ข่าวในประเทศ - นิชคาร์ รุกตลาดรถยนต์เฉพาะกลุ่มต่อเนื่อง ด้วยโปรดักต์ดาวเด่นในมืออย่าง โลตัสและลัมบอร์กินี เปิดฉากลุย “บางกอกมอเตอร์โชว์” เดือนมีนาคม กับ “โลตัส 2-อีเลฟเว่น” รถแข่งที่ตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์คันเดียวของโลก หวังสร้างกระแสให้ขายกระฉูด ก่อนจัดแข่งวันเมคเรซ ส่วนปลายปีเสริมทัพ “อีโวลา” สปอร์ตคูเป้พันธุ์ใหม่ ซึ่งทั้งสองรุ่นราคาประมาณ 8-9 ล้านบาท พร้อมกันนี้ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ยังเสริมทัพกระทิงเปลี่ยว “กัลลาร์โด LP560-4 สปายเดอร์” ซูเปอร์คาร์รุ่นเล็กเวอร์ชันเปิดประทุน กับค่าหัวระดับ 28 ล้านบาท
ตลาดรถยนต์ในปี 2552 ที่เชื่อว่าจะเป็นปี “วัวบ้า”(ปีก่อนเรียก“หนูไฟ”) จากพิษเศรษฐกิจ จนส่งผลให้ยอดขายซบ กำลังซื้อหดหาย...แต่นั้นน่าจะเป็นข้อเท็จจริงใน “ตลาดแมส” ของผู้บริโภคระดับกลาง ส่วนตลาดรถยนต์เฉพาะกลุ่ม หรือที่เรียกกันว่า“นิชมาร์เก็ต”นั้น คงอยู่นอกเหนือจากภาวะดังกล่าว หรือถ้าได้รับผลกระทบก็คงน้อยนิด เหตุเพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นพวกเศรษฐีซื้อรถเป็นของเล่น หรือตัดสินใจซื้อจากโปรดักต์โดนใจ มากกว่าจะกังวลเรื่องเงิน
หนึ่งในค่ายที่ขายไปยิ้มไปอย่าง “นิชคาร์” ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการเพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับรถยนต์ 4 แบรนด์ ทั้ง ลัมบอร์กินี(Lamborghini) โลตัส (Lotus) ฮัมเมอร์ (Hummer)และสปอร์ตพันธุ์หรู แอสตัน มาร์ติน (Aston Martin) ที่ปีนี้บิ๊กบอส “วิทวัส ชินบารมี”ยังเตรียมอาวุธใหม่ๆ มารองรับไฮโซเท้าหนักเพียบ
ประเดิมต้นปีกับสปอร์ตคาร์จากอังกฤษ“โลตัส” รุ่น 2-อีเลฟเว่น (2-eleven)รถแข่งหลังคาเปิด ใช้พื้นฐานจากรุ่น “อีลิส” ขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์วางกลาง โดยขุมพลัง 2ZZ-GE ขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบ ซูเปอร์ชาร์จ 252 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ยกลูกมาจาก “เอ็กซีส เอส” จุดเด่นอีกประการคือตัวถังที่ทำจากคาร์บอนเคฟลาร์ ที่นิชคาร์สั่งทำพิเศษเพียงคันเดียวในโลก ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา เพียง 670 กิโลกรัม ด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./กม. ทำได้ประมาณ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 241 กม./ชม. สนนราคาประมาณ 8-9 ล้านบาท
โดย “นิชคาร์”จะเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้ พร้อมดูกระแสตอบรับ ก่อนปูทางไปถึงโปรเจกต์ใหญ่อย่าง “โลตัส 2-อีเลฟเว่น วันเมคเรซ”
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราคงจะตบเท้าเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2009 โดยเตรียมรถทุกแบรนด์ในสังกัดมาอวดโฉม พร้อมกันนี้ยังส่งรถยนต์รุ่นใหม่คือ โลตัส 2-อีเลฟเว่น ที่จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างการรับรู้ และหวังลึกๆว่า ต่อไปถ้าขายได้ตามเป้าหมาย ก็จะจัดเป็นอีเวนท์แข่งขึ้นมา”วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชคาร์ จำกัด เปิดเผย “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง”
