เปิดฉากปีวัวบ้า! ทำเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ซีดไปตามๆ กัน ยอดขายติดลบถ้วนหน้า ทั้งตลาดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เช่นเดียวกับตลาดส่งออกดิ่งเหวเช่นเดียวกัน ส่งผลให้บรรยากาศตลาดรถไทยหงอยสุดๆ แม้งานแสดงรถยนต์รายการใหญ่ประจำต้นปี จะงวดเข้ามาทุกขณะแล้วก็ตาม แถมยังมีข่าวหลายค่ายรถถอนตัวจากการร่วมงานอีก ดังนั้นจึงน่าสนใจว่า “งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2009” ที่จะเริ่มวันที่ 24 มีนาคม -6 เมษายนนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา จะสามารถปลุกกระแสตลาดรถ ให้กลับมาคึกคักหรือไม่?… “ปราจิน เอี่ยมลำเนา” ประธานจัดงานฯ คือผู้ที่ตอบได้ดีที่สุด!
มีบ.รถถอนและมาใหม่หรือไม่
ปีนี้มีบริษัทรถที่ถอนตัวออกไป เช่น วอลโว่, ซูซูกิ, ซูบารุ และกลุ่มยนตรกิจสายคุณวิเชียร (ลีนุตพงษ์) ซึ่งมีรถยนต์ในเครือยี่ห้อออดี้, เกีย และซีตรอง แต่ก็มีเข้ามาใหม่ทดแทนอย่าง โปรตตอน และยี่ห้อเชอรี่จากจีน นำเข้าโดยทางไทยยานยนต์กรุ๊ป ของคุณวิทิต(ลีนุตพงษ์) เป็นต้น
จริงๆ แล้วที่ทางยนตรกิจไม่ได้เข้าร่วม เป็นเพราะการประสานงานผิดพลาด เดิมเราส่งเอกสารไปที่เดียวเขาก็รวมกันมา แต่ครั้งนี้ทางยนตรกิจได้มีการแยกธุรกิจออกจากกัน เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะตกลงกันยังไง เลยกลายเป็นว่าทางฝ่ายคุณวิทิตเซ็นมาก่อนจึงได้พื้นที่เดิมไป แต่เรากำลังจะมีการพูดคุยกับทางคุณวิเชียร เพื่อหาทางออกร่วมกันอยู่ อาจจะมีการนำออดี้เข้ามาร่วมงานก็ได้ ส่วนยี่ห้ออื่นๆ เป็นไปตามนโยบายของเขา บ้างก็ไม่พร้อม ไม่มีรถ และเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งเราเข้าใจในสภาวะอย่างนี้
ส่งผลต่อบรรยากาศจัดงาน
เป็นธรรมดาของสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ งานใหญ่ระดับโลกเช่นแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ หรือโตเกียว มอเตอร์โชว์ เขาก็มีการถอนตัวเช่นกัน ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร แต่เราก็มียี่ห้อใหม่ๆ เข้ามาทดแทน พื้นที่แสดงรถยนต์ยังเต็มเช่นเดิม
คาดยอดขายและคนมาชมงาน
น่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คนมาชมงานประมาณ 1.4 ล้านคน และซื้อรถอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นคัน ซึ่งคิดออกมาก็อยู่ที่ไม่เกิน 1% ของคนมาชมงาน ตรงนี้อยากจะฝากข้อสังเกตุ งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เป็นเวทีที่แสดงและขายรถโดยตรงยังทำได้แค่นี้ แล้วบริษัทที่หันไปจัดแสดงรถในห้างสรรพสินค้าแทน ที่วันเสาร์-อาทิตย์มีคนเข้าห้างวันละหลักแสนคน และเขาไม่ตั้งใจมาซื้อหรือดูรถโดยตรง แล้วเปอร์เซ็นต์การขายรถจะสักเท่าไหร่ คิดเป็นสัก 0.00...% ซะละมั่ง
สภาวะนี้ค่ายรถต้องทำอย่างไร
อยากจะฝากบอกค่ายรถที่มาร่วมงาน คุณจ่ายเงินมาแล้วต้องลุยเต็มที่ อย่าไปหงอยตามบรรยากาศ ต้องคิดว่าจะทำยังไง? ในสภาวะอย่างนี้คนจะซื้อรถ เราต้องทำให้มีความคึกคัก ผมขอยกตัวอย่างค่ายอีซูซุที่เข้าสู้ไม่ถอย ไม่หยุด และไม่ยอมแพ้ จะเห็นว่าเขาเดินหน้าจัดกิจกรรม ทำทุกอย่างเพื่อให้บรรกาศดูดี อย่างโรดโชว์ที่แดนเนรมิตเมื่อเร็วๆ นี้ วันเดียวเขาทำยอดขายได้ 1,400 คัน แทบไม่น่าเชื่อว่าสภาวะแบบนี้เขาทำได้ยังไง? แบบนี้ซิที่จะทำให้ตลาดกลับมา แสดงให้เห็นว่าตลาดยังไปได้ เพียงแต่อาจจะมีปัญหาไฟแนนซ์ไม่ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งต้องแก้ไขและทำอย่างไรให้เขาปล่อยออกมา
