ข่าวในประเทศ - เปิดทางเลือกพลังงานเชื้อเพลิงรถยนต์ นอกเหนือ LPG และ NGV บริษัทคนไทย “HPI” ประกาศผลิต Hydrogen Power Kit ชุดอุปกรณ์ผลิตพลังงานไฮโดรเจน ใช้ควบคู่กับน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซล คุยเป็นนวัตกรรมเหนือคู่แข่ง ไม่ต้องใช้ถังบรรจุ ติดตั้งง่าย ระบบทำงานอัตโนมัติ ลดปัญหาหลักที่พบในรถยนต์ไฮโดรเจนปัจจุบัน ที่สำคัญใช้พลังงานจากน้ำสะอาด จึงช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 40-60% เคาะราคาขายเริ่มต้น 3.36 หมื่นบาท เผยได้รับความสนใจจากผู้จำหน่ายกว่า 50 แห่งทั่วประเทศสั่งจองนับหมื่นชุด มั่นใจสิ้นปีมียอดขายทะลุแสนชุด
ดร.สิริภพ รักษ์ธนธัช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮโดรเจน เพาว์เวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (HPI) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทรถยนต์เกือบทุกค่าย ได้ทำการศึกษาและพัฒนารถที่ใช้พลังงานก๊าซไฮโดรเจนในการขับเคลื่อนรถยนต์ และในท้องตลาดก็มีผู้ผลิตอิสระอื่นๆ ทำการคิดค้นเรื่องนี้โดยเฉพาะ จึงถือเป็นพลังงานที่อยู่ในความสนใจ และน่าจะมีแนวโน้มสูงในการนำมาใช้จริงในอนาคต ซึ่งขณะนี้เป็นการพัฒนาในรูปแบบของไฮโดรเจนเหลว และต้องเก็บในถังบรรจุ เช่นเดียวกับแอลพีจี และเอ็นจีวี
“ในไทยมีผู้ผลิตอิสระ 4-5 ราย ในการติดตั้งพลังงานไฮโดรเจนกับรถยนต์ทั่วไป แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะมีปัญหาก๊าซไฮโดรเจนผลิตออกมาเกินกว่าอัตราการใช้งาน ความร้อนที่เกิดขึ้นจากระบบการผลิต การตกตะกอนของแร่ธาตุในน้ำที่นำมาใช้หรือตะกรัน และความเสื่อมของแบตเตอรี่ จากปัญหาเหล่านี้ทำให้ทีมวิศวกรและนักวิจัยของเรา นำมาแก้ไขและปรับปรุงจนได้ชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit ที่ผลิตพลังไฮโดรเจนจากน้ำ ผ่านกระบวนทางไฟฟ้า ในการขับเคลื่อนรถยนต์ โดยใช้ร่วมกับพลังงานน้ำมัน ทำให้สามารถประหยัดได้ 40-60%”
ทั้งนี้ชุดอุปกรณ์ผลิตไฮโดรเจนดังกล่าว ได้พัฒนาและออกแบบในลักษณะอุปกรณ์ควบเสริม ที่ใช้ผสมกับเชื้อเพลิงหลัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน หรือดีเซล โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ พร้อมจุดเด่นที่ไม่ต้องมีถังบรรจุ และใช้เทคโนโลยี Ultra Sonic ในการแยกก๊าซไฮโดรเจนจากน้ำ ซึ่งนำมาเป็นเซลล์เชื้อเพลิง ใช้ร่วมกับน้ำมันหลัก
ดร.สิริภพกล่าวว่า ชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit ทำงานอัตโนมัติทั้งระบบ ประกอบด้วย Cell Hydrogen ตัวเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน กล่อง CPU ควบคุมการผลิตไฮโดรเจนให้พอเหมาะตามรอบเครื่องยนต์ จึงไม่กินกระแสไฟ รวมถึงป้องกันกระแสไฟเกิน โดยจะตัดทันทีหากเกิดผิดปกติ ECU ควบคุมปริมาณการจ่ายเชื้อเพลิง ให้กับเครื่องยนต์ร่วมกับพลังงานน้ำมันหลัก และยังป้องกันไฟย้อนกลับ กล่อง Power Control และระบบน้ำในการผลิตไฮโดรเจน ไม่ว่าจะเป็นหม้อน้ำวน หรือนวัตกรรมหล่อเย็น และถังบรรจุน้ำวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจน
“จากระบบของชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit จะเห็นว่าปัญหาของการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในตลาดทั่วไปได้ชัดเจน ซึ่งเป็นนวัตกรรมของเราโดยเฉพาะ และได้มีการจดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว ที่สำคัญเป็นพลังงานที่ได้จากน้ำสะอาด ไม่ว่าจะน้ำจากเครื่องกรองน้ำในบ้าน หรือน้ำขวดที่จำหน่ายทั่วไป ซึ่งจากการทดสอบมาเป็นเวลานานจนมั่นใจ ทั้งความปลอดภัยและประหยัด โดยจากการทดสอบรถเอสยูวีชื่อดัง ระยะทาง 100 กิโลเมตร จากเดิมต้องเติมน้ำมันประมาณ 8 ลิตร แต่เมื่อใช้ชุดอุปกรณ์ไฮโดรเจน เติมน้ำมันเพียง 3.5 ลิตเท่านั้น” ดร.สิริภพกล่าวและว่า
สำหรับชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit รุ่นแรก H40 ใช้ได้กับรถทุกชนิดทั้งเบนซินและดีเซล ในราคาชุดละ 33,600 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ และมีค่าบริการติดตั้ง 3,500 บาท รถบรรทุก 6 ล้อ ราคา 43,200 บาท ค่าติดตั้ง 4,500 บาท และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ราคาชุดละ 57,000 บาท ค่าติดตั้ง 5,500 บาท โดยสามารถติดตั้งได้กับตัวแทนจำหน่าย ที่ผ่านการอบรมวิธีการติดตั้ง และการใช้บริการตามมาตรฐานบริษัท ซึ่งปัจจุบันแต่งตั้งไปแล้ว 56 ศูนย์ทั่วประเทศ
“แม้จะเพิ่งเปิดตัวแต่ได้รับการตอบรับจากผู้แทนจำหน่ายดีมาก โดยมียอดจองแล้วกว่าหมื่นชุด ซึ่งบริษัทมีกำลังการผลิตในระยะแรก 2 หมื่นชุดต่อเดือน คาดว่าภายในสิ้นปีน่าจะมียอดขายกว่า 1 แสนชุด และในจำนวนนี้มีกลุ่มรถองค์กร เช่นราชสีมาแอร์ที่สนใจและเจรจากันอยู่ รวมถึงรถโดยสารรายอื่นๆ หรือรถขนส่งประมาณ 30% และอนาคตจะมีโปรดักต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันที่มีเฉพาะรุ่น H40 ซึ่งประหยัดพลังงานได้ 40-60% โดยพัฒนาให้ประหยัดได้สูงสุดถึง 90% แต่จะไม่ถึง 100% เพราะเทคโนโลยีเครื่องยนต์ปัจจุบันไม่ได้รองรับก๊าซ 100% จึงจำเป็นต้องฟิล์มป้องกันการสึกหรอ” ดร.สิริภพกล่าว
ดร.สิริภพ รักษ์ธนธัช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮโดรเจน เพาว์เวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (HPI) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทรถยนต์เกือบทุกค่าย ได้ทำการศึกษาและพัฒนารถที่ใช้พลังงานก๊าซไฮโดรเจนในการขับเคลื่อนรถยนต์ และในท้องตลาดก็มีผู้ผลิตอิสระอื่นๆ ทำการคิดค้นเรื่องนี้โดยเฉพาะ จึงถือเป็นพลังงานที่อยู่ในความสนใจ และน่าจะมีแนวโน้มสูงในการนำมาใช้จริงในอนาคต ซึ่งขณะนี้เป็นการพัฒนาในรูปแบบของไฮโดรเจนเหลว และต้องเก็บในถังบรรจุ เช่นเดียวกับแอลพีจี และเอ็นจีวี
“ในไทยมีผู้ผลิตอิสระ 4-5 ราย ในการติดตั้งพลังงานไฮโดรเจนกับรถยนต์ทั่วไป แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะมีปัญหาก๊าซไฮโดรเจนผลิตออกมาเกินกว่าอัตราการใช้งาน ความร้อนที่เกิดขึ้นจากระบบการผลิต การตกตะกอนของแร่ธาตุในน้ำที่นำมาใช้หรือตะกรัน และความเสื่อมของแบตเตอรี่ จากปัญหาเหล่านี้ทำให้ทีมวิศวกรและนักวิจัยของเรา นำมาแก้ไขและปรับปรุงจนได้ชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit ที่ผลิตพลังไฮโดรเจนจากน้ำ ผ่านกระบวนทางไฟฟ้า ในการขับเคลื่อนรถยนต์ โดยใช้ร่วมกับพลังงานน้ำมัน ทำให้สามารถประหยัดได้ 40-60%”
