สำหรับสาวกที่ชื่นชอบรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางด้านท้ายอย่าง 911 จากค่ายพอร์ช นอกจากรุ่นเทอร์โบและ GT2 แล้ว ถ้าพูดถึงความแรงและเร้าใจแล้วอีกรุ่นที่จะขาดไม่ได้คือ GT3 ซึ่งในตอนนี้แบรนด์ดังจากเยอรมนีจัดการเผยโฉมใหม่ของ GT3 ออกมาแล้วพร้อมความเร้าใจในสมรรถนะ
GT3 เป็นทางเลือกใหม่ที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 เพื่อนำเสนอทางเลือกแห่งความแรงแบบไม่ต้องพึ่งเทอร์โบเหมือนกับรุ่นเทอร์โบและ GT2 โดยรายละเอียดของตัวรถได้รับการปรับปรุงและดัดแปลงด้วยแนวคิดเดียวกับรถแข่งในเซอร์กิตเพื่อการใช้งานบนถนน อีกทั้งยังมีการผลิตเป็นตัวแข่งสำหรับลุยรายการทัวริงทั่วยุโรป ทั้งเลอมังส์ 24 ชั่วโมง
สำหรับรุ่นใหม่ที่มีคิวเผยโฉมครั้งแรกในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 ระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคมนี้ที่สวิตเวอร์แลนด์ เป็นการเปิดตัวออกมาตามอายุตลาดซึ่งพอร์ชเพิ่งจัดการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ให้กับ 911 รหัสตัวถัง 997 เมื่อปลายปีที่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงของตัวรถนอกจากรูปลักษณ์ที่มีการยึดรูปโฉมเดียวกับ 997 ไมเนอร์เชนจ์ แถมด้วยไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน และไฟท้ายแบบ LED แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของชุดแอโรพาร์ตรอบคันเน้นการสร้างแรงกดบนตัวถังด้านท้ายขณะที่แล่นด้วยความเร็วสูง และล้อแม็กลายใหม่ใช้วิธียึดล้อเข้ากับดุมแบบ Center Locking Nut เหมือนกับรถแข่ง ส่วนยางเป็นแบบสมรรถนะสูงที่เรียกว่า UHP-Ultra High Performance และมีระบบ Tire Monitor แจ้งเตือนระดับแรงดันลมยางแสดงบนจอมอนิเตอร์ในห้องโดยสาร
ส่วนประเด็นสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ ซึ่งขุมพลังแบบสูบนอน หรือบ็อกเซอร์แบบ 6 สูบ ทวินแคม 24 วาล์ว ได้รับการขยายความจุเพิ่มขึ้นจาก 3,600 มาเป็น 3,800 ซีซี พร้อมกับระบบวาริโอแคมที่ควบคุมการทำงานของแคมชาฟท์ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ต่างจากรุ่นเดิมที่ควบคุมเฉพาะฝั่งไอดีอย่างเดียว
ผลคือ ตัวรถมีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 20 แรงม้าเป็น 435 แรงม้า เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่การขับเคลื่อนล้อหลังมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.1 วินาที (ขณะที่รุ่นเดิม 4.1 วินาทีคือเวลาที่ใช้ในการเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง) และ 8.2 วินาทีสำหรับไต่ขึ้นสู่ความเร็วระดับ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วปลาย 312 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เพื่อสมรรถนะในการยึดเกาะที่ดีขึ้นมีการนำระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้หรือ Porsche Active Suspension Management (PASM) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมสามารถเลือดโหมดการปรับแต่งได้ทั้งแบบ Normal-ธรรมดา และแบบ Sport-สปอร์ต
แน่นอนว่าระบบเบรกมีการปรับปรังในเรื่องของขนาดดิสก์หน้าซึ่งใหญ่ขึ้น และมีการใช้คาลิเปอร์ที่ผลิตจากอะลูมิเนียม โดยที่ดิสก์เบรกแบบคาร์บอนเซรามิก หรือ Porsche Ceramic Composite Brakes (PCCB) เป็นออพชั่นที่ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพิ่ม เช่นเดียวกับนวัตกรรมล่าสุดที่เรียกว่า Porsche Active Drivetrain Mount (PADM) ซึ่งมีการติดตั้งแท่นเครื่องยนต์รุ่นพิเศษเข้าไป สามารถลดแรงเคลื่อนตัวของเครื่องยนต์อันมหาศาลในขณะที่กดคันเร่งเพื่อรีดกำลัง ทำให้ตัวรถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในขณะที่เข้าโค้งซึ่งสามารถใช้ความเร็วสูง หรือขับในสนามแข่งที่มีความคดเคี้ยว รวมถึงยังช่วยเพิ่มอัตราเร่งในขณะออกตัว
911 GT3 ใหม่มีคิวลงทำตลาดพวงมาลัยซ้ายกลางปีนี้ ส่วนพวงมาลัยขวาอย่างอังกฤษจะเริ่มปลายปี 2009 โดยมีราคาอยู่ที่ 81,914 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยในยุคที่ค่าเงินปอนด์ลดลงมาอยู่ในระดับ 50 บาทต้นๆ อยู่ที่ 4.3 ล้านบาท แต่ถ้าเข้าเมืองไทยคงต้องใช้หลักคูณ 3 กว่าๆ เข้าไป ถึงจะรู้ราคาคร่าวๆ
