ข่าวในประเทศ - ปิดท้ายไตรมาสที่สามด้วยอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบปีสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ โดยเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีปริมาณการจดทะเบียนเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 26% ส่งผลให้ยอดสะสมนับตั้งแต่ต้นปีพุ่งทะลุเกินกว่า 1.3 ล้านคัน ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยหลักเดิม อันได้แก่ กลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นผู้บริโภคหลักของตลาดมีกำลังซื้อเพิ่ม ประกอบกับสภาวะราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้ใช้รถทั่วไปหันเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ และที่สำคัญปัจจัยนี้ยังผลักดันให้รถที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน โดยเฉพาะรถแบบเครื่องยนต์หัวฉีด ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ล่าสุดมียอดจดทะเบียนเพิ่มมากถึง 160% ขณะค่ายผู้ผลิตเร่งตอบสนองความต้องการตลาด ด้วยการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถรุ่นใหม่ๆ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์หัวฉีด พร้อมรุกกิจกรรมเข้าถึงและขยายกลุ่มเป้าหมาย อันเป็นการสร้างแรงกระตุ้นต่อเนื่องให้ตลาดในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงย่างเข้าสู่ฤดูของการขาย มีความคึกคักและตื่นตัวสูงยิ่งขึ้น
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงยอดการจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่า ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นเดือนปิดท้ายของไตรมาสที่สามนั้น มีปริมาณการจดทะเบียนโดยรวมทั้งสิ้น 147,510 คัน ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 117,210 คันแล้ว มียอดการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น 30,300 คัน หรือมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 26% โดยนับเป็นอัตราการขยายตัวของตลาดสูงที่สุดในรอบปีนี้ อันเป็นผลผลักดันให้ปริมาณการจดทะเบียนสะสมนับตั้งแต่ต้นปี จนกระทั่งถึงสิ้นสุดไตรมาสที่สาม คือ เดือน ม.ค. – ก.ย. นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 1,323,606 คัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 7%
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดมีการขยายตัวเป็นอย่างมากนั้น ยังคงเป็นความต่อเนื่องมาจากปัจจัยหลักเดิม อันได้แก่การมีรายได้เพิ่มขึ้นของกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาด ส่งผลให้กำลังซื้อในตลาดมีสูง โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพราะราคาที่สูงขึ้นของผลผลิตทางการเกษตรนับตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีเป็นต้นมา
ในขณะเดียวกันจากสภาวะของราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน ยังมีส่วนทำให้ผู้ใช้รถโดยทั่วไปให้ความสำคัญและคำนึงถึงความประหยัด จึงเป็นแรงกระตุ้นให้มีการหันเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการประหยัดน้ำมัน ได้แก่ รถแบบเครื่องยนต์หัวฉีด ซึ่งในช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา รถแบบเครื่องยนต์หัวฉีดได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และมีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คือ ระหว่างเดือน ก.ค. – ก.ย. นั้น มียอดจดทะเบียน 5,049 คัน 7,330 คัน และ 19,045 คัน ตามลำดับ เทียบเท่าอัตราการขยายตัว คือ 45% และ 160% ตามลำดับ
ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ประจำปี 2551
นอกจากนั้นแล้วรถในรูปแบบครอบครัว ซึ่งเป็นรถอีกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการประหยัดน้ำมัน ก็ได้รับความนิยมและความสนใจจากตลาดเป็นอย่างมากเช่นกัน อันเป็นผลให้สัดส่วนตลาดของรถประเภทนี้มีอัตราเพิ่มมากขึ้นเป็น 54% จากที่ในช่วงต้นปีมีสัดส่วนเพียง 50% เท่านั้น ทั้งนี้ปริมาณการจดทะเบียนของรถแบบครอบครัวในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 78,965 คัน
