xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจ สตีฟ คาร์ไลส์ “GM ไทยขอแค่ 1.5 หมื่นล้านเพื่ออยู่รอด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดใจ "สตีฟ คาร์ไลส์" ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสเอเชีย โอเปอเรชั่น และเจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้กุมบังเหียนของ GM ในภูมิภาคนี้ หลัง GM Corp. ซึ่งเป็นบริษัทฯ แม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยื่นขอล้มละลายและเข้ารับการพิทักษ์ทรัพย์ ดังข่าวที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกขณะนี้

ซึ่งทีมงาน "ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง" รวบรวมคำถาม-คำตอบของผู้บริหารและบรรดาสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ที่เข้าร่วมงานแถลงข่าวของ GM ในวันนี้ (2 มิ.ย.2552) ถึงแนวทางการดำเนินงานต่อไปในอนาคตของ GM ที่มีต่อภูมิภาคนี้และต่อเมืองไทย
สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสเอเชีย โอเปอเรชั่น และเจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
จีเอ็ม ประเทศไทย อยู่ภายใต้การพิทักษ์ทรัพย์หลังการยื่นขอล้มละลายของ GM Corp. ที่สหรัฐอเมริกา หรือไม่?

ไม่เกี่ยว จีเอ็ม ประเทศไทย ไม่ได้ขอยื่นล้มละลายด้วย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินและกระบวนการทางศาลในสหรัฐอเมริกา จะไม่มีผลกระทบกับการดำเนินการในภูมิภาคนี้ และเราคงไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากกระทรวงการคลัง

ผลกระทบที่มีต่อจีเอ็ม ประเทศไทย หลังการขอยื่นล้มละลายของ GM Corp.?

มีด้วยกัน 2 ประการคือ หนึ่งเกี่ยวกับแบรนด์ ความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อความเชื่อมั่นในตราสินค้า ซึ่งแสดงอยู่ในยอดขาย โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราเห็นตัวเลขที่ตกลงอย่างชัดเจน แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว ยอดขายกลับเข้าสู่ภาวะที่น่าพอใจ

ส่วนประการที่สอง คงเป็นเรื่องใหม่ของเรา ที่จะต้องดำเนินงานภายใต้การจัดหางบประมาณด้วยตัวเอง และจะยึดแนวทางการใช้เงินแบบพอเพียง

ภาพรวมยอดขายจีเอ็ม ในภูมิภาคอาเซียนขณะนี้?

ยอดขายของรถจีเอ็มในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค (รวมจีน และออสเตรเลีย) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แม้ตัวเลขจะดูเหมือนเติบโตช้า แต่ถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่วางเอาไว้ ส่วนยอดขายเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนนี้เราครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 3.6% หรือราว 30,000 กว่าคัน

สำหรับโรงงานในเมืองไทย ปกติเรามีกำลังผลิตปีละ 40,000 คัน แบ่งสัดส่วนเป็นส่งออกราว 80% ที่เหลือขายในประเทศไทย ทั้งนี้หลังเกิดวิกฤต ทำให้ยอดส่งออกของเราร่วงลงจากเดิมประมาณ 40-50% หรือเหลือเพียง 54% ของการผลิตทั้งหมด และในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ เรามียอดขายในประเทศไทยราว 5,000 คัน

ทั้งนี้จากวิกฤตดังกล่าวเราจะไม่มีการปลดพนักงานฝ่ายผลิตอีก ปัจจุบันมีอยู่ราว 1,200 คน แต่เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินการ เราได้ประกาศปิดโรงงานประกอบรถยนต์ที่ระยองเป็นเวลา 2 อาทิตย์ นับจากบัดนี้ และคาดว่าจะกลับมาเปิดดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลายๆ ด้านของบริษัทฯ

แนวทางการดำเนินการต่อไปของจีเอ็ม ประเทศไทย?

เราคงจะต้องพยายามลดต้นทุน บริหารสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นส่งเสริมด้านการขายให้แข็งแกร่ง ล่าสุดมีการเปิดโชว์รูมของเชฟโรเลต ใหม่อีกถึง 2 แห่ง

ส่วนแผนงานต่างๆ ยังคงเดินหน้าต่อไปเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ โครงการผลิตเครื่องยนต์ดีเซล และรถปิกอัพใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการขอสนับสนุนด้านเงินทุน ซึ่งเราอยากได้ในรูปแบบของเงินกู้ ขณะที่เรื่องการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเปิดตัวรถรุ่น “ครูซ” (Cruz) ที่ประเทศมาเลยเซีย สำหรับประเทศไทยคาดว่าจะเปิดตัวได้ราวปีหน้า (พ.ศ. 2553)

อยากให้รัฐบาลไทยช่วยเหลืออย่างไร?

เราได้ไปคุยกับรัฐบาลไทยมาแล้ว ซึ่งรัฐบาลให้คำตอบที่เป็นการสนับสนุนด้านจิตใจแก่เราอย่างดีมาก ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในการดำเนินกิจการต่อไป

สิ่งที่จีเอ็มอยากได้มากที่สุดเวลานี้ เพื่อให้บริษัทอยู่รอด?

เงินทุน เราต้องการเงินสำหรับโครงการเครื่องยนต์ดีเซลและปิกอัพใหม่อีก 15,000 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นการลงทุนใส่วนของเครื่องยนต์ดีเซลราว 5,000 ล้านบาทและที่เหลือจะเป็นของการพัฒนารถปิกอัพใหม่ ซึ่งเราคาดว่าจะได้รับคำตอบภายใน 60-90 วัน และหากไม่ได้ก็ต้องหาทางอื่นต่อไป

จีเอ็ม จะทำให้ลูกค้าเข้าใจได้อย่างไรว่าไม่มีผลกระทบ?

ใช้เอกสารอธิบายว่า สิ่งเราพูดวันนี้เป็นความจริง ผลการดำเนินงานของ GM ใหม่ (บริษัทใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังจาก GM Corp. เข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์และล้มละลาย) จะมีตัวเลขที่ดีมาก ซึ่งเราจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง และดำเนินการตามแนวทางควบคุมต้นทุน จัดการคลังสินค้า บริหารงบการขายและการตลาดให้สอดคล้องกับยอดขาย

ถึงบรรทัดนี้คงจะพอทำให้ลูกค้าและผู้บริโภคชาวไทยที่เป็นสาวกของแบรนด์รถยนต์อันดับ 1 ของอเมริกัน ได้พอใจชื้นขึ้นมาบ้าง ว่าอย่างไรจีเอ็มคงยังมีแผนจะสู้ต่อและคงจะไม่ล้มหายตายจากเมืองไทยไปง่ายๆ อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น