สำหรับอีเวนท์จัดเองแข่งเองอย่าง “โลตัส 2-อีเลฟเว่น วันเมคเรซ” นั้น วิทวัส บอกว่า เป็นโปรเจกต์ล่าสุด ที่ลองหยั่งเชิงคุยกับบรรดานักแข่งรถหลายกลุ่ม แล้วได้เสียงตอบรับดีระดับหนึ่ง ดังนั้นถ้านำเข้ามา และขายได้ถึง 10-12 คัน ก็คงจะจัดแข่งได้ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายไม่เกินปี 2553
นอกจาก “2-อีเลฟเว่น” แล้ว นิชคาร์ ยังเสริมไลน์โลตัสด้วย สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่อย่าง “อีโวลา” (Evola) ที่เปิดตัวในงาน "บริติช อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์" ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
โดยอีโวลา เป็นรถสปอร์ตสายพันธุ์ใหม่ของค่าย (โปรเจกท์ อีเกิ้ล) มากับตัวถังคูเป้ โฉบเฉี่ยว 2+2 ที่นั่ง พยายามใช้จุดเด่นเรื่อง ประสิทธิภาพช่วงล่าง และตัวรถน้ำหนักเบา 1,352 กิโลกรัม ที่ถึงแม้อาจจะดูหนักไปสักหน่อยกับการเป็นรถของโลตัส แต่ถ้าเทียบกับสปอร์ตคาร์อื่นๆแล้วยังถือว่าพอรับได้ ขณะที่เครื่องยนต์ยกของโตโยต้ามาทั้งบล็อกคือ 3.5 ลิตร วี6 แต่โลตัสมาอัพม้าในคอกเองเป็น 276 แรงม้า
ทั้งนี้อีโวลา จะเข้ามาทำตลาดช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยช่วงแรกจะเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งนิชคาร์ตั้งเป้าขายประมาณ 2-3 คันเท่านั้น ก่อนที่ปี 2553 จะมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติเสริมเข้ามา และคาดว่าจะขายมากขึ้นเป็นหลัก 10 คัน
นั่นเป็นรายละเอียดรถยนต์รุ่นใหม่ และแผนการตลาดฉบับล่าสุดของแบรนด์คลาสสิคจากเกาะอังกฤษ ขณะที่กระทิงเปลี่ยวจากอิตาลีอย่างลัมบอร์กินี่ ทางนิชคาร์ ยังเตรียมเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ เช่นกัน…หลังกรกฎาคมปีที่แล้ว เปิดตัว “กัลลาร์โด LP560-4” กับค่าตัว 26.5 ล้านบาท มาปีนี้ นิชคาร์ต่อยอด ซูเปอร์คาร์รุ่นเล็ก ด้วยเวอร์ชันเปิดหลังคา
ผลผลิตใหม่อย่าง “กัลลาร์โด LP560-4 สปายเดอร์” ถูกปรับรูปลักษณ์และสมรรถนะให้ต่างจากรุ่นธรรมดาพอสมควร ทั้ง ชุดสปอยเลอร์รอบคัน กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่ พร้อมไฟท้าย LED ส่วนการเปิดประทุนเป็นแบบ หลังคาอ่อนพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า
เร้าใจยิ่งขึ้นกับน้ำหนักตัวที่ลดลงมาอีก 20 กิโลกรัมเป็น 1,550 กิโลกรัม กอปรกับเครื่องยนต์ วี10 ไดเรกต์อินเจกชัน ขนาด 5,200 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 560 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 55.0 กก.-ม. ที่ 6,500 ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.0 วินาที และความเร็วสูงสุด 324 กม./ชม. นอกจากนี้สปอยเลอร์หลัง ยังยกตัวอัตโนมัติ เมื่อขับเกิน 120 กม./ชม. เพื่อสร้างแรงกดบนตัวถัง ช่วยให้การทรงตัวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กัลลาร์โด LP560-4 สปายเดอร์ เตรียมลุยตลาดไทยช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ กับค่าตัวประมาณ 27-28 ล้านบาท โดยปีแรกนิชคาร์ได้โควต้ามา 4 คัน และคาดว่าจะขายหมดเกลี้ยงในไม่ช้า