GT3 เป็นทางเลือกใหม่ที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 เพื่อนำเสนอทางเลือกแห่งความแรงแบบไม่ต้องพึ่งเทอร์โบเหมือนกับรุ่นเทอร์โบและ GT2 โดยรายละเอียดของตัวรถได้รับการปรับปรุงและดัดแปลงด้วยแนวคิดเดียวกับรถแข่งในเซอร์กิตเพื่อการใช้งานบนถนน อีกทั้งยังมีการผลิตเป็นตัวแข่งสำหรับลุยรายการทัวริงทั่วยุโรป ทั้งเลอมังส์ 24 ชั่วโมง
สำหรับรุ่นใหม่ที่มีคิวเผยโฉมครั้งแรกในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 ระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคมนี้ที่สวิตเวอร์แลนด์ เป็นการเปิดตัวออกมาตามอายุตลาดซึ่งพอร์ชเพิ่งจัดการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ให้กับ 911 รหัสตัวถัง 997 เมื่อปลายปีที่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงของตัวรถนอกจากรูปลักษณ์ที่มีการยึดรูปโฉมเดียวกับ 997 ไมเนอร์เชนจ์ แถมด้วยไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน และไฟท้ายแบบ LED แล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของชุดแอโรพาร์ตรอบคันเน้นการสร้างแรงกดบนตัวถังด้านท้ายขณะที่แล่นด้วยความเร็วสูง และล้อแม็กลายใหม่ใช้วิธียึดล้อเข้ากับดุมแบบ Center Locking Nut เหมือนกับรถแข่ง ส่วนยางเป็นแบบสมรรถนะสูงที่เรียกว่า UHP-Ultra High Performance และมีระบบ Tire Monitor แจ้งเตือนระดับแรงดันลมยางแสดงบนจอมอนิเตอร์ในห้องโดยสาร
ส่วนประเด็นสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ ซึ่งขุมพลังแบบสูบนอน หรือบ็อกเซอร์แบบ 6 สูบ ทวินแคม 24 วาล์ว ได้รับการขยายความจุเพิ่มขึ้นจาก 3,600 มาเป็น 3,800 ซีซี พร้อมกับระบบวาริโอแคมที่ควบคุมการทำงานของแคมชาฟท์ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย ต่างจากรุ่นเดิมที่ควบคุมเฉพาะฝั่งไอดีอย่างเดียว
ผลคือ ตัวรถมีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 20 แรงม้าเป็น 435 แรงม้า เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะสู่การขับเคลื่อนล้อหลังมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 4.1 วินาที (ขณะที่รุ่นเดิม 4.1 วินาทีคือเวลาที่ใช้ในการเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง) และ 8.2 วินาทีสำหรับไต่ขึ้นสู่ความเร็วระดับ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วปลาย 312 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เพื่อสมรรถนะในการยึดเกาะที่ดีขึ้นมีการนำระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้หรือ Porsche Active Suspension Management (PASM) ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมสามารถเลือดโหมดการปรับแต่งได้ทั้งแบบ Normal-ธรรมดา และแบบ Sport-สปอร์ต
แน่นอนว่าระบบเบรกมีการปรับปรังในเรื่องของขนาดดิสก์หน้าซึ่งใหญ่ขึ้น และมีการใช้คาลิเปอร์ที่ผลิตจากอะลูมิเนียม โดยที่ดิสก์เบรกแบบคาร์บอนเซรามิก หรือ Porsche Ceramic Composite Brakes (PCCB) เป็นออพชั่นที่ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพิ่ม เช่นเดียวกับนวัตกรรมล่าสุดที่เรียกว่า Porsche Active Drivetrain Mount (PADM) ซึ่งมีการติดตั้งแท่นเครื่องยนต์รุ่นพิเศษเข้าไป สามารถลดแรงเคลื่อนตัวของเครื่องยนต์อันมหาศาลในขณะที่กดคันเร่งเพื่อรีดกำลัง ทำให้ตัวรถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในขณะที่เข้าโค้งซึ่งสามารถใช้ความเร็วสูง หรือขับในสนามแข่งที่มีความคดเคี้ยว รวมถึงยังช่วยเพิ่มอัตราเร่งในขณะออกตัว
911 GT3 ใหม่มีคิวลงทำตลาดพวงมาลัยซ้ายกลางปีนี้ ส่วนพวงมาลัยขวาอย่างอังกฤษจะเริ่มปลายปี 2009 โดยมีราคาอยู่ที่ 81,914 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทยในยุคที่ค่าเงินปอนด์ลดลงมาอยู่ในระดับ 50 บาทต้นๆ อยู่ที่ 4.3 ล้านบาท แต่ถ้าเข้าเมืองไทยคงต้องใช้หลักคูณ 3 กว่าๆ เข้าไป ถึงจะรู้ราคาคร่าวๆ
