เจเนอเรชั่นที่ 2 ของรถพี่ใหญ่สายพันธ์ลุยจากค่ายบีเอ็มดับเบิลยู ภายใต้การทำตลาดในชื่อใหม่ X5 xDrive30d โดยมีชื่อรหัสตัวถังว่า E70 หลังจากที่โฉมก่อนหน้ารหัส E53 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสาวกใบพัดฟ้าขาวทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไทยมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ทำให้ราคาของรถประเภทเอสยูวี (SUV) ถีบตัวสูงขึ้นไปอย่างมากจนเกินกำลังของผู้บริโภค ส่งผลให้ยอดขายของตลาดรถประเภทนี้ในบ้านเราหดตัวต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี
ดังนั้นการทำตลาดของ X5 ในภาวการณ์เช่นนี้จึงต้องเลือกรุ่นย่อยที่เหมาะสม และค่ายใบพัดฟ้าขาวก็มาพบกับเจ้า X5 xDrive30d ซึ่งเป็นรถเครื่องยนต์ดีเซล โดยมีการเปิดตัวแบบไม่โฉ่งฉ่างในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เมื่อปลายปี 2008 และสามารถกวาดยอดขายไปได้นับสิบคัน รวมถึงคันที่นำมาโชว์ก็สามารถขายได้เช่นกัน
ทั้งยังสามารถมียอดจองต่อเนื่องทุกเดือนจนมีการสั่งรถค้างส่งอยู่นับสิบคัน เพราะเหตุอันใดจึงเป็นเช่นนั้น “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสทดลองขับเจ้า X5 xDrive30d เพื่อหาคำเฉลยมาตอบให้กับทุกท่าน โดยเริ่มจากการทำความรู้จัก X5 xDrive30d กันก่อน
ภายนอก หรูหรา สมฐานะ
รูปทรงภายนอกของ X5 xDrive30d ถูกออกแบบใหม่หมด ตัวถังใหญ่กว่าเดิมทุกมิติทั้งยาว กว้างและสูง แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่โตแต่กลับมีค่าสัมประสิทธิ์อากาศเพียง 0.33 เท่านั้น ถือว่าลู่ลมไม่แพ้รถซีดานเลยทีเดียว
ลูกเล่นเพียบพร้อม ไฟหน้าแบบ "ไบซีนอน" พร้อมระบบ Adaptive Head lights ปรับทิศทางการส่องสว่างตามองศาการหมุนพวงมาลัยและทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าที่มืด, เซ็นเซอร์รอบคันโดยจะเตือนเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวาง, ที่ปัดน้ำฝนทำงานตามปริมาณน้ำฝนที่เซ็นเซอร์ตรวจจับได้
ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/55R18 แบบ Runflat Ties และทีเด็ดอีกประการกับระบบ Comfort Access ให้เราสามารถเปิด ประตูได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจ เพียงแค่พกไว้ในกระเป๋า ก็สามารถเปิดประตูได้ ตลอดจนกดปุ่ม Start รถได้ โดยไม่ต้องไขกุญแจ
ภายใน เข้มดุดันสไตล์บิมเมอร์
ภายในห้องโดยสารจะดูเรียบง่ายและหรูหราตามสไตล์ของ BMW วัสดุของคอนโซลหน้าสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกถึงคุณภาพขั้นสูง พร้อมลายไม้ Walnut เบาะนั่งหนังแท้ด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมเมมโมรี่ ส่วนการจัดวางตำแหน่งของปุ่มต่าง ๆ ดูกลมกลืนและลงตัว เฉกเช่นรถรุ่นอื่นของค่ายใบพัดฟ้าขาว และระบบปรับอากาศสามารถแยกปรับอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา
พวงมาลัยทรงสปอร์ตพร้อมสวิตช์ควบคุมแบบมัลติฟังก์ชัน และไฮไลท์ขาประจำกับระบบไฮเทค ไอ-ไดร์ฟ (iDrive) โดยทำงานร่วมกับจอมอนิเตอร์ขนาด 6.5 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงแบบ BMW Professional Audio System with HIFI Loudspeaker System เพียงชี้นิ้วแตะที่ปุ่ม จอจะแสดงผลว่าปุ่มนั้นคืออะไรและหากเป็นสถานีวิทยุก็จะแสดงตัวเลขของคลื่นที่เมมโมรี่เอาไว้ พร้อมด้วยระบบบลูทูธ Bluetooth เสริมความสะดวกด้านการสื่อสารเวลาเดินทาง
เครื่องยนต์ ดีเซลสุดประหยัด
X5 xDrive30d มากับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอมเรล แบบ 6 สูบ แถวเรียง ขนาดความจุ 3.0 ลิตรพร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และจุดเด่น แรงบิด มหาศาลถึง 500 นิวตัน-เมตร ในรอบ 2,000-2,750 รอบ ที่สร้างความแตกต่างให้กับX5 ฉีกหนีคู่แข่งในระดับเดียวกัน
ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา(xDrive) เป็นแบบกระจายกำลัง 40/60 แปรผันตามสภาพการขับขี่ ส่งกำลังโดยคบหากับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ พร้อมระบบ Steptronic โดยเป็นเกียร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ใช้วิธีโยกเพียงเล็กน้อย ช่วยให้กำลังถูกถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องลงตัว พร้อมตัวช่วยด้านการขับเช่นระบบ DSC (Dynamic Stability Control )และ Active Steering ที่ทำงานร่วมกันเรียกว่า Integrated Chassis Management เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถง่ายขึ้น
สมรรถนะ ขับเยี่ยม อัตราเร่งสุดยอด
ความรู้สึกแรกหลังจากรับรถมาจากบีเอ็มดับเบิลยู คือความแรงจากการกดคันเร่ง ชนิดกดปุ๊บ มาปั๊บ ทันใจแรงจริง ไม่เสียชื่อยี่ห้อบิมเมอร์ ให้ความรู้สึกสนุกสนานกับการขับขี่ได้ในทุกย่านความเร็ว แม้ว่าตัวถังจะมีขนาดใหญ่มากตามสไตล์รถเอสยูวี แต่กำลังที่ให้มาถือว่าเหลือเฟือ
เราขับทั้งแบบในเมืองและนอกเมือง ทัศนวิสัยดีเยี่ยมเนื่องจากตัวรถสูงมองเห็นชัดเจนทุกมุม เบาะนั่งนุ่นสบายโอบกระชับสไตล์สปอร์ต จะมีเรื่องของพวงมาลัยอาจจะหนักไปสักหน่อยสำหรับสาวๆ แต่คงไม่เป็นปัญหาสำหรับท่านผู้ชายทุกคน
การขับในเมืองอาจจะมีบ้าง บางมุมที่มองไม่เห็นมอเตอร์ไซค์ การขับขี่ส่วนใหญ่จัดว่าคล่องตัว กระชับกระเฉง ไม่เทอะทะใกล้เคียงกับการใช้รถซีดานขนาดใหญ่ และเมื่อออกนอกเมืองเราลองทำความเร็วการวิ่งระดับเกินกว่า 140 กม./ชม. รถนิ่งเกาะถนนดีมาก เสียงลมดังรบกวนแทบจะไม่ได้ยินเข้ามาในห้องโดยสารเลย ความเร็วส่วนใหญ่ที่เราใช้เดินทางอยู่ราว 120-140 กม./ชม.
จากพิกัดแรงบิดระดับ 500 นิวตันเมตร การเร่งแซงไม่เป็นปัญหาในทุกย่านความเร็ว เร่งเมื่อไหร่มาเมื่อนั้น ขับสนุกไม่เหนื่อยในการเดินทาง ส่วนความเร็วสูงสุดเราเหยียบได้ถึง 190 กม./ชม. ในช่วงถนนว่าง พละกำลังของรถยังคงเหลือสามารถไหลไปได้เร็วมากกว่านี้อีก แต่ทว่าสภาพการจราจรไม่เอื้อ เนื่องจากความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับ 1
การทรงตัวของรถถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่เราชื่นชอบ ต้องขอบคุณระบบช่วงล่างที่คบหากับ ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบดับเบิลวิชโบน ด้านหลังแบบ มัลติ-ไดเมนชั่น ให้การทรงตัวนิ่งและหนึบ ในทุกย่านความเร็ว รวมถึงความนุ่มนวลที่อยู่ในเกณฑ์พอดีๆ
สำหรับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยตลอดการทดลองขับของเราด้วยระยะทางรวมกว่า 200 กม. ตัวเลขตามการแสดงผลหน้าจอระบุ 10.3 กม./ลิตร กับการขับแบบไม่ลดละคันเร่ง บวกกับน้ำหนักตัวของรถ ได้ตัวเลขออกมาแบบนี้ต้องถือว่าประหยัดสุดยอด
สรุป X5 xDrive30d ขับสนุก นั่งสบาย ทั้งแรงแบบรถสปอร์ต หรูหราออพชันครบ แถมประหยัดดั่งปิกอัพ เมื่อหันไปมองค่าตัว ที่บีเอ็มดับเบิลยูตัวไว้ 6.299 ล้านบาท หากมองหารถในระดับเดียวกัน เปรียบเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เจ้า X5 xDrive30d ถือว่าไม่เป็นรองใคร และทั้งหมดที่กล่าวมาจึงเป็นสาเหตุของการขายได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเหนื่อยทุ่มโปรโมชั่นแต่อย่างใด