ทั้งหมดเป็นรถสปอร์ตและซูเปอร์คาร์สายพันธุ์แรง ที่นิชคาร์เตรียมนำมาเปิดตลาดปีนี้ และแม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะดูซึมๆ แต่ “วิทวัส” เชื่อว่าจะประคองยอดขายให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่ทำได้ 80 คันแน่นอน
ตลาดรถยนต์ในปี 2552 ที่เชื่อว่าจะเป็นปี “วัวบ้า”(ปีก่อนเรียก“หนูไฟ”) จากพิษเศรษฐกิจ จนส่งผลให้ยอดขายซบ กำลังซื้อหดหาย...แต่นั้นน่าจะเป็นข้อเท็จจริงใน “ตลาดแมส” ของผู้บริโภคระดับกลาง ส่วนตลาดรถยนต์เฉพาะกลุ่ม หรือที่เรียกกันว่า“นิชมาร์เก็ต”นั้น คงอยู่นอกเหนือจากภาวะดังกล่าว หรือถ้าได้รับผลกระทบก็คงน้อยนิด เหตุเพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นพวกเศรษฐีซื้อรถเป็นของเล่น หรือตัดสินใจซื้อจากโปรดักต์โดนใจ มากกว่าจะกังวลเรื่องเงิน
หนึ่งในค่ายที่ขายไปยิ้มไปอย่าง “นิชคาร์” ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการเพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับรถยนต์ 4 แบรนด์ ทั้ง ลัมบอร์กินี(Lamborghini) โลตัส (Lotus) ฮัมเมอร์ (Hummer)และสปอร์ตพันธุ์หรู แอสตัน มาร์ติน (Aston Martin) ที่ปีนี้บิ๊กบอส “วิทวัส ชินบารมี”ยังเตรียมอาวุธใหม่ๆ มารองรับไฮโซเท้าหนักเพียบ
ประเดิมต้นปีกับสปอร์ตคาร์จากอังกฤษ“โลตัส” รุ่น 2-อีเลฟเว่น (2-eleven)รถแข่งหลังคาเปิด ใช้พื้นฐานจากรุ่น “อีลิส” ขับเคลื่อนล้อหลัง เครื่องยนต์วางกลาง โดยขุมพลัง 2ZZ-GE ขนาด 1.8 ลิตร 4 สูบ ซูเปอร์ชาร์จ 252 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ยกลูกมาจาก “เอ็กซีส เอส” จุดเด่นอีกประการคือตัวถังที่ทำจากคาร์บอนเคฟลาร์ ที่นิชคาร์สั่งทำพิเศษเพียงคันเดียวในโลก ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา เพียง 670 กิโลกรัม ด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./กม. ทำได้ประมาณ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 241 กม./ชม. สนนราคาประมาณ 8-9 ล้านบาท
โดย “นิชคาร์”จะเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์เดือนมีนาคมนี้ พร้อมดูกระแสตอบรับ ก่อนปูทางไปถึงโปรเจกต์ใหญ่อย่าง “โลตัส 2-อีเลฟเว่น วันเมคเรซ”
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราคงจะตบเท้าเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ 2009 โดยเตรียมรถทุกแบรนด์ในสังกัดมาอวดโฉม พร้อมกันนี้ยังส่งรถยนต์รุ่นใหม่คือ โลตัส 2-อีเลฟเว่น ที่จะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างการรับรู้ และหวังลึกๆว่า ต่อไปถ้าขายได้ตามเป้าหมาย ก็จะจัดเป็นอีเวนท์แข่งขึ้นมา”วิทวัส ชินบารมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิชคาร์ จำกัด เปิดเผย “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง”
สำหรับอีเวนท์จัดเองแข่งเองอย่าง “โลตัส 2-อีเลฟเว่น วันเมคเรซ” นั้น วิทวัส บอกว่า เป็นโปรเจกต์ล่าสุด ที่ลองหยั่งเชิงคุยกับบรรดานักแข่งรถหลายกลุ่ม แล้วได้เสียงตอบรับดีระดับหนึ่ง ดังนั้นถ้านำเข้ามา และขายได้ถึง 10-12 คัน ก็คงจะจัดแข่งได้ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายไม่เกินปี 2553
