เมื่อครั้งที่มูเกนเปิดตัวต้นแบบของฮอนด้า ซีวิค มูเกน อาร์อาร์ที่เป็นการต่อยอดจากตัวแรงซีวิค ไทป์- อาร์ FD2 ออกมาในโตเกียว ออโต้ ซาลอนปี 2008 ก่อนวางขายในปีเดียวกัน ตอนนั้นทำเอาบรรดาแฟนๆ ฮือฮาไม่น้อย เพราะแต่ไหนแต่ไรมา มูเกน ซึ่งเป็นสำนักแต่งที่ถือว่าเป็นบริษัทลูกของฮอนด้า มอเตอร์ไม่เคยผลิตและพัฒนารถยนต์ทั้งคันออกมาวางขาย และซีวิค มูเกน อาร์อาร์ ก็ได้รับความสนใจอย่างมาก ซึ่งก็รวมถึงลูกค้าชาวไทยที่มีการสั่งเข้ามาขับ แม้ว่าราคาจะแพงกว่าซีวิค ไทป์-อาร์รุ่นปกติร่วม 2 เท่าตัวก็ตาม
ถัดจากโปรเจ็กต์นี้ ทางมูเกนเตรียมสร้างความสะใจให้กับแฟนๆ รถสปอร์ตของฮอนด้าอีกครั้ง เมื่อต้นแบบที่ชื่อว่า มูเกน เอ็นเอสเอ็กซ์ อาร์อาร์ โปรเจ็กต์ มีแนวโน้มว่าจะได้รับการสานฝันให้กลายเป็นจริง...เพียงแต่ว่าโครงการนี้อาจมีปัญหาเล็กน้อยในกรณีที่เกิดว่าต้องการทำจริง
ปัญหาที่ว่าคือ ฮอนด้าถอดเอ็นเอสเอ็กซ์ออกจากไลน์ผลิตไปตั้งแต่ปี 2005 แล้ว และทางมูเกนจะหารถที่ไหนมาทำขาย ตรงนี้ว่ากันว่ามีทางออกเหมือนกันเพราะมูเกนอาจใช้วิธีควานหาเอ็นเอสเอ็กซ์-อาร์ ซึ่งเป็นตัวแรงที่ผลิตออกมาในญี่ปุ่นช่วงปี 2002 แบบที่วิ่งมาน้อยๆ มาทำใหม่หมดทั้งคัน เหมือนกับที่ทางนิสโม่เคยทำกับการจับเอานิสสัน สกายไลน์ GT-R มารีดกำลังเป็นรุ่นพิเศษอย่าง NISMO R34 GT-R Z-Tune ซึ่งในตอนนั้นไลน์ผลิตของ GT-R รหัส R34 ถูกยกเลิกผลิตไปแล้วตามนโยบายของคาร์ลอส กอสน์ และตัวแรงรุ่นนี้ก็ได้รับความนิยมจากนักเลงรถในญี่ปุ่นอย่างมาก
สำหรับรายละเอียดของตัวรถต้นแบบที่ถูกเปิดตัวในโตเกียว ออโต้ ซาลอนเมื่อต้นเดือนมกราคม 2009 ตัวรถจะมาพร้อมกับความดุดันอย่างมาก โดยเฉพาะการขยายความยาวของตัวถึงขึ้นมาอยู่ในระดับ 177.95 นิ้ว หรือ 4,520 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าเอ็นเอสเอ็กซ์รุ่นปกติที่ขายในปี 1994-2005 ถึง 4 นิ้ว หรือ 100 มิลลิเมตร
ขณะที่เปลือกนอกของตัวถังมีการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการตกแต่งร่วมกับตัวถังหลักที่เป็นอะลูมิเนียม และมีการขยายความกว้างของตัวถังอีก 5.5 นิ้ว หรือ 139 มิลลิเมตร พร้อมกับอัพเกรดรูปลักษณ์อย่างสุดสปอร์ตจนดูคล้ายกับตัวถังทัวริงคาร์ Super GT หรือ JGTC-Japan Grand Touring Championship เดิม และเสริมความสปอร์ตด้วยยางขนาด 255/35R18 สำหรับด้านหน้า และ 335/30R18 สำหรับด้านหลัง
เครื่องยนต์ที่วางกลางลำยังเป็นรหัส C32B วี6 3,200 ซีซี VTEC ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยในเรื่องของการโมดิฟายเครื่องยนต์ยังไม่มีการเปิดเผย บอกแต่ว่ามีกำลังขับเคลื่อนอนู่ในระดับ 350-380 แรงม้า
