กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว โดยทิ้งระยะจากการเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้ไม่นาน ทางด้านมินิก็จับมือกับสำนักแต่งคู่บุญที่ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทไปแล้วอย่าง JCW หรือ John Copper Works ในการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับรถยนต์เปิดประทุนใหม่รุ่นนี้
เหมือนกับรุ่นแฮทช์แบ็ก และแวกอนที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ การแต่งของ JCW ให้ความมั่นใจได้ทั้งความสวยและลงตัวในด้านรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่ยกระดับเหนือจากเวอร์ชันปกติที่วางขายตามโชว์รูม
ภายนอกสวยสะดุดตาด้วยล้อแม็กขนาด 17 นิ้วประกบด้วยยางแบบ Run Flat พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าลายใหม่ที่มีโลโก้ JCW แปะเอาๆ ไว้ด้วย ขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูเป็นหลักด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง มาตรวัดรอบและความเร็วแบบพื้นขาวเสริมด้วยขอบคิ้วโครเมียมบนแผงหน้าปัดและประตู พร้อมแป้นคันเร่ง เบรก คลัตช์ และที่พักเท้าผลิตจากอะลูมิเนียม
ความเร้าใจของเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซี เทอร์โบที่บีเอ็มดับเบิลยูร่วมพัฒนากับ PSA แห่งฝรั่งเศส ถูกเติมความแรงและสมรรถนะจนทำให้เครื่องยนต์มีระดับแรงม้าต่อความจุ 1 ลิตรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 132 แรงม้าต่อลิตร ส่วนกำลังขับเคลื่อนสูงสุดของตัวรถอยู่ที่ 211 แรงม้า และแรงบิดสามารถขยับสูงสุดได้ถึง 28.5 กก.-ม. เมื่อเข้าสู่โหมด Over Boost มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.9 วินาที ช้ากว่ารุ่นแฮทช์แบ็ก 0.4 วินาที และความเร็วปลาย 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การส่งมอบให้กับลูกค้าจะเริ่มในวันที่ 28 มีนาคมนี้โดยมีราคาในอังกฤษอยู่ที่ 23,470 ปอนด์ หรือ คำนวนจากอัตราแลกเปลี่ยนในยุคที่เงินปอนด์ร่วงกระหน่ำอยู่ที่ 1.22 ล้านบาทเท่านั้นเอง