นอกจาก “2-อีเลฟเว่น” แล้ว นิชคาร์ ยังเสริมไลน์โลตัสด้วย สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่อย่าง “อีโวลา” (Evola) ที่เปิดตัวในงาน "บริติช อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์" ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
โดยอีโวลา เป็นรถสปอร์ตสายพันธุ์ใหม่ของค่าย (โปรเจกท์ อีเกิ้ล) มากับตัวถังคูเป้ โฉบเฉี่ยว 2+2 ที่นั่ง พยายามใช้จุดเด่นเรื่อง ประสิทธิภาพช่วงล่าง และตัวรถน้ำหนักเบา 1,352 กิโลกรัม ที่ถึงแม้อาจจะดูหนักไปสักหน่อยกับการเป็นรถของโลตัส แต่ถ้าเทียบกับสปอร์ตคาร์อื่นๆแล้วยังถือว่าพอรับได้ ขณะที่เครื่องยนต์ยกของโตโยต้ามาทั้งบล็อกคือ 3.5 ลิตร วี6 แต่โลตัสมาอัพม้าในคอกเองเป็น 276 แรงม้า
ทั้งนี้อีโวลา จะเข้ามาทำตลาดช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยช่วงแรกจะเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาประมาณ 8 ล้านบาท ซึ่งนิชคาร์ตั้งเป้าขายประมาณ 2-3 คันเท่านั้น ก่อนที่ปี 2553 จะมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติเสริมเข้ามา และคาดว่าจะขายมากขึ้นเป็นหลัก 10 คัน
นั่นเป็นรายละเอียดรถยนต์รุ่นใหม่ และแผนการตลาดฉบับล่าสุดของแบรนด์คลาสสิคจากเกาะอังกฤษ ขณะที่กระทิงเปลี่ยวจากอิตาลีอย่างลัมบอร์กินี่ ทางนิชคาร์ ยังเตรียมเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ เช่นกัน…หลังกรกฎาคมปีที่แล้ว เปิดตัว “กัลลาร์โด LP560-4” กับค่าตัว 26.5 ล้านบาท มาปีนี้ นิชคาร์ต่อยอด ซูเปอร์คาร์รุ่นเล็ก ด้วยเวอร์ชันเปิดหลังคา
ผลผลิตใหม่อย่าง “กัลลาร์โด LP560-4 สปายเดอร์” ถูกปรับรูปลักษณ์และสมรรถนะให้ต่างจากรุ่นธรรมดาพอสมควร ทั้ง ชุดสปอยเลอร์รอบคัน กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่ พร้อมไฟท้าย LED ส่วนการเปิดประทุนเป็นแบบ หลังคาอ่อนพับเก็บได้ด้วยไฟฟ้า
เร้าใจยิ่งขึ้นกับน้ำหนักตัวที่ลดลงมาอีก 20 กิโลกรัมเป็น 1,550 กิโลกรัม กอปรกับเครื่องยนต์ วี10 ไดเรกต์อินเจกชัน ขนาด 5,200 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 560 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 55.0 กก.-ม. ที่ 6,500 ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.0 วินาที และความเร็วสูงสุด 324 กม./ชม. นอกจากนี้สปอยเลอร์หลัง ยังยกตัวอัตโนมัติ เมื่อขับเกิน 120 กม./ชม. เพื่อสร้างแรงกดบนตัวถัง ช่วยให้การทรงตัวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
กัลลาร์โด LP560-4 สปายเดอร์ เตรียมลุยตลาดไทยช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ กับค่าตัวประมาณ 27-28 ล้านบาท โดยปีแรกนิชคาร์ได้โควต้ามา 4 คัน และคาดว่าจะขายหมดเกลี้ยงในไม่ช้า
ทั้งหมดเป็นรถสปอร์ตและซูเปอร์คาร์สายพันธุ์แรง ที่นิชคาร์เตรียมนำมาเปิดตลาดปีนี้ และแม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะดูซึมๆ แต่ “วิทวัส” เชื่อว่าจะประคองยอดขายให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่ทำได้ 80 คันแน่นอน
