ข่าวต่างประเทศ - แม้จะเป็นคู่แข่งที่เริ่มต้นการทำตลาดรถยนต์ไฮบริดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับโตโยต้า แต่ดูเหมือนว่าฮอนด้าจะตามหลังคู่แข่งอยู่หลายก้าว เมื่อทางฮอนด้า มอเตอร์ คัมพานีเปิดเผยความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยการยืนยันถึงตัวเลขการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ออกสู่ตลาดครบจำนวน 300,000 คันเมื่อสิ้นสุดเดือนมกราคม 2009
ฮอนด้า เริ่มต้นการรุกตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยการเปิดตัว อินไซท์ ออกสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 1999 ซึ่งจริงอยู่ที่ว่าแม้จะเริ่มทำตลาดตามหลังพริอุสของโตโยต้าเพียง 2 ปี แต่การขยับตัวของฮอนด้าในตลาดประเภทนี้กลับไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวอะไรมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับโตโยต้า
โดยโตโยต้าฉลองครบรอบการขายรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นครบ 1,000,0000 คันในตลาดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2007 หรือ 10 ปีนับจากการเปิดตัวรุ่นพริอุสออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกของโลก ส่วนพริอุสเองก็ทำสถิติของตัวเองในการยอดขายทั่วโลกครบ 1,000,000 คันในเดือนเมษายนปีต่อมา ก่อนที่ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้ารวมทั่วโลกถึงหลัก 1,500,000 คันในเดือนพฤษภาคม 2008
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฮบริดทั้งในตลาดอเมริกาเหนือและทั่วโลกถูกผูกขาดโดยโตโยต้าก็เพราะความหลากหลายในการเจาะตลาดด้วยการขยายแนวรุกผ่านทางรถยนต์ในสายการผลิตทั้งแบรนด์ของตัวเองและระดับหรูอย่างเล็กซัส ขณะที่ทางฮอนด้า นอกจากอินไซท์ก็มีเพียงรถยนต์อีก 2 รุ่นเท่านั้นที่เป็นไฮบริดคือ แอคคอร์ด และซีวิค แถมจำกัดตลาดอยู่แค่ 40 ประเทศทั่วโลกเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ฮอนด้าเองพยายามทำให้รถยนต์ไฮบริดมีราคาถูกและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งการเปิดตัวของ อินไซท์ใหม่ เมื่อต้นปี 2009 และเพิ่งเริ่มขายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมีราคาไม่แพงและมีระดับตลาดต่ำกว่าซีวิค ไฮบริด ซึ่งฮอนด้าตั้งเป้าการขายต่อปีในตลาดทั่วโลกเอาไว้ที่ 200,000 คันโดยแบ่งเป็น 60,000 คันในญี่ปุ่น 30,000 คันในยุโรป และ 100,000 คันในตลาดอเมริกาเหนือ
นอกจากอินไซท์ใหม่แล้ว ฮอนด้ายังวางแผนผลิตเวอร์ชันไฮบริดของแจ๊สออกขายในตลาด เช่นเดียวกับรถสปอร์ตรุ่น CR-Z ที่จะมีเวอร์ชันนี้ลงสู่ตลาด ขณะที่ซีวิคจะมีขายด้วยเช่นกันเมื่อรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์เปิดตัวออกสู่ตลาดในอีก 2 ปีข้างหน้า
ฮอนด้า เริ่มต้นการรุกตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยการเปิดตัว อินไซท์ ออกสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 1999 ซึ่งจริงอยู่ที่ว่าแม้จะเริ่มทำตลาดตามหลังพริอุสของโตโยต้าเพียง 2 ปี แต่การขยับตัวของฮอนด้าในตลาดประเภทนี้กลับไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวอะไรมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับโตโยต้า
โดยโตโยต้าฉลองครบรอบการขายรถยนต์ไฮบริดทุกรุ่นครบ 1,000,0000 คันในตลาดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2007 หรือ 10 ปีนับจากการเปิดตัวรุ่นพริอุสออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกของโลก ส่วนพริอุสเองก็ทำสถิติของตัวเองในการยอดขายทั่วโลกครบ 1,000,000 คันในเดือนเมษายนปีต่อมา ก่อนที่ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้ารวมทั่วโลกถึงหลัก 1,500,000 คันในเดือนพฤษภาคม 2008
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฮบริดทั้งในตลาดอเมริกาเหนือและทั่วโลกถูกผูกขาดโดยโตโยต้าก็เพราะความหลากหลายในการเจาะตลาดด้วยการขยายแนวรุกผ่านทางรถยนต์ในสายการผลิตทั้งแบรนด์ของตัวเองและระดับหรูอย่างเล็กซัส ขณะที่ทางฮอนด้า นอกจากอินไซท์ก็มีเพียงรถยนต์อีก 2 รุ่นเท่านั้นที่เป็นไฮบริดคือ แอคคอร์ด และซีวิค แถมจำกัดตลาดอยู่แค่ 40 ประเทศทั่วโลกเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ฮอนด้าเองพยายามทำให้รถยนต์ไฮบริดมีราคาถูกและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งการเปิดตัวของ อินไซท์ใหม่ เมื่อต้นปี 2009 และเพิ่งเริ่มขายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ โดยรถยนต์รุ่นนี้จะมีราคาไม่แพงและมีระดับตลาดต่ำกว่าซีวิค ไฮบริด ซึ่งฮอนด้าตั้งเป้าการขายต่อปีในตลาดทั่วโลกเอาไว้ที่ 200,000 คันโดยแบ่งเป็น 60,000 คันในญี่ปุ่น 30,000 คันในยุโรป และ 100,000 คันในตลาดอเมริกาเหนือ
นอกจากอินไซท์ใหม่แล้ว ฮอนด้ายังวางแผนผลิตเวอร์ชันไฮบริดของแจ๊สออกขายในตลาด เช่นเดียวกับรถสปอร์ตรุ่น CR-Z ที่จะมีเวอร์ชันนี้ลงสู่ตลาด ขณะที่ซีวิคจะมีขายด้วยเช่นกันเมื่อรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์เปิดตัวออกสู่ตลาดในอีก 2 ปีข้างหน้า