ขณะที่โปรเจ็กต์เอ็นเอสเอ็กซ์ตัวใหม่ของฮอนด้าต้องแท้งไปเพราะว่าปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและปัญหาในระหว่างการพัฒนา ทำเอาแฟนๆ ผิดหวังกันถ้วนหน้า ฉะนั้นโปรเจ็กต์ของมูเกนครั้งนี้น่าจะพอบรรเทาความผิดหวังไปได้ไม่มากก็น้อย เพียงแต่ว่ายังไม่มีการยืนยันว่าจะผลิตเมื่อไร และจำนวนเท่าไร รวมถึงราคาจะไต่ขึ้นไปอยู่ในระดับไหน
ถัดจากโปรเจ็กต์นี้ ทางมูเกนเตรียมสร้างความสะใจให้กับแฟนๆ รถสปอร์ตของฮอนด้าอีกครั้ง เมื่อต้นแบบที่ชื่อว่า มูเกน เอ็นเอสเอ็กซ์ อาร์อาร์ โปรเจ็กต์ มีแนวโน้มว่าจะได้รับการสานฝันให้กลายเป็นจริง...เพียงแต่ว่าโครงการนี้อาจมีปัญหาเล็กน้อยในกรณีที่เกิดว่าต้องการทำจริง
ปัญหาที่ว่าคือ ฮอนด้าถอดเอ็นเอสเอ็กซ์ออกจากไลน์ผลิตไปตั้งแต่ปี 2005 แล้ว และทางมูเกนจะหารถที่ไหนมาทำขาย ตรงนี้ว่ากันว่ามีทางออกเหมือนกันเพราะมูเกนอาจใช้วิธีควานหาเอ็นเอสเอ็กซ์-อาร์ ซึ่งเป็นตัวแรงที่ผลิตออกมาในญี่ปุ่นช่วงปี 2002 แบบที่วิ่งมาน้อยๆ มาทำใหม่หมดทั้งคัน เหมือนกับที่ทางนิสโม่เคยทำกับการจับเอานิสสัน สกายไลน์ GT-R มารีดกำลังเป็นรุ่นพิเศษอย่าง NISMO R34 GT-R Z-Tune ซึ่งในตอนนั้นไลน์ผลิตของ GT-R รหัส R34 ถูกยกเลิกผลิตไปแล้วตามนโยบายของคาร์ลอส กอสน์ และตัวแรงรุ่นนี้ก็ได้รับความนิยมจากนักเลงรถในญี่ปุ่นอย่างมาก
สำหรับรายละเอียดของตัวรถต้นแบบที่ถูกเปิดตัวในโตเกียว ออโต้ ซาลอนเมื่อต้นเดือนมกราคม 2009 ตัวรถจะมาพร้อมกับความดุดันอย่างมาก โดยเฉพาะการขยายความยาวของตัวถึงขึ้นมาอยู่ในระดับ 177.95 นิ้ว หรือ 4,520 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าเอ็นเอสเอ็กซ์รุ่นปกติที่ขายในปี 1994-2005 ถึง 4 นิ้ว หรือ 100 มิลลิเมตร
ขณะที่เปลือกนอกของตัวถังมีการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการตกแต่งร่วมกับตัวถังหลักที่เป็นอะลูมิเนียม และมีการขยายความกว้างของตัวถังอีก 5.5 นิ้ว หรือ 139 มิลลิเมตร พร้อมกับอัพเกรดรูปลักษณ์อย่างสุดสปอร์ตจนดูคล้ายกับตัวถังทัวริงคาร์ Super GT หรือ JGTC-Japan Grand Touring Championship เดิม และเสริมความสปอร์ตด้วยยางขนาด 255/35R18 สำหรับด้านหน้า และ 335/30R18 สำหรับด้านหลัง
เครื่องยนต์ที่วางกลางลำยังเป็นรหัส C32B วี6 3,200 ซีซี VTEC ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ โดยในเรื่องของการโมดิฟายเครื่องยนต์ยังไม่มีการเปิดเผย บอกแต่ว่ามีกำลังขับเคลื่อนอนู่ในระดับ 350-380 แรงม้า
ขณะที่โปรเจ็กต์เอ็นเอสเอ็กซ์ตัวใหม่ของฮอนด้าต้องแท้งไปเพราะว่าปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและปัญหาในระหว่างการพัฒนา ทำเอาแฟนๆ ผิดหวังกันถ้วนหน้า ฉะนั้นโปรเจ็กต์ของมูเกนครั้งนี้น่าจะพอบรรเทาความผิดหวังไปได้ไม่มากก็น้อย เพียงแต่ว่ายังไม่มีการยืนยันว่าจะผลิตเมื่อไร และจำนวนเท่าไร รวมถึงราคาจะไต่ขึ้นไปอยู่ในระดับไหน