดูกาล โดยตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการหดตัวที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 18.3% สูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี
นายวุฒิกรกล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีแนวโน้มของการหดตัวลดลง เป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้น ความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะรถยนต์นั่งยังคงมีอยู่มาก ประกอบความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและสถานการณ์การเมืองในประเทศ
ส่วนตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน คาดว่าจะมีปริมาณการขายดีขึ้น เนื่องจากตามสถิติการขายแล้วเดือนมิถุนายนจะมียอดขายสูงสุดของไตรมาสที่สอง ประกอบกับการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อเร่งส่งมอบรถค้างจองที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่มีแน้วโน้มเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ได้
ตารางแสดงยอดขายรถยนต์รวมทุกประเภท (หน่วย : คัน)
ยี่ห้อ | พ.ค.52 | ม.ค.52-พ.ค.52 |
โตโยต้า | 16,222 | 76,490 |
อีซูซุ | 8,371 | 40,406 |
ฮอนด้า | 7,621 | 32,647 |
นิสสัน | 2,145 | 9,691 |
เชฟโรเลต | 1,515 | 5,460 |
มิตซูบิชิ | 1,220 | 6,439 |
มาสด้า | 868 | 4,086 |
ฟอร์ด | 503 | 2,799 |
เบนซ์ | 410 | 1,913 |
โปรตอน | 230 | 1,069 |
รวมทุกยี่ห้อ | 40,539 | 188,026 |
ตารางแสดงยอดขายประเภทรถยนต์นั่ง (หน่วย : คัน)
ยี่ห้อ | พ.ค.52 | ม.ค.52-พ.ค.52 |
ฮอนด้า | 7,268 | 30,991 |
โตโยต้า | 6,700 | 33,344 |
เชฟโรเลต | 996 | 2,592 |
นิสสัน | 682 | 2,506 |
มาสด้า | 424 | 1,909 |
เบนซ์ | 396 | 1,829 |
มิตซูบิชิ | 241 | 1,136 |
โปรตอน | 230 | 1,069 |
บีเอ็มดับเบิลยู | 138 | 596 |
ฟอร์ด | 75 | 465 |
รวมทุกยี่ห้อ | 17,361 | 77,310 |
ตารางแสดงยอดขายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (หน่วย : คัน)
ยี่ห้อ | พ.ค.52 | ม.ค.52-พ.ค.52 |
โตโยต้า | 9,522 | 43,146 |
อีซูซุ | 8,371 | 40,406 |
นิสสัน | 1,463 | 7,185 |
มิตซูบิชิ | 979 | 5,303 |
เชฟโรเลต | 519 | 2,868 |
ฮีโน่ | 482 | 2,373 |
มาสด้า | 444 | 2,177 |
ฟอร์ด | 428 | 2,334 |
ฮอนด้า | 353 | 1,656 |
ซูซูกิ | 149 | 758 |
รวมทุกยี่ห้อ | 23,178 | 110,716 |
ตารางแสดงยอดขายรถปิกอัพล้วน (หน่วย : คัน)
ยี่ห้อ | พ.ค.52 | ม.ค.52-พ.ค.52 |
อีซูซุ | 7,484 | 36,011 |
โตโยต้า | 7,310 | 33,427 |
นิสสัน | 1,454 | 7,067 |
มิตซูบิชิ | 579 | 3,272 |
มาสด้า | 444 | 2,177 |
เชฟโรเลต | 404 | 2,260 |
ฟอร์ด | 331 | 2,039 |
ทาทา | 70 | 330 |
รวมทุกยี่ห้อ | 18,076 | 86,583 |