ข่าวต่างประเทศ - แซทเทิร์น และฮัมเมอร์ 2 แบรนด์ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของเครือจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการซื้อขายกิจการแล้ว เมื่อจีเอ็มรับข้อตกลงของทางเพนสกี้ ออโต้โมทิฟในการเทคโอเวอร์กิจการของแบรนด์แรกแล้ว ส่วนฮัมเมอร์ก็ถูกยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรขนาดใหญ่ของจีนซื้อกิจการไปแล้วเช่นกัน
ในกรณีของแซทเทิร์นไม่มีการพลิกโผ และทางเพนสกี้ได้รับสิทธิ์ในการเทคโอเวอร์กิจการไป โดยยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าครั้งนี้ และทั้ง 2 ฝ่ายได้จัดการเซ็นบันทึกข้อตกลงแห่งความเข้าใจเพื่อให้เป็นที่รับทราบแล้วเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ
การเทคโอเวอร์กิจการครั้งนี้ ทางเพนสกี้ซึ่งเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ของเชฟโรเลตในสหรัฐอเมริกาจะได้รับสิทธิ์ทางการค้าของแบรนด์แซทเทิร์นรวมถึงสินทรัพย์บางอย่างของบริษัท อีกทั้งทางจีเอ็มจะยังรับหน้าที่ในการสนับสนุนการผลิตรถยนต์รุ่นที่กำลังทำตลาดอยู่ตอนนี้ต่อไป ซึ่งก็มีทั้งรุ่น Aura, Vue และ Outlook
จีเอ็มเผยว่า การเทคโอเวอร์ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการช่วยเหลือคนจำนวนกว่า 13,000 คนในแซทเทิร์นไม่ให้ตกงาน และช่วยเหลือดีลเลอร์จำนวนมากกว่า 350 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา แถมยังทำให้แบรนด์แซทเทิร์นยังอยู่ในตลาดต่อไป โดยการโอนย้ายกิจการจากจีเอ็มมายังเพนสกี้จะใช้เวลาพอสมควร และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
แซทเทิร์นถือเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานและเริ่มทำตลาดรถยนต์ในปี 1990 และมียอดขายรวมทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคัน และจากข้อมูลของบริษัทวิจัยอย่าง R.L. Polk เปิดเผยว่าจำนวน 80% ของรถยนต์แซทเทิร์ที่ถูกขายไป ในปัจจุบันยังมีการใช้งานอยู่บนท้องถนน และถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ไม่ใช่แบรนด์ระดับหรูที่ทำคะแนนในการสำรวจด้านความพึงพอใจจากลูกค้าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร
ส่วนฮัมเมอร์ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า Sichuan Tengzhong จากประเทศจีนจัดการเทคโอเวอร์กิจการไปแล้ว โดยจะได้รับสิทธิ์ในเรื่องแบรนด์ของฮัมเมอร์ รวมถึงการสิทธิ์ในการควบคุมการบริหารงานในทุกระดับ และการดูแลในส่วนของดีลเลอร์ของฮัมเมอร์ ขณะที่ส่วนหนึ่งของสัญญาในครั้งนี้คือ ทาง Tengzong จะต้องรับหน้าที่ในการช่วยจีเอ็มในการผลิตชิ้นส่วนและการประกอบรถยนต์ ซึ่งการได้เจ้าของใหม่ในครั้งนี้ทำให้ช่วยรักษางานจำนวน 3,000 อัตราของคนงานในไลน์ผลิตและที่อยู่ในส่วนสำนักงานของฮัมเมอร์เอาไว้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเจรจาและเซ็นสัญญาในขั้นสุดท้ายกันอีกครั้งหนึ่ง และเชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก่อนเข้าสู๋ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อย่างแน่นอน
ในกรณีของแซทเทิร์นไม่มีการพลิกโผ และทางเพนสกี้ได้รับสิทธิ์ในการเทคโอเวอร์กิจการไป โดยยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าครั้งนี้ และทั้ง 2 ฝ่ายได้จัดการเซ็นบันทึกข้อตกลงแห่งความเข้าใจเพื่อให้เป็นที่รับทราบแล้วเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ
การเทคโอเวอร์กิจการครั้งนี้ ทางเพนสกี้ซึ่งเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ของเชฟโรเลตในสหรัฐอเมริกาจะได้รับสิทธิ์ทางการค้าของแบรนด์แซทเทิร์นรวมถึงสินทรัพย์บางอย่างของบริษัท อีกทั้งทางจีเอ็มจะยังรับหน้าที่ในการสนับสนุนการผลิตรถยนต์รุ่นที่กำลังทำตลาดอยู่ตอนนี้ต่อไป ซึ่งก็มีทั้งรุ่น Aura, Vue และ Outlook
จีเอ็มเผยว่า การเทคโอเวอร์ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นการช่วยเหลือคนจำนวนกว่า 13,000 คนในแซทเทิร์นไม่ให้ตกงาน และช่วยเหลือดีลเลอร์จำนวนมากกว่า 350 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกา แถมยังทำให้แบรนด์แซทเทิร์นยังอยู่ในตลาดต่อไป โดยการโอนย้ายกิจการจากจีเอ็มมายังเพนสกี้จะใช้เวลาพอสมควร และคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
แซทเทิร์นถือเป็นแบรนด์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานและเริ่มทำตลาดรถยนต์ในปี 1990 และมียอดขายรวมทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคัน และจากข้อมูลของบริษัทวิจัยอย่าง R.L. Polk เปิดเผยว่าจำนวน 80% ของรถยนต์แซทเทิร์ที่ถูกขายไป ในปัจจุบันยังมีการใช้งานอยู่บนท้องถนน และถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ไม่ใช่แบรนด์ระดับหรูที่ทำคะแนนในการสำรวจด้านความพึงพอใจจากลูกค้าอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร
ส่วนฮัมเมอร์ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า Sichuan Tengzhong จากประเทศจีนจัดการเทคโอเวอร์กิจการไปแล้ว โดยจะได้รับสิทธิ์ในเรื่องแบรนด์ของฮัมเมอร์ รวมถึงการสิทธิ์ในการควบคุมการบริหารงานในทุกระดับ และการดูแลในส่วนของดีลเลอร์ของฮัมเมอร์ ขณะที่ส่วนหนึ่งของสัญญาในครั้งนี้คือ ทาง Tengzong จะต้องรับหน้าที่ในการช่วยจีเอ็มในการผลิตชิ้นส่วนและการประกอบรถยนต์ ซึ่งการได้เจ้าของใหม่ในครั้งนี้ทำให้ช่วยรักษางานจำนวน 3,000 อัตราของคนงานในไลน์ผลิตและที่อยู่ในส่วนสำนักงานของฮัมเมอร์เอาไว้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการเจรจาและเซ็นสัญญาในขั้นสุดท้ายกันอีกครั้งหนึ่ง และเชื่อว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก่อนเข้าสู๋ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้อย่างแน่นอน