ค่ายรถหรูยุโรป-ญี่ปุ่นไม่กั๊ก เปิดทีเด็ดหนีตายปีวัวบ้า

ข่าวในประเทศ - ตลาดรถหรูไม่ยอมสยบวิกฤตเศรษฐกิจปีวัวบ้า เพียงแค่ออกสตาร์ทก็ดุเดือดแล้ว จากสองค่ายยักษ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ บีเอ็มดับเบิลยูส่งรถใหม่และแคมเปญเร่งปั๊มยอดสุดๆ และงานนี้ทั้งค่ายยุโรป-ญี่ปุ่นต่างแบไต๋หมดเปลือกไม่มีกั๊กเหมือนเช่นเคย เปิดแผนธุรกิจและหมัดเด็ดออกมาวัดกันตรงๆ โดยเฉพาะค่ายใบพัดสีฟ้าปีนี้มาแปลก เปิดหมดหน้าตักร่ายแผนส่งรถใหม่ลุยยาวตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น ซีรี่ส์ 3 ซีดาน, ซีรี่ส์ 7 โฉมใหม่ และสปอร์ตโรดสเตอร์ Z4 แถมยังควง มินิ คอนเวิร์ททิเบิล มาด้วย

ด้านรถหรูจากญี่ปุ่น เลกซัสไม่ยอมเสียโอกาสเช่นกัน ล่าสุดดึงเอสยูวีหรู อาร์เอ็กซ์350โมเดลใหม่ ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาไปหมาดๆ มาลุยตลาดไทยทันที 12 ก.พ.นี้ ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยเพียบ คาดราคาบวกลบ 5 ล้านนิดๆ และแน่นอนคิวต่อไปคงไม่เกินปีนี้ กับฝาแฝด อาร์เอ็กซ์450เอชในแบบไฮบริด ซึ่งแน่นอนตลาดรถหรูใช่จะหยุดความร้อนแรงเท่านี้ เมื่อมีการกลับมารุกตลาดอีกครั้งของ โฟล์คสวาเกน ภายหลังบริษัทแม่ถอดใจแผนลงทุนในไทย และผู้แทนจำหน่าย ไทยยานยนต์ปรับโครงสร้างธุรกิจลงตัวแยกจากกลุ่มยนตรกิจเบ็ดเสร็จ เตรียมนำเข้ารถใหม่ พาสสาท ซีซี-กอล์ฟ และบีเทิ่ลดันเป้าหมายปีนี้โตเท่าตัวเป็น 950 คัน เช่นเดียวกับ ออดี้ที่เริ่มรุกตลาดจริงจังตั้งปลายปีที่แล้ว และปีนี้รุกต่อเนื่องกับรุ่นท็อปสุด เอ8และซูเปอร์คาร์รุ่น อาร์8

ท่าจะเป็นปีวัวบ้าสมชื่อ เมื่อเปิดเดือนแรกของปีมาก็โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานเสียอ่วมกันถ้วนหน้า เพราะจากรายงานตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการของแต่ละยี่ห้อ ยอดขายต่างร่วงระนาวกันครึ่งต่อครึ่ง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้า แว่วว่ามียอดขายเพียงกว่าหมื่นคัน จากที่เคยทำได้ไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคันเป็นอย่างต่ำ หรือมิตซูบิชิ-นิสสันก็เหลือเพียงกว่า 1,000 คันเท่านั้น ยิ่งตลาดรถหรูด้วยแล้วมีสภาพไม่แตกต่างกันมากนัก

จึงไม่แปลกที่เพียงแค่ออกสตาร์ทโค้งแรกของปี สองค่ายผู้นำตลาดรถหรู เมอร์เซเดส-เบนซ์-บีเอ็มดับเบิลยู ก็เปิดศึกชิงยอดขายกันแล้ว โดยค่ายดาวสามแฉก เมอร์เซเดส-เบนซ์กระตุ้นตลาด ด้วยการจับอี-คลาสมาแต่งหน้าทาปากให้ดูเก๋ไก๊ไฉไลขึ้นเพิ่มอีก 3 โมเดล พร้อมกับอัดแคมเปญส่งเสริมการขายแบบเทกระจาดดอกเบี้ย 0% ซึ่งว่ากันว่าหากไม่เข้าตาจน เงื่อนไขดังกล่าวค่ายรถจะไม่งัดออกมาใช้แน่ๆ

