ในที่สุดแฟนๆ ที่เฝ้ารอความแรงแบบสุดๆ จากเจ้าของฉายา ‘911 ยกสูง’ อย่างคาเยนน์ก็ได้สมหวังกันแล้ว เมื่อพอร์ชจัดการเผยโฉมรุ่นเทอร์โบ เอส ที่ถือว่าเป็นท็อป ออฟ เดอะ ไลน์ของสายพันธุ์คาเยนน์ออกมาแล้วในงานออโต้ ไชน่า กับความเร้าใจที่ไม่ทำให้ลูกค้าต้องผิดหวังกับเครื่องยนต์วี8 เทอร์โบคู่
คาเยนน์ใหม่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วโดยเป็นการไมเนอร์เชนจ์รูปลักษณ์ครั้งใหญ่จากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2003 และทางพอร์ชก็นับเป็นเจนเนอเรชันใหม่เลย โดยที่ไม่สนใจว่าจะเป็นแค่การปรับโฉมก็ตาม โดยในช่วงแรกของการทำตลาดมีขายเฉพาะรุ่นวี6 3,600 ซีซี 290 แรงม้า วี8 4,800 ซีซี 385 แรงม้า และ 405 แรงม้าในชื่อ GTS โดยมีรุ่นเทอร์โบ 500 แรงม้าเป็นทางเลือกสุดท้าย
แต่สำหรับในงานนี้ พอร์ชส่งความแรงที่เหนือระดับในรหัสเทอร์โบ เอสลงสู่ตลาดด้วยการรีดกำลังของเครื่องยนต์วี8 4,800 ซีซีให้มีจำนวนม้าในคอกขยับขึ้นมาเป็น 550 ตัว ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 76.4 กก.-ม. ที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.8 วินาทีและความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในรุ่นนี้ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลามีการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ในสสภาพปกติสู่ล้อหน้าหลังในอัตราส่วน 38-62% ติดตั้งระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้และระบบควบคุมการทรงตัว Porsch Active Suspension Management (PASM) และ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC)เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่ล้อแม็กมีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นธรรมดา เพราะให้ล้อถึง 21 นิ้วออกมาจากโรงงานเลย
ส่วนระบบเบรกถ้าไม่พอใจกับสมรถนะเดิมๆ ก็จ่ายเงินเพิ่มติดตั้งชุดดิสก์เบรกแบบเซรามิก Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ที่เป็นออพชั่น เพื่อรองรับกับประสิทธิภาพในการสยบม้าฝูงโต ส่วนการทำตลาดจะเริ่มในยุโรปตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป กับราคาขายในเยอรมนี 111,400 ยูโร หรือ 5.7 ล้านบาท
คาเยนน์ใหม่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วโดยเป็นการไมเนอร์เชนจ์รูปลักษณ์ครั้งใหญ่จากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2003 และทางพอร์ชก็นับเป็นเจนเนอเรชันใหม่เลย โดยที่ไม่สนใจว่าจะเป็นแค่การปรับโฉมก็ตาม โดยในช่วงแรกของการทำตลาดมีขายเฉพาะรุ่นวี6 3,600 ซีซี 290 แรงม้า วี8 4,800 ซีซี 385 แรงม้า และ 405 แรงม้าในชื่อ GTS โดยมีรุ่นเทอร์โบ 500 แรงม้าเป็นทางเลือกสุดท้าย
แต่สำหรับในงานนี้ พอร์ชส่งความแรงที่เหนือระดับในรหัสเทอร์โบ เอสลงสู่ตลาดด้วยการรีดกำลังของเครื่องยนต์วี8 4,800 ซีซีให้มีจำนวนม้าในคอกขยับขึ้นมาเป็น 550 ตัว ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 76.4 กก.-ม. ที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 4.8 วินาทีและความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในรุ่นนี้ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลามีการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ในสสภาพปกติสู่ล้อหน้าหลังในอัตราส่วน 38-62% ติดตั้งระบบช่วงล่างแบบปรับระดับได้และระบบควบคุมการทรงตัว Porsch Active Suspension Management (PASM) และ Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC)เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยที่ล้อแม็กมีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นธรรมดา เพราะให้ล้อถึง 21 นิ้วออกมาจากโรงงานเลย
ส่วนระบบเบรกถ้าไม่พอใจกับสมรถนะเดิมๆ ก็จ่ายเงินเพิ่มติดตั้งชุดดิสก์เบรกแบบเซรามิก Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ที่เป็นออพชั่น เพื่อรองรับกับประสิทธิภาพในการสยบม้าฝูงโต ส่วนการทำตลาดจะเริ่มในยุโรปตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป กับราคาขายในเยอรมนี 111,400 ยูโร หรือ 5.7 ล้านบาท