ทั้งนี้ชุดอุปกรณ์ผลิตไฮโดรเจนดังกล่าว ได้พัฒนาและออกแบบในลักษณะอุปกรณ์ควบเสริม ที่ใช้ผสมกับเชื้อเพลิงหลัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน หรือดีเซล โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ พร้อมจุดเด่นที่ไม่ต้องมีถังบรรจุ และใช้เทคโนโลยี Ultra Sonic ในการแยกก๊าซไฮโดรเจนจากน้ำ ซึ่งนำมาเป็นเซลล์เชื้อเพลิง ใช้ร่วมกับน้ำมันหลัก
ดร.สิริภพกล่าวว่า ชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit ทำงานอัตโนมัติทั้งระบบ ประกอบด้วย Cell Hydrogen ตัวเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน กล่อง CPU ควบคุมการผลิตไฮโดรเจนให้พอเหมาะตามรอบเครื่องยนต์ จึงไม่กินกระแสไฟ รวมถึงป้องกันกระแสไฟเกิน โดยจะตัดทันทีหากเกิดผิดปกติ ECU ควบคุมปริมาณการจ่ายเชื้อเพลิง ให้กับเครื่องยนต์ร่วมกับพลังงานน้ำมันหลัก และยังป้องกันไฟย้อนกลับ กล่อง Power Control และระบบน้ำในการผลิตไฮโดรเจน ไม่ว่าจะเป็นหม้อน้ำวน หรือนวัตกรรมหล่อเย็น และถังบรรจุน้ำวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจน
“จากระบบของชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit จะเห็นว่าปัญหาของการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนในตลาดทั่วไปได้ชัดเจน ซึ่งเป็นนวัตกรรมของเราโดยเฉพาะ และได้มีการจดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว ที่สำคัญเป็นพลังงานที่ได้จากน้ำสะอาด ไม่ว่าจะน้ำจากเครื่องกรองน้ำในบ้าน หรือน้ำขวดที่จำหน่ายทั่วไป ซึ่งจากการทดสอบมาเป็นเวลานานจนมั่นใจ ทั้งความปลอดภัยและประหยัด โดยจากการทดสอบรถเอสยูวีชื่อดัง ระยะทาง 100 กิโลเมตร จากเดิมต้องเติมน้ำมันประมาณ 8 ลิตร แต่เมื่อใช้ชุดอุปกรณ์ไฮโดรเจน เติมน้ำมันเพียง 3.5 ลิตเท่านั้น” ดร.สิริภพกล่าวและว่า
สำหรับชุดอุปกรณ์ Hydrogen Power Kit รุ่นแรก H40 ใช้ได้กับรถทุกชนิดทั้งเบนซินและดีเซล ในราคาชุดละ 33,600 บาท สำหรับรถ 4 ล้อ และมีค่าบริการติดตั้ง 3,500 บาท รถบรรทุก 6 ล้อ ราคา 43,200 บาท ค่าติดตั้ง 4,500 บาท และรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ราคาชุดละ 57,000 บาท ค่าติดตั้ง 5,500 บาท โดยสามารถติดตั้งได้กับตัวแทนจำหน่าย ที่ผ่านการอบรมวิธีการติดตั้ง และการใช้บริการตามมาตรฐานบริษัท ซึ่งปัจจุบันแต่งตั้งไปแล้ว 56 ศูนย์ทั่วประเทศ
“แม้จะเพิ่งเปิดตัวแต่ได้รับการตอบรับจากผู้แทนจำหน่ายดีมาก โดยมียอดจองแล้วกว่าหมื่นชุด ซึ่งบริษัทมีกำลังการผลิตในระยะแรก 2 หมื่นชุดต่อเดือน คาดว่าภายในสิ้นปีน่าจะมียอดขายกว่า 1 แสนชุด และในจำนวนนี้มีกลุ่มรถองค์กร เช่นราชสีมาแอร์ที่สนใจและเจรจากันอยู่ รวมถึงรถโดยสารรายอื่นๆ หรือรถขนส่งประมาณ 30% และอนาคตจะมีโปรดักต์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันที่มีเฉพาะรุ่น H40 ซึ่งประหยัดพลังงานได้ 40-60% โดยพัฒนาให้ประหยัดได้สูงสุดถึง 90% แต่จะไม่ถึง 100% เพราะเทคโนโลยีเครื่องยนต์ปัจจุบันไม่ได้รองรับก๊าซ 100% จึงจำเป็นต้องฟิล์มป้องกันการสึกหรอ” ดร.สิริภพกล่าว