ปล่อยทีเด็ดออกมากันอย่างต่อเนื่องชนิดแทบไม่ได้หยุดพักกันเลยสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เพราะนับจากงานโชว์ที่ดีทรอยต์ในเดือนมกราคมไล่มาจนถึงงานชิคาโก้เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนย้ายวิกไปสร้างสีสันที่เจนีวาในเดือนมีนาคม ถึงตอนนี้เป็นคิวของอีกงานใหญ่อย่างนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10-19 เมษายน ที่อาคาร Javits Center
ในปัจจุบัน นิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ถือเป็นงานโชว์อีกรายการในสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงไม่แพ้งานที่ดีทรอยต์ และแอลเอ แถมยังมีการยกระดับตัวงานให้เป็นนานาชาติ หรือ International (สังเกตได้จากชื่องานแบบเต็มๆ ซึ่งเป็น New York International Auto Show) นั่นก็เลยทำให้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์หลายต่างก็เตรียมของใหม่ๆ ออกมาเปิดตัว และในปีนี้รถยนต์ใหม่ทั้งต้นแบบและในสายการผลิตก็มีให้สัมผัสหลายรุ่นเหมือนกัน
เจ้าบ้านยังเงียบแต่ไม่ถึงกับหงอย
แม้สภาพโดยรวมของตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกา และสถานการณ์ของจีเอ็มและไครสเลอร์กับการพึ่งเงินช่วยเหลืออีกก้อนจากทางรัฐบาลจะยังไม่ได้รับไฟเขียว แต่ต้องยอมรับว่าทั้ง 2 ค่ายยังพยายามกระตุ้นตลาดรถยนต์ในประเทศ และสร้างสีสันใหม่ๆ ในงานนี้อย่างมากด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
สิ่งที่น่าสนใจคือ บนเวทีของค่ายไครสเลอร์มีการนำรถยนต์ของเฟียตรุ่น 500 มาเปิดตัว และทางจิม เพรสส์ ประธานของบริษัทบอกว่า ‘ผมไม่อยากพูดถึงรายละเอียดอะไรทั้งนั้น’ โดยในตอนนี้สถานการณ์การร่วมมือเป็นพันธมิตรระหว่างไครสเลอร์กับเฟียตยังไม่ได้ข้อสรุปและคำอนุญาตจากรัฐบาลเสียที หลังจากที่โดนเลื่อนการตัดสินใจมาจากปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การนำเฟียต 500 มาจัดแสดงกันเป็นเรื่องเป็นราวครั้งนี้อาจจะเป็นการบ่งบอกนัยๆ ว่าโอกาสที่ไครสเลอร์และเฟียตจะได้จับมือกันก็มีสูงเหมือนกัน
นอกจาก 500 แล้ว ทางด้านจี๊ป ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือไครสเลอร์ ก็จัดการเผยโฉมใหม่ของแกรนด์ เชโรกีออกมา พร้อมรูปลักษณ์สวยสะดุดตาบนตัวถังแบบ 5 ประตู วางเครื่องยนต์แบบ FFV รุ่นใหม่ในรหัส Phoenix วี6 3,600 ซีซี 280 แรงม้าเป็นขุมพลัง และมีรุ่นเฮมี่ วี8 5,700 ซีซี 360 แรงม้าเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ชอบความแรง
สำหรับจีเอ็มหลังการเปลี่ยนนายใหม่จากริค แวโกเนอร์มาเป็นฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ความเคลื่อนไหวในงานนี้ก็เลยไม่มีอะไรใหม่มากมาย มีของใหม่สำหรับตลาดเพียงรุ่นเดียว คือ จีเอ็มซี เทอร์เรน เอสยูวีขนาดกลาง นอกนั้นก็เป็นรถยนต์ที่เคยเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ เช่น แคดิลแล็ก ซีทีเอส แวกอน, เชฟโรเลต เอควิน็อกซ์, เชฟโรเลต สปาร์ค, บูอิค ลาครอสส์ หรือ ซาบ 9-3เอ็กซ์ โดยมีต้นแบบที่เรียกว่า P.U.M.A ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับ Segway เป็นดาวเด่น
จะว่าไปแล้ว P.U.M.A. ซึ่งย่อมาจาก Personal Urban Mobility and Accessibility มีแนวคิดไม่ต่างจากบรรดารถยนต์แบบที่นั่งเดี่ยวซึ่งโตโยต้าเคยนำเสนอผ่านงานมอเตอร์โชว์ที่โตเกียวมาแล้วหลายต่อหลายเจนเนอเรชัน เพียงแต่ของจีเอ็มดัดแปลงให้เป็นแบบ 2 ที่นั่ง และเป็นยานยนต์สำหรับคนเมืองเพื่อใช้ในการเดินทางโดยเน้นความคล่องตัว ส่วนเรื่องจะผลิตหรือไม่นั้น ไม่มีการเปิดเผย
สีสันจากเอเชีย
น่าจะเรียกว่าเป็นไฮไลต์อย่างแท้จริงสำหรับนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ในปีนี้ เพราะแม้ว่าแต่ละแบรนด์จะโดนมรสุมกระหน่ำกันชนิดเจ็บตัวมากบ้างน้อยบ้างไปตามๆ กัน แต่ทว่าก็ยังเตรียมของใหม่เอาไว้รอท่าหลายรุ่น
เริ่มจากซูบารุกับการเผยโฉมโมเดลเชนจ์ของเลกาซี่ใหม่ ตัวถังซีดานซึ่งจะเริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้กับเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี 170 แรงม้า ตามด้วย 2,500 ซีซี เทอร์โบ 265 แรงม้า และแบบ 6 สูบนอน 3,600 ซีซี 256 แรงม้า ส่วนอีกเวอร์ชันที่มาพร้อมกันคือ แวกอนยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อในชื่อเอาท์แบ็ก ซึ่งมีขายเฉพาะรุ่น 2,500 และ 3,600 ซีซีเท่านั้น
ตามด้วยนิสสันกับการเผยโฉมตัวถังที่ 2 ของสปอร์ตรุ่นดัง 370Z โดยคราวนี้เป็นแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ซึ่งมีสเปกไม่แตกต่างจากรุ่นคูเป้ ขณะที่ฮอนด้าและแบรนด์หรูอย่างอาคูรามีต้นแบบ 2 รุ่นมาจัดแสดง โดยค่ายแรกจับเอาเอสยูวีรุ่นดังในสหรัฐอเมริกาอย่างเอเลเมนท์มาแต่งใหม่เอาใจคนรักหมา ขณะที่อาคูราวางแผนอัพตัวเองขึ้นไปลุยตลาดเอสยูวีมาดสปอร์ตระดับหรูด้วยต้นแบบรุ่น ZDX ซึ่งว่ากันว่าจะมีขายในปี 2011 และเป็นคู่ปรับโดยตรงของบีเอ็มดับเบิลยู X6
โตโยต้าไม่มีอะไรใหม่สำหรับแบรนด์ตัวเอง แต่เล่นง่ายกับแบรนด์น้องอย่างไซออนด้วยการจับเอาซูเปอร์จิ๋วรุ่น iQ ที่มีขายอยู่ในญี่ปุ่นและยุโรปมาเตรียมขายในสหรัฐอเมริกาโดยแปะโลโก้ของไซออน และคราวนี้อุ่นเครื่องทำความรู้จักกันก่อนด้วยตัวแต่งซึ่งเป็นต้นแบบสีเหลืองสด ก่อนจะมีขายจริงไม่เกินปลายปี 2010
สำหรับมิตซูบิชิกระตุ้นตลาดเอสยูวีด้วยโฉมใหม่ของเอาท์แลนเดอร์ ซึ่งการเปลี่ยนโฉมครั้งนี้เล่นเอาอึ้ง เพราะว่าเป็นการจับเอาหน้าตาของแลนเซอร์ อีโวลูชัน X มาเป็นแม่แบบและดัดแปลงใส่ในเอสยูวีรุ่นนี้ โดยคันที่นำมาเปิดตัวในงานยังเป็นต้นแบบในชื่อเอาท์แลนเดอร์ จีที ส่วนคันจริงสำหรับขาย ซึ่งคาดว่าหน้าตาไม่ต่างจากนี้ จะเปิดตัวปลายปีนี้
ทางฝั่งเกาหลีทั้งเกียและฮุนไดต่างโชว์ผลงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งเกียเจาะตลาดคอมแพ็กต์คูเป้ด้วยการเผยโฉมรุ่น 2 ประตูของฟอร์เตซึ่งมีหน้าตาที่ถูกดัดแปลงมาจากต้นแบบที่เคยเปิดตัวในงานนี้เมื่อปี 2007 ด้วยชื่อ KOUP และเกียก็ใช้ชื่อนี้ในการทำตลาดด้วยเป็นเกีย ฟอร์เต KOUP มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี 165 แรงม้า และ 2,400 ซีซี 173 แรงม้า
ส่วนฮุนไดนอกจากการเจาะตลาดซูเปอร์หรูด้วยการนำโฉมใหม่ของ Equus มาเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา พร้อมกับตั้งราคาขายแบบเอาเรื่องชนิด 100,000 เหรียญสหรัฐฯ มีทอนนิดหน่อยแล้ว ก็ยังมีต้นแบบที่ชื่อ Nuvis ซึ่งว่ากันว่าเป็นผลงานแอบแฝงในด้านดีไซน์ที่ฮุนไดจะนำมาใช้กับเอสยูวีรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในอนาคต
ทัพยุโรปนำทีมโดยเยอรมนี
สำหรับแบรนด์ยุโรปในงานนี้ต้องบอกว่าผูกขาดโดยแบรนด์จากเยอรมนีเป็นหลัก เริ่มจากบีเอ็มดับเบิลยูกับการเจาะตลาดเอสยูวีด้วยความแรง กับรหัส M ที่วางขายกับ X5 และ X6 โดยเพิ่มความเร้าใจให้กับเครื่องยนต์วี8 เทอร์โบคู่ 4,400 ซีซี ให้มีกำลังขับเคลื่อนขึ้นมาอยู่ในระดับ 555 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ใช้เวลาในระดับ 4.7 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์หันมาเน้นตลาดประหยัดกับเครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งวางขายกับเอสยูวี ML450 Hybrid รีดกำลังทั้งระบบออกมาได้ 340 แรงม้าจากการทำงานของเครื่องยนต์วี6 3,500 ซีซี และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 62 และ 60 กิโลวัตต์ 2 ตัวที่ประจำอยู่บนเพลาหน้าและเพลาหลัง ตามด้วยรุ่นบลูเท็กของ E-Class ซีดาน และตัวแรงในรหัส E63AMG
ทางโฟล์คสวาเกนยืนยันแล้วว่าจะมีการนำคอมแพ็กต์ตัวแรงอย่างกอล์ฟ GTI เข้ามาขายในสหรัฐอเมริกา โดยที่ต้นแบบรุ่น Up! กลายเป็นหัวข้อสนทนาอีกครั้งหลังจากที่เคยมีข่าวว่าโฟล์คสวาเกนจะผลิตออกขายในตลาด ก่อนที่จะประกาศไม่เดินหน้าโครงการต่อไป
สำหรับคราวนี้ข่าวยืนยันว่าโฟล์คสวาเกนเอาจริง และจะมีผลิตขายแน่นอน เพราะเจาะตลาดรถยนต์ราคาประหยัด คงเพิ่งจะนึกได้ว่าน่าสนใจหลังจากที่เฟียต 500 และทาทา นาโน ถูกปล่อยออกมาและได้รับความนิยมจากลูกค้าในยุโรปและอินเดียอย่างมาก