xs
xsm
sm
md
lg

เบนซ์แคมเปญ-สินค้าแรง ฉุดตลาดรถหรู-วอลโว่ฮึด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Mercedes-Benz E Class
ข่าวในประเทศ - ตลาดรถหรูวิ่งสู้ฟัด! ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจจนบรรดารถตลาดต้องยกนิ้วให้ ยอดขาย 4 เดือนแรกปีนี้ วูบเพียง 4% จากการโหมเปิดตัวรถใหม่ อัดแคมเปญดุเดือดตั้งแต่หัวปี โดยเฉพาะค่ายตราดาว เมอร์เซเดส-เบนซ์ จนดันตัวเลขปิดบวก 11% และยังเดินหน้าลุยแนะนำรถรุ่นอี-คลาส และซี-คลาส ที่ใช้น้ำมัน E20 ซึ่งนอกจากเพิ่มทางเลือกพลังงานเชื้อเพลิงแล้ว ราคายังลดลง 1.3-1.6 แสนบาท ล่าสุดอัดแคมเปญพิเศษดันยอดรุ่นเอส-คลาสอีก เพื่อปั้นตัวเลขยอดขายแล้ว ยังเตรียมรับโฉมใหม่รุ่น อี-คลาส และการแต่งหน้าทาปากรุ่น เอส-คลาส รวมถึง C220 CDi ในช่วงปลายปีนี้

ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ก็แลกหมัดสวนกลับไม่แพ้กัน แม้แต่ วอลโว่ที่อาการหนักสุด นอกจากฉีกแนวเปิดตลาดรถใช้พลังงานทางเลือกน้ำมัน E85 ภายในช่วงกลางปีหรือครึ่งหลังปีนี้ เตรียมแนะนำรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ชื่อดัง เอ็กซ์ซี60สู่ตลาดไทย ด้วยจุดเด่นอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบใหม่เพียบ เรียกว่ายุคดอกเบี้ยเงินฝากต่ำติดดิน หากแคมเปญ หรือมีสินค้าใหม่ถูกใจ เศรษฐีไทยก็เขวเหมือนกัน
ยอดขายรถยนต์หรูหรา
ยี่ห้อม.ค.-เม.ย.52ม.ค.-เม.ย.51ส่วนแบ่งตลาด
เมอร์เซเดส-เบนซ์1,44311%62%
บีเอ็มดับเบิลยู550-14%24%
วอลโว่101-48%4%
มินิ97-11%4%
เล็กซัส65-17%3%
ออดี้24-20%1%
อื่นๆ56 2%
รวม2,336-4%100

สถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทย 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) ยอดขายโดยรวมดิ่งเหวกว่า 31% ซึ่งหากแยกแต่ละประเภทก็สาหัสไม่แพ้กัน ปิกอัพตกลง 40% และรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง ติดลบกว่า 12% แต่หากเจาะลึกลงไปกลุ่มย่อยของแต่เซกเม้นท์ หนึ่งในตลาดที่มักจะอ่อนไหว และได้รับผลกระทบลำดับแรกๆ อย่างตลาดรถหรูหรา เมื่อเจอวิกฤติเศรษฐกิจและการเมืองคราวนี้กลับเหนือคาด ปรากฎว่ายอดขายโดยรวมลดลงเพียงแค่ 4% น้อยกว่าภาพรวมทุกตลาด รวมถึงในเซกเม้นท์รถยนต์นั่งของรถหรูหราด้วย(ดูตารางประกอบ)
Mercedes-Benz E Class
สาเหตุสำคัญมาจากการรุกตลาดอย่างหนักของค่ายรถยนต์หรูหรา ทั้งการเปิดตัวรถใหม่ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายชนิดที่ลูกค้าปฏิเสธไม่ได้ ทั้งส่วนลดเงินสด หรือดอกเบี้ย 0% ระยะเวลานาน เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู, เล็กซัส หรือแม้แต่วอลโว่ที่พยายามจะเปิดทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ด้วยการแนะนำรถยนต์ใช้พลังงานทางเลือก น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 แต่ที่ร้อนแรงสุดเห็นจะเป็นค่าย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มียอดขายพุ่งแบบติดจรวด หรือขายง่ายยังกับรถราคาล้านเศษๆ โดยปิดยอดขาย 4 เดือนแรกปีนี้ 1,443 คัน เทียบกับปีที่แล้วช่วงเดียวกันเติบโต 11% ครองส่วนแบ่งมากถึง 62% และมีส่วนสำคัญทำให้ภาพรวมตลาดรถยนต์หรูหราปิดยอดขายได้ 2,336 คัน หรือลดลงเพียง 4% แม้แต่รถตลาดอย่างปิกอัพ หรือเก๋งเล็กลงมายังต้องยกนิ้วให้
Mercedes-Benz S Class
แน่นอนปัจจัยที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประสบความสำเร็จเช่นนี้ ย่อมจะมาจากการแคมเปญเทกระจาดรุ่นอี-คลาสในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในงานอินเตอร์เนชั่นแนล บางกอก มอเตอร์โชว์ 2009 ซึ่งได้มีการให้ส่วนลดสูงถึงกว่า 7 แสนบาท กับลูกค้าที่ซื้อเงินสด อี-คลาส เอ็นจีที หรือจะเลือกซื้อเงินผ่อนในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 72 เดือน กับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสทุกรุ่นก็ได้ อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะเมอร์เซเดส-เบนซ์จะหยุดการรุกตลาดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะเดินหน้าเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการแนะนำรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ 5 รุ่น ทั้งอี-คลาส และซี-คลาส ซึ่งสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 E20 สู่ตลาด ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้พลังงานเชื้อเพลิง และราคาที่ต่ำกว่าเดิมแล้ว ในส่วนของราคาจำหน่ายก็ยังลดลง 1.3-1.6 แสนบาท จากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตต่ำลงของรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน E20
Mercedes-Benz S Class
ไม่เพียงเท่านั้นในส่วนของรุ่นท็อปคลาส เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นเอส-คลาส ได้มีข้อเสนอทางการเงินพิเศษสุดให้กับลูกค้าเป็นครั้งแรก อาทิ ผ่อนชำระ 0% 1 ปี พร้อมฟรีประกันภัยชั้น1 หรือผ่อนชำระ 1.99% ในระยะเวลา 5 ปี ด้วยเงื่อนไขพิเศษสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน คือ ลูกค้าสามารถจ่ายค่างวดแต่ละเดือนผ่านบัตรเครดิตเมอร์เซเดสการ์ด พร้อมสามารถสะสมแต้มเพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากทางเมอร์เซเดส-เบนซ์อีกด้วย โดยแคมเปญดังกล่าวมอบให้กับลูกค้า ที่สนใจสั่งจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส รุ่น S 300 L และ S 320 CDI L ตั้งแต่ วันนี้ถึง30 มิถุนายน 2552 สำหรับการรุกตลาดครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเร่งทำตัวเลขฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมรับโฉมใหม่ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ซึ่งเตรียมจะเข้ามาทำตลาดในไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้ แม้การอัดแคมเปญของอี-คลาสรุ่นปัจจุบัน (W211) ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะบอกว่าเป็นการเจาะเข้าหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการโล๊ะสต็อก
BMW Z4
โดยอี-คลาสโฉมใหม่ (W212) จะเข้ามาทำตลาดเบื้องต้น จะเป็นรุ่นนำเข้าสำเร็จรูป (CBU) ก่อน เพื่อตีกันผู้นำเข้าอิสระหรือเกรย์มาร์เก็ต ส่วนรุ่นประกอบในประเทศ (CKD) อย่างเร็วคาดว่าจะเปิดตัวสู่ตลาดปลายปีนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปีหน้า สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส ปลายปีนี้จะมีการไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดเช่นกัน รวมถึงการแนะนำเมอร์เซเดส-เบนซ์ C220 CDi หรือรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลด้วย การรุกตลาดอย่างหนักของเมอร์เซเดส-เบนซ์ดังกล่าว จึงไม่แปลกที่ยอดขายจะพุ่งแบบติดจรวด และคงไม่ยากที่จะกวาดส่วนแบ่งตลาดในระดับ 60% อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ ขณะที่ค่ายอื่นๆ ก็โหมตลาดหนักเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเล็กซัสที่แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และรถยนต์ไฮบริดในรุ่น อาร์เอ็กซ์450เอชหรืออย่างกลุ่มบีเอ็มดับเบิลยูที่เปิดตัวรถใหม่ถึง 7 รุ่น พร้อมกับอัดแคมเปญดอกเบี้ย 0% ฟัดกับเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างดุเดือด
Lexus RX 450h
นี่ยังไม่รวมโฟล์คสวาเกนที่หวนกลับมารุกตลาดไทย แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 5 รุ่น ทำให้ภาพรวมของตลาดรถหรู กับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ทั้งนี้ค่ายที่ค่อนข้างจะสาหัสสุดเห็นจะเป็น วอลโว่ที่มีอัตราลดลงถึง 48% แต่วอลโว่ก็พยายามดิ้นสู้ฟัด ด้วยการฉีกไปเจาะตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือก เปิดตัวรถยนต์ที่สามารถใช้น้ำมัน E85 ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดีพอสมควร มียอดขายมากกว่า 70 คันแล้ว คาดว่าถึงสิ้นปีน่าจะทะลุ 150 คัน และปีหน้าน่าจะขยับอีกเป็นเท่าตัว 300 คัน

ไม่เพียงเท่านั้นวอลโว่ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า โดยจากรายงานข่าวในช่วงกลางปี หรือครึ่งหลังปีนี้ วอลโว่เตรียมจะแนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ เอ็กซ์ซี60 สู่ตลาดไทย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับรุ่น เอ็กซ์ซี90 ที่ทำตลาดในไทยปัจจุบัน แต่มีขนาดที่เล็กกว่า วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 เป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรป ด้วยรูปทรงที่ดูดุดันทรงพลัง ขณะที่ภายในกว้างขวางสบาย
Volvo CX 60
และจุดเด่นสุดๆ ของรถรุ่นนี้อยู่ที่ระบบความปลอดภัย City Safety ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการชน และลดการบาดเจ็บ โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บต้นคอและหลัง เครื่องยนต์ที่ติดตั้งมาในวอลโว่ เอ็กซ์ซี60 มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล แต่สำหรับตลาดเมืองไทยน่าจะเป็นรุ่น 2.4D 5 สูบเทอร์โบดีเซล 163 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล D5 ที่วางในรถแทบทุกรุ่นของวอลโว่ในการทำตลาดรถยนต์ไทย

ดูจากความเคลื่อนไหวของแต่ละค่ายแล้ว ตลาดรถหรูหราปี 2552 ไม่หงอยเหงาแน่นอน โดยเฉพาะยุคดอกเบี้ยเงินฝากต่ำติดดินเช่นนี้หากมีแคมเปญโดนใจ หรือมีทีเด็ดใหม่แจ่มๆ บางทีเศรษฐีอาจจะคิด สู้ถอนเอามาถอยรถขับโฉบเฉี่ยวเท่ๆ ดีกว่าฝากแบงก์ก็ได้!

กำลังโหลดความคิดเห็น