รัฐบาลหรือฝ่ายอื่นๆ ต้องช่วยด้วย
แน่นอนหากทุกฝ่ายมัวแต่พูดว่า แย่! มันก็ทำให้บรรยากาศเป็นไปตามนั้น หรือแม้แต่นักวิชาการก็ต้องช่วย คุณอาจจะบอกว่าเศรษฐกิจมันแย่อย่างนั้นอย่างนี้ได้ แต่ก็ต้องบอกด้วยว่าจะมีทางออกให้กับประเทศและเศรษฐกิจไทยยังไงบ้าง? ซึ่งแค่วิจารณ์ไม่ช่วยหาทางออก ถือว่าไม่เหมาะสม แม้แต่สื่อมวลชนเองก็ต้องช่วยกัน โดยนำเสนอข่าวให้รอบด้านทั้งเชิงบวกและลบ และต้องวิเคราะห์ให้เห็นภาพที่แท้จริง ทั้งหมดผมต้องการให้ทุกคนช่วยกันหาทางออก
บางกอกฯ มอเตอร์โชว์จะช่วยยังไง
แม้เศรษฐกิจจะซบเซา แต่เราจะทำสวนกระแส งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ จะทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม สร้างสีสันดึงบรรยากาศให้คึกคัก เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนกลับมา โดยเราจะปรับดีไซน์ของงานให้มีความสดชื่น มีการนำดอกไม้จากเมืองเหนือมาสร้างสีสันให้สดใส โดยปีนี้ได้ทุ่มงบเพิ่มในส่วนของการตกแต่งอีก 20% จากปีที่แล้วลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาท ส่วนที่เราเพิ่มค่าพื้นที่เพราะเวลาจัดงานขยายเป็น 14 วัน ซึ่งหากเฉลี่ยต่อวันแล้วจ่ายน้อยลงกว่าเดิมอีก และในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของจัดงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ นอกจากจับรางวัลให้กับผู้มาชมและซื้อรถในงาน เราจะมีการเซอร์ไพรส์พิเศษให้กับลูกค้าเป็นพิเศษอีกด้วยปีนี้
จะช่วยยอดขายได้มากน้อยแค่ไหน
การสร้างบรรยากาศของงานเป็นหน้าที่เรา แต่เรื่องกระตุ้นหรือสร้างสีสันในการซื้อรถ เป็นหน้าที่ของบริษัทรถที่จะต้องทำ หากคุณไม่ทำก็จะตาย ดังนั้นเขาจะต้องทำทุกอย่างเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ หรือกลยุทธ์ต่างๆ เป็นหน้าที่ของเขา แน่นอนเราต้องมาร่วมมือกันอย่ายอมแพ้
จะส่งผลต่อคอนเซ็ปต์ของงานไหม
เราได้คุยกับบริษัทรถชัดเจนแล้ว จุดยืนของงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เน้นเทคโนโลยีและความรู้เหมือนเดิม และบริษัทรถก็ต้องไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับและปีนี้บริษัทรถก็นำเข้ารถต้นแบบมาจัดแสดงเช่นเดิม รวมถึงรถใหม่มาโชว์อย่าง โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด หรือมาสด้า 2 ส่วนรถใหม่เปิดขายในงาน เช่น เชอรี่ คิวคิว, บีเอ็มดับเบิลยู ซี่รี่ส์ 7 และนิสสัน เทียน่า เป็นต้น
มองเรื่องที่อุตฯ ยานยนต์ปลดคนงาน
บริษัทรถจ้างผู้บริหารมา เป็นธรรมดาอันดับแรกที่พวกเขาเหล่านี้จะทำ คือ ต้องปลดพนักงานชั่วคราวอันดับแรก หรือพนักงานระดับต้นๆ ที่ไม่ใช่มันสมองก่อน แต่อยากให้มองมุมกลับ เจ้าของหรือบอร์ดลองปลดผู้บริหารก่อน ซึ่งเพียงไม่กี่คนก็สามารถรักษาพนักงานไว้ได้พอสมควร หรือบริษัทรถ-ผู้ผลิตชิ้นส่วน จะปรับการบริหารงาน หรือลดเงินเดือนผู้บริหารลง สักแค่ 30% ก็จะทำให้พนักงานอยู่ได้แล้ว สำหรับประเทศไทยผ่านวิกฤตมาเยอะแล้ว จึงเชื่อมั่นจะต้องมีทางออกแน่นอน
