ข่าวในประเทศ - กรมการขนส่งทางบก เผยผลวิจัยอุบัติเหตุ ระบุผู้ขับขี่รถโดยสารกว่า 90% ไม่ได้ผ่านโรงเรียนสอนขับรถ เร่งผลิตนักขับรถมืออาชีพ เปิดสอนขับรถบรรทุกและรถโดยสารแก่ผู้ว่างงานฟรี
ชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนของ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าในแต่ละปีมีรถโดยสารขนาดใหญ่ เกิดอุบัติเหตุสูงถึงปีละ 3-4 พันคัน ขณะที่ผลสำรวจข้อมูลผู้ขับรถโดยสารของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่ามีเพียง 7% เท่านั้น ที่ผ่านโรงเรียนสอนขับรถ
ในปี 2550 ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นถึง 101,642 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 12,477 ราย บาดเจ็บ 78,871 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 4,618 ล้านบาท โดยในจำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุ 160,891 คัน เป็นรถโดยสารขนาดใหญ่ถึง 3,131 คัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผู้ขับรถขาดทักษะ การขับขี่ที่ปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่พบว่า ผู้ขับรถโดยสารถึง48% ที่เรียนรู้วิธีขับรถด้วยตนเอง รองลงมา 23% เคยเป็นเด็กประจำรถมาก่อน โดยมีเพียง 7% เท่านั้น ที่เรียนจากโรงเรียนสอนขับรถ
ดังนั้นกรมการขนส่งทางบก จึงเร่งยกระดับมาตรฐานผู้ขับรถ รวมทั้งการเรียนการสอนขับรถยนต์ของประเทศ ด้วยการขอความร่วมมือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ปรับปรุงและจัดหาอุปกรณ์ฝึกหัดขับรถที่ทันสมัย และจัดตั้งเป็น "ศูนย์สอนขับรถและพัฒนาศักยภาพผู้ขับรถยนต์" พร้อมทั้ง ส่งเสริมให้โรงเรียนสอนขับรถเอกชนที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก จำนวน 16 แห่ง ใช้ระบบ E-exam เพื่อให้ทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถเป็นมาตรฐานเดียวกัน
นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบก ยังได้ร่วมสร้างโอกาสในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ด้วยการผลิตผู้ขับรถคุณภาพออกสู่ท้องถนน กับโครงการ "สร้างนักขับรถมืออาชีพ" ด้วยการเปิดสอนขับรถบรรทุกและ รถโดยสารแก่ผู้ว่างงานฟรี โดยแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรระยะสั้น 1 เดือน สอนผู้ที่ขับรถยนต์ ขนาดเล็กเป็นแล้วต้องการเรียนขับรถขนส่งขนาดใหญ่เพื่อประกอบอาชีพ และหลักสูตรระยะยาว 2 เดือน จะเริ่มสอนตั้งแต่ผู้ที่ยังขับรถไม่เป็นจนสามารถขับรถขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการนอกจากจะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนแล้ว ยังมีที่พักและอาหารไว้บริการด้วย
โดยผู้ที่เรียนจบหลักสูตรจะได้รับใบอนุญาตผู้ประจำรถ ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาชีพพนักงานขับรถบรรทุกหรือรถโดยสาร ได้ทันที โดยไม่ต้องทดสอบใดๆอีก คาดว่าจะเปิดสอนได้ภายในเดือนมีนาคม 2552 นี้
ผู้สนใจเรียนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาหลักสูตรและโรงเรียนการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2272-3260 หรือ Call Center 1584
ชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนของ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าในแต่ละปีมีรถโดยสารขนาดใหญ่ เกิดอุบัติเหตุสูงถึงปีละ 3-4 พันคัน ขณะที่ผลสำรวจข้อมูลผู้ขับรถโดยสารของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่ามีเพียง 7% เท่านั้น ที่ผ่านโรงเรียนสอนขับรถ
ในปี 2550 ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นถึง 101,642 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 12,477 ราย บาดเจ็บ 78,871 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 4,618 ล้านบาท โดยในจำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุ 160,891 คัน เป็นรถโดยสารขนาดใหญ่ถึง 3,131 คัน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผู้ขับรถขาดทักษะ การขับขี่ที่ปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่พบว่า ผู้ขับรถโดยสารถึง48% ที่เรียนรู้วิธีขับรถด้วยตนเอง รองลงมา 23% เคยเป็นเด็กประจำรถมาก่อน โดยมีเพียง 7% เท่านั้น ที่เรียนจากโรงเรียนสอนขับรถ
ดังนั้นกรมการขนส่งทางบก จึงเร่งยกระดับมาตรฐานผู้ขับรถ รวมทั้งการเรียนการสอนขับรถยนต์ของประเทศ ด้วยการขอความร่วมมือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ปรับปรุงและจัดหาอุปกรณ์ฝึกหัดขับรถที่ทันสมัย และจัดตั้งเป็น "ศูนย์สอนขับรถและพัฒนาศักยภาพผู้ขับรถยนต์" พร้อมทั้ง ส่งเสริมให้โรงเรียนสอนขับรถเอกชนที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก จำนวน 16 แห่ง ใช้ระบบ E-exam เพื่อให้ทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถเป็นมาตรฐานเดียวกัน
นอกจากนี้กรมการขนส่งทางบก ยังได้ร่วมสร้างโอกาสในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ด้วยการผลิตผู้ขับรถคุณภาพออกสู่ท้องถนน กับโครงการ "สร้างนักขับรถมืออาชีพ" ด้วยการเปิดสอนขับรถบรรทุกและ รถโดยสารแก่ผู้ว่างงานฟรี โดยแบ่งออกเป็น 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรระยะสั้น 1 เดือน สอนผู้ที่ขับรถยนต์ ขนาดเล็กเป็นแล้วต้องการเรียนขับรถขนส่งขนาดใหญ่เพื่อประกอบอาชีพ และหลักสูตรระยะยาว 2 เดือน จะเริ่มสอนตั้งแต่ผู้ที่ยังขับรถไม่เป็นจนสามารถขับรถขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการนอกจากจะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนแล้ว ยังมีที่พักและอาหารไว้บริการด้วย
โดยผู้ที่เรียนจบหลักสูตรจะได้รับใบอนุญาตผู้ประจำรถ ซึ่งสามารถนำไปประกอบอาชีพพนักงานขับรถบรรทุกหรือรถโดยสาร ได้ทันที โดยไม่ต้องทดสอบใดๆอีก คาดว่าจะเปิดสอนได้ภายในเดือนมีนาคม 2552 นี้
ผู้สนใจเรียนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาหลักสูตรและโรงเรียนการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2272-3260 หรือ Call Center 1584