ข่าวในประเทศ - กรมการขนส่งทางบก กวดขัน “ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” ส่งผู้ตรวจการตรวจสอบความพร้อมรถโดยสารและผู้ขับรถ ณ สถานีขนส่งและบนถนนสายหลักสู่ส่วนภูมิภาค พร้อมรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์
ชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รับนโยบายจาก นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในการเตรียมความพร้อมรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งมีนโยบายให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะต้องเป็นศูนย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยในเดือนมีนาคม 2552 กรมการขนส่งทางบก ได้ส่งผู้ตรวจการออกตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและผู้ขับรถภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และบนถนนสายหลักจากกรุงเทพมหานครไปยังส่วนภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเดินทาง ของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
ปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สามารถขับรถได้ แต่เนื่องจากผู้ขับรถโดยสารสาธารณะซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะสร้างความสูญเสียร้ายแรงกว่ารถขนาดเล็ก อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยมีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก กวดขันให้ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะจะต้องไม่เสพสิ่งมึนเมาก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะต้องเป็นศูนย์ ซึ่งหากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนจะสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่และเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถใหม่ทันที
สำหรับผลการตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถ ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารและบนถนนสายหลักสู่ส่วนภูมิภาคใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี สิงห์บุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 2- 20 มีนาคมที่ผ่านมา จำนวนทั้งสิ้น 18,823 คัน พบผู้กระทำผิด จำนวน 957 ราย เป็นรถโดยสาร ประจำทาง ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 621 ราย และรถโดยสารขนาดเล็ก ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2522 จำนวน 39 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง ใช้รถผิดประเภท และใช้รถที่ไม่จดทะเบียนและไม่ชำระภาษี โดยได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับ ณ จุดตรวจ จำนวน 525 ราย คิดเป็นเงินค่าปรับทั้งสิ้น 306,800 บาท ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของ พนักงานขับรถ จำนวน 18,396 ราย ไม่พบผู้มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดแม้แต่รายเดียว
นายชัยรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ผู้ประกอบการขนส่ง เข้มงวดตรวจสอบความพร้อม ของตัวรถและพนักงานขับรถก่อนออกให้บริการประชาชน เพื่อให้การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2552 นี้ เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยตามเป้าหมาย “สงกรานต์ปลอดภัย ทุกทิศทั่วไทย ใส่ใจทั้งตัวคนและตัวรถ”
สำหรับประชาชนที่พบเห็นรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการให้บริการ ร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ หมายเลข 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
ชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้รับนโยบายจาก นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในการเตรียมความพร้อมรับการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งมีนโยบายให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะต้องเป็นศูนย์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร โดยในเดือนมีนาคม 2552 กรมการขนส่งทางบก ได้ส่งผู้ตรวจการออกตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและผู้ขับรถภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และบนถนนสายหลักจากกรุงเทพมหานครไปยังส่วนภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเดินทาง ของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
ปัจจุบันกฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์สามารถขับรถได้ แต่เนื่องจากผู้ขับรถโดยสารสาธารณะซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะสร้างความสูญเสียร้ายแรงกว่ารถขนาดเล็ก อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคมจึงได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยมีนโยบายให้กรมการขนส่งทางบก กวดขันให้ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะจะต้องไม่เสพสิ่งมึนเมาก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะต้องเป็นศูนย์ ซึ่งหากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนจะสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่และเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถใหม่ทันที
สำหรับผลการตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถ ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารและบนถนนสายหลักสู่ส่วนภูมิภาคใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี สิงห์บุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 2- 20 มีนาคมที่ผ่านมา จำนวนทั้งสิ้น 18,823 คัน พบผู้กระทำผิด จำนวน 957 ราย เป็นรถโดยสาร ประจำทาง ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จำนวน 621 ราย และรถโดยสารขนาดเล็ก ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2522 จำนวน 39 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ อุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง ใช้รถผิดประเภท และใช้รถที่ไม่จดทะเบียนและไม่ชำระภาษี โดยได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับ ณ จุดตรวจ จำนวน 525 ราย คิดเป็นเงินค่าปรับทั้งสิ้น 306,800 บาท ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของ พนักงานขับรถ จำนวน 18,396 ราย ไม่พบผู้มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดแม้แต่รายเดียว
นายชัยรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้ผู้ประกอบการขนส่ง เข้มงวดตรวจสอบความพร้อม ของตัวรถและพนักงานขับรถก่อนออกให้บริการประชาชน เพื่อให้การเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2552 นี้ เป็นการเดินทางที่ปลอดภัยตามเป้าหมาย “สงกรานต์ปลอดภัย ทุกทิศทั่วไทย ใส่ใจทั้งตัวคนและตัวรถ”
สำหรับประชาชนที่พบเห็นรถโดยสารไม่ปลอดภัย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการให้บริการ ร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ หมายเลข 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง