สถาบันประกันภัยบนทางหลวง (Insurance Institute for Highway Safety - IIHS) ในสหรัฐอเมริกา ยกให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส (W204)เป็นหนึ่งใน 72 ยนตรกรรมที่มีความปลอดภัยสูงสุดในปี 2009 หรือ Top Safety Pick 2009 หลังผ่านการทดสอบการชน
ในแต่ละปี ผู้เชี่ยวชาญจาก IIHS ได้จัดอันดับรถยนต์รุ่นใหม่โดยใช้เกณฑ์พื้นฐานด้านความปลอดภัย อันเป็นข้อมูลที่สำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งจากการทดสอบครั้งล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสได้ถูกนำมาประเมินประสิทธิภาพการชนด้านหน้าและด้านข้างโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกา และจากผลการทดสอบพบว่าระบบความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส สามารถป้องกันไม่ให้กระดูกต้นคอบาดเจ็บจากแรงปะทะที่เกิดขึ้น ทั้งยังได้รับคะแนนสูงสุดจากการทดสอบในทุกๆ ด้าน (G-Good)
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสยังทำคะแนนสูงสุดในการทดสอบประสิทธิภาพการรับแรงปะทะ ด้วยถุงลมนิรภัยจำนวน 7 ใบ ที่ทำงานควบคู่ไปกับเข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ พร้อมประสานกับพนักพิงศีรษะแบบ NECK-PRO head restraints ซึ่งทำหน้าที่หนุนค้ำศีรษะและปกป้องไม่ให้กระดูกต้นคอบาดเจ็บจากแรงปะทะที่เกิดขึ้น โอบรับเพื่อป้องกันการบาดเจ็บบริเวณคอเมื่อเกิดการชนปะทะ
อย่างไรก็ตามโครงสร้างของตัวถังรถได้ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัย หลังเกิดการชนจากด้านหน้า โดยแรงปะทะจะถูกสลายออกไปตามจุดรับแรงกระแทกต่างๆ อันหมายถึง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะได้รับการปกป้องด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในส่วนของห้องโดยสาร ซึ่งร้อยละ 70 ของแผงตัวถังนั้นทำจากวัสดุอัลลอยด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงแต่ให้น้ำหนักเบา จึงทำให้ห้องโดยสารภายในได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
การจัดอันดับให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีคลาสอยู่ใน Top Safety Pick 2009 นั้น IIHS ได้ยืนยันถึงประสิทธิภาพในการปะทะการชนที่ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับ Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) ซึ่งเป็นรับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว และยังจัดให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส เป็นรถยนต์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในบรรดารถยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาด
สำหรับในประเทศไทยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ C 200 KOMPRESSOR ELEGANCE (ราคา 2.799 ล้านบาท) และ C 200 KOMPRESSOR AVANTGARDE (2.999 ล้านบาท) โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด1,796 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที รวมถึง C 230 2.5 KOMPRESSOR AVANTGARDE (ราคา 3.499 ล้านบาท) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาด 2,496 ซีซี ให้กำลังสูงสุด ถึง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดถึง 245 นิวตันเมตร ที่ 2,900 รอบต่อนาที โดยทั้งหมดเป็นรุ่นที่ประกอบภายในประเทศ
ในแต่ละปี ผู้เชี่ยวชาญจาก IIHS ได้จัดอันดับรถยนต์รุ่นใหม่โดยใช้เกณฑ์พื้นฐานด้านความปลอดภัย อันเป็นข้อมูลที่สำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า ซึ่งจากการทดสอบครั้งล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสได้ถูกนำมาประเมินประสิทธิภาพการชนด้านหน้าและด้านข้างโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกา และจากผลการทดสอบพบว่าระบบความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส สามารถป้องกันไม่ให้กระดูกต้นคอบาดเจ็บจากแรงปะทะที่เกิดขึ้น ทั้งยังได้รับคะแนนสูงสุดจากการทดสอบในทุกๆ ด้าน (G-Good)
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสยังทำคะแนนสูงสุดในการทดสอบประสิทธิภาพการรับแรงปะทะ ด้วยถุงลมนิรภัยจำนวน 7 ใบ ที่ทำงานควบคู่ไปกับเข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ พร้อมประสานกับพนักพิงศีรษะแบบ NECK-PRO head restraints ซึ่งทำหน้าที่หนุนค้ำศีรษะและปกป้องไม่ให้กระดูกต้นคอบาดเจ็บจากแรงปะทะที่เกิดขึ้น โอบรับเพื่อป้องกันการบาดเจ็บบริเวณคอเมื่อเกิดการชนปะทะ
อย่างไรก็ตามโครงสร้างของตัวถังรถได้ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัย หลังเกิดการชนจากด้านหน้า โดยแรงปะทะจะถูกสลายออกไปตามจุดรับแรงกระแทกต่างๆ อันหมายถึง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะได้รับการปกป้องด้วยระบบความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในส่วนของห้องโดยสาร ซึ่งร้อยละ 70 ของแผงตัวถังนั้นทำจากวัสดุอัลลอยด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงแต่ให้น้ำหนักเบา จึงทำให้ห้องโดยสารภายในได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
การจัดอันดับให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีคลาสอยู่ใน Top Safety Pick 2009 นั้น IIHS ได้ยืนยันถึงประสิทธิภาพในการปะทะการชนที่ได้มาตรฐานเทียบเท่ากับ Euro NCAP (European New Car Assessment Programme) ซึ่งเป็นรับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว และยังจัดให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส เป็นรถยนต์ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในบรรดารถยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาด
สำหรับในประเทศไทยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันคือ C 200 KOMPRESSOR ELEGANCE (ราคา 2.799 ล้านบาท) และ C 200 KOMPRESSOR AVANTGARDE (2.999 ล้านบาท) โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด1,796 ซีซี ให้กำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตันเมตร ที่ 2,800 รอบต่อนาที รวมถึง C 230 2.5 KOMPRESSOR AVANTGARDE (ราคา 3.499 ล้านบาท) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาด 2,496 ซีซี ให้กำลังสูงสุด ถึง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า พร้อมให้แรงบิดสูงสุดถึง 245 นิวตันเมตร ที่ 2,900 รอบต่อนาที โดยทั้งหมดเป็นรุ่นที่ประกอบภายในประเทศ