ส่วนค่าย บีเอ็มดับเบิลยูที่ปีนี้มาแนวใหม่แปลกกว่าเดิม เปิดแถลงข่าวทิศทางนโยบายการทำตลาดแบบหมดเปลือก แถมยังแบไต๋หมดว่าจะนำรถรุ่นไหนเข้ามาทำตลาดบ้างในปีนี้ จากเดิมที่กว่าจะยอมเผยได้ต้องรอเปิดตัวเป็นทางการโน้น

เท่านั้นไม่พอยังโหมโรงส่ง บีเอ็มดับเบิลยู 120 คูเป้ เข้ามาดึงลูกค้าในไทยตั้งแต่หัวปีเลยทีเดียว ไม่ต้องรองานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2009 ให้เสียเวลาปั๊มยอดขายอีกต่อไป เรียกว่าในยุคเศรษฐกิจตกต่ำและตลาดรถยนต์ดิ่งเหวเช่นนี้ รีบคว้ายอดได้เป็นรีบทำเลยทันที ส่วนโมเดลอื่นๆ ที่บีเอ็มดับเบิลยูจะทำตลาดในปีนี้มีให้เลือก ตั้งแต่บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ซีดานใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนและโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมเสียอีก

แต่หากชอบรุ่นใหญ่ไม่พลาดกับ ซี่รีส์ 7 โฉมใหม่ ซึ่งน่าจะเปิดตัวในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ปลายเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ หรือหากชื่นชอบความเร็วค่ายใบพัดสีฟ้ามีตอบสนองเช่นกัน กับสปอร์ตโรดสเตอร์ Z4 แต่หากไม่เต็มอิ่มบีเอ็มดับเบิลยูยังมีทางเลือก

สำหรับผู้ชื่นชอบรถที่มีสไตล์อย่าง มินิ แบรนด์ในเครือ โดยปีนี้จะเปิดตัว มินิ คอนเวิร์ททิเบิล มาให้แฟนๆ ได้ท้าสายลมกัน หรือหากอยากจะฉีกแนวสุดๆ นี่เลย กับบิ๊กไบค์ บีเอ็มดับเบิลยู เอชพี สปอร์ต สำหรับเป็นอีกทางเลือกด้วย นี่เป็นเพียงการโหมโรงของสองค่ายผู้นำเท่านั้น แต่ตลาดรถหรูปีวัวไฟกลับร้อนแรงมากกว่าทุกๆ ปีเสียอีก เมื่อค่ายรถจากแดนปลาดิบ เลกซัสที่กำลังปักฐานในไทยเพื่อขึ้นมาเขย่ารถหรูจากยุโรป ได้มีการเดินหน้ารุกตลาดอย่างหนักเช่นกัน หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้วได้มีการเปิดตัวซีดานหรูตัวเล็ก ไอเอส250ใหม่สู่ตลาด มาปีนี้ผ่านพ้นไปเพียงแค่เดือนเดียวก็สั่นขวัญค่ายรถยุโรปทันที

โดยในวันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เลกซัสจะเปิดตัวรถอเนกประสงค์หรู อาร์เอ็กซ์350 (RX350)โฉมใหม่ เพื่อมาท้าชนกับค่ายใบพัดสีฟ้าที่ตอนนี้กำลังรุกจัดกิจกรรมให้กับ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ ซี่รี่ส์อยู่ โดยเฉพาะรุ่นเอ็กซ์5 เครื่องยนต์ดีเซลที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

สำหรับเลกซัส อาร์เอ็กซ์350 ใหม่ นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ในญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา และไทยก็รีบฉกมาขายทันทีก่อนที่เกรย์มาร์เก็ต หรือผู้นำเข้ารถยนต์อิสระจะชิงตัดหน้า นำเข้ามาฟันยอดขายไปก่อน แม้ปัจจุบันเกรย์มาร์เก็ตจะอ่อนแรงลงไปมาก จากการคดีฉาวของผู้บริหารค่ายผู้นำเข้ารายใหญ่ เอส.อี.ซี.กรุ๊ปก็ตาม อาร์เอ็กซ์350 ใหม่ นอกจากรูปลักษณ์และความหรูหราแล้ว ยังมาพร้อมอุปกรณ์ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบหน้าจอแบบ Head-up Display

สำหรับแสดงข้อมูลที่สำคัญจากแผงหน้าปัดสู่การแสดงผลบนกระจกบังลมหน้า ซึ่งจะส่งผลดีให้คนขับไม่ต้องละสายตาจากถนนมองลงไปข้างล่าง และระบบ Pre-Collision System ที่เป็นระบบ Pre Safety ช่วยให้ความปลอดภัยกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงกล้องด้านข้างที่ช่วยตรวจจับด้านข้างหรือด้านหลัง ซึ่งเป็นมุมอับที่ผู้ขับไม่สามารถมองเห็นได้ จากกระจกมองหลังหรือกระจกมองข้าง

ส่วนขุมพลังของอาร์เอ็กซ์350 ยังเหนียวแน่นกับเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2GR-FE แบบวี6 ทวินแคม 24 วาล์ว VVT-I 3500 ซีซี แต่ได้รับการอัพเกรดกำลังม้าให้เพิ่มอีก 5 ตัว เป็น 274 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ คาดว่าราคาในไทยน่าจะอยู่ที่ประมาณบวกลบ 5 ล้านบาทนิดๆ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราภาษีนำเข้าที่ลดลง จากข้อตกทางการค้า JTEPA ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น

แน่นอนเมื่อรหัสพันธุ์อาร์เอ็กซ์มาแล้ว มีหรือที่แฝด อาร์เอ็กซ์450เอช(RX450h)จะไม่ตามมา เพียงแต่จะทิ้งระยะเวลาห่างกันสักแค่ไหนเท่านั้น เพราะในญี่ปุ่นได้เปิดตัวออกมาพร้อมกัน ด้วยรูปลักษณ์และอุปกรณ์ที่เหมือนกัน จะแตกต่างเพียงเป็นเครื่องยนต์ระบบไฮบริดเท่านั้น โดยรถรุ่นนี้ทำตลาดในไทยมาแล้ว เพียงแต่ในโมเดลที่ผ่านมาเรียกว่า อาร์เอ็กซ์400เอช(RX400h) เมื่อโฉมใหม่เปลี่ยนมาเรียก อาร์เอ็กซ์450เอช เพื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง จึงได้มีการปรับขุมพลังใหม่

แม้เครื่องยนต์หลักยังจะเป็นแบบวี6 แต่ขยายความจุจาก 3300 ซีซี เป็น 3500 ซีซี พร้อมระบบเผาไหม้แบบ Atkinson Cycle เมื่อจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบ ทำให้มีกำลังเพิ่มจาก 268 แรงม้า เป็น 290 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ ECVT เหมือนเดิม แม้จะมีทั้งแบบขับเคลื่อนหน้าอย่างเดียว และ 4 ตลอดเวลาแบบ AWD ให้เลือก แต่เมืองไทยน่าจะนำเข้ารุ่นหลังเหมือนที่ผ่านมามากกว่า

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าตลาดรถหรูจะหยุดความดุเดือดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะปีนี้จะมีค่ายที่การกลับมารุกตลาดใหม่อีกครั้ง นั่นก็คือ โฟล์คสวาเกนที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาชะลอการทำตลาดไป จากกระแสข่าวการเข้ามาบุกตลาดในไทยเองของบริษัทแม่ โฟล์คสวาเกน เอจี โดยถึงกับมีข่าวยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในโครงการอีโคคาร์ จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ด้วยมูลค่าลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท

แต่บีโอไอได้ตีกลับให้ไปทำแผนลงทุนใหม่ และที่สุดข่าวคราวก็เงียบหายไป พร้อมกับกระแสข่าวใหม่ว่า โฟล์คสวาเกน เอจี ยกเลิกแผนการเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว ด้านดิสทริบิวเตอร์ในไทยบริษัทไทยยานยนต์เอง ก็กำลังปรับโครงสร้างธุรกิจแยกออกมาจาก กลุ่มยนตรกิจของตระกูล ลีนุตพงษ์ทำให้ที่ผ่านมา จึงมีการทำตลาดเพียงรถตู้ คาราเวลรุ่นเดียวเท่านั้น

"ปีนี้เราจะกลับมารุกตลาดอย่างจริงจังอีกครั้ง หลังจากมีการปรับโครงสร้างในกลุ่มยนตรกิจเรียบร้อย โดยไทยยานยนต์ผู้จำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกน ผมได้นำออกมาบริหารเบ็ดเสร็จภายใต้ชื่อไทยยานยนต์กรุ๊ป ซึ่งแยกขาดจากกลุ่มยนตรกิจ"

นั่นคือคำกล่าวของ วิทิต ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ไทยยานยนต์กรุ๊ป ในการเปิดแถลงข่าววิสัยทัศน์ใหม่ของกลุ่มไทยยานยนต์ พร้อมกับตอบข้อซักถามถึงกระแสข่าว บริษัทแม่ โฟล์คสวาเกน เอจี จะเมาดูแลตลาดในไทยเองว่า "ในฐานะพันธมิตรคงไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ยืนยันไทยยานยนต์ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในไทย โดยปีนี้จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น และตั้งเป้ายอดขายเติบโตปีละประมาณ 20%"

สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะนำเข้ามาเปิดตลาด 4-5 รุ่น ได้แก่ โฟล์คสวาเกน Passat CC, Scirocco, Beetle และ Golf เป็นต้น โดยปีนี้ตั้งเป้าการขายไว้ที่ประมาณ 950 คัน แบ่งเป็นรถตู้โฟล์คสวาเกน คาราเวล 500 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 400 คัน และรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง 450 คัน

เช่นเดียวกับค่าย ออดี้ ที่เดิมอยู่กับบริษัทไทยยานยนต์ แต่เมื่อปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ยังคงอยู่ในกลุ่มยนตรกิจเช่นเดิม ไม่ได้แยกออกไปเหมือนโฟล์คสวาเกน และได้ตั้งบริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์คมาดูแลแบรนด์ออดี้แทน โดยเป็นบริษัทในเครือของ ยนตรกิจ คอปอเรชั่นหรือยนตรกิจกรุ๊ปเดิม พร้อมกับเดินหน้าหวนกลับมารุกตลาดรถหรูในไทยอีกครั้ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา จากการเปิดตัวโฉมใหม่ของ ออดี้ เอ4

ส่วนปี 2552 นี้ ออดี้ยังคงจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีดานหรูรุ่นท็อปสุด ออดี้ เอ8 เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ครอบคลุม และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ จากปัจจุบันที่มีทำตลาดอยู่ 4 รุ่น คือ ออดี้ เอ4, เอ6, ทีที และคิว7 โดยรุ่นเอ8 เป็นรถหรูหราขนาดใหญ่ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับ เมอต์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 และปีนี้ที่ชัดเจนว่าจะนำเข้ามาทำตลาดอีกรุ่น คือ อาร์8 สุดยอดซูเปอร์คาร์ของออดี้

เรียกว่าตลาดรถหรูปีนี้แม้จะโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน แต่เพื่อประครองชีวิตให้อยู่รอด ค่ายรถหรูจึงไม่มีการกั๊กอีกต่อไปแล้ว ต่างฝ่ายต่างเปิดหมัดเด็ดออกมาแลกกันดุเดือด ตั้งแต่เริ่มสตาร์ทปีวัวบ้าเลยทีเดียว!