ส่วนรถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ มียอดการจดทะเบียนและสัดส่วนตลาดดังนี้ คือ รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ จำนวน 63,071 คัน สัดส่วนตลาด 43% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 3,781 คัน สัดส่วนตลาด 3% รถแบบสปอร์ต 903 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 790 คัน สัดส่วนตลาด 1%
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารส่วนงานขาย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงยอดการจดทะเบียนป้ายวงกลมของรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่า ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นเดือนปิดท้ายของไตรมาสที่สามนั้น มีปริมาณการจดทะเบียนโดยรวมทั้งสิ้น 147,510 คัน ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 117,210 คันแล้ว มียอดการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น 30,300 คัน หรือมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 26% โดยนับเป็นอัตราการขยายตัวของตลาดสูงที่สุดในรอบปีนี้ อันเป็นผลผลักดันให้ปริมาณการจดทะเบียนสะสมนับตั้งแต่ต้นปี จนกระทั่งถึงสิ้นสุดไตรมาสที่สาม คือ เดือน ม.ค. – ก.ย. นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 1,323,606 คัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 7%
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดมีการขยายตัวเป็นอย่างมากนั้น ยังคงเป็นความต่อเนื่องมาจากปัจจัยหลักเดิม อันได้แก่การมีรายได้เพิ่มขึ้นของกลุ่มเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของตลาด ส่งผลให้กำลังซื้อในตลาดมีสูง โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพราะราคาที่สูงขึ้นของผลผลิตทางการเกษตรนับตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีเป็นต้นมา
ในขณะเดียวกันจากสภาวะของราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน ยังมีส่วนทำให้ผู้ใช้รถโดยทั่วไปให้ความสำคัญและคำนึงถึงความประหยัด จึงเป็นแรงกระตุ้นให้มีการหันเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการประหยัดน้ำมัน ได้แก่ รถแบบเครื่องยนต์หัวฉีด ซึ่งในช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา รถแบบเครื่องยนต์หัวฉีดได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และมีปริมาณการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คือ ระหว่างเดือน ก.ค. – ก.ย. นั้น มียอดจดทะเบียน 5,049 คัน 7,330 คัน และ 19,045 คัน ตามลำดับ เทียบเท่าอัตราการขยายตัว คือ 45% และ 160% ตามลำดับ
ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ประจำปี 2551
ยี่ห้อ | มกราคม | กุมภาพันธ์ | มีนาคม | เมษายน | พฤษภาคม | มิถุนายน | กรฏาคม | สิงหาคม | กันยายน | รวม 9 เดือน |
ฮอนด้า | 98,297 | 96,691 | 98,440 | 89,110 | 103,553 | 112,971 | 110,431 | 96,269 | 100,575 | 873,880 |
ยามาฮ่า | 36,109 | 35,010 | 37,710 | 34,684 | 38,311 | 40,658 | 39,829 | 36,492 | 35,792 | 280,759 |
ซูซูกิ | 6,655 | 6,278 | 5,774 | 4,990 | 5,915 | 7,286 | 7,275 | 7,589 | 8,234 | 62,876 |
ไทเกอร์ | 101 | 73 | 87 | 85 | 106 | 103 | 87 | 53 | 113 | 1,420 |
คาวาซากิ | 687 | 817 | 865 | 638 | 797 | 974 | 921 | 856 | 1,034 | 5,690 |
เจอาร์ดี | 445 | 305 | 250 | 227 | 284 | 559 | 672 | 655 | 303 | 4,626 |
แพล็ตตินัม | 362 | 218 | 219 | 188 | 232 | 159 | 226 | 173 | 140 | 2,509 |
อื่นๆ | 552 | 762 | 1,452 | 873 | 928 | 791 | 916 | 1,008 | 1,319 | 8,315 |
รวมทั้งหมด | 143,208 | 140,217 | 144,797 | 130,795 | 150,126 | 163,501 | 160,357 | 143,095 | 147,510 | 1,240,075 |
นอกจากนั้นแล้วรถในรูปแบบครอบครัว ซึ่งเป็นรถอีกประเภทหนึ่งที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านการประหยัดน้ำมัน ก็ได้รับความนิยมและความสนใจจากตลาดเป็นอย่างมากเช่นกัน อันเป็นผลให้สัดส่วนตลาดของรถประเภทนี้มีอัตราเพิ่มมากขึ้นเป็น 54% จากที่ในช่วงต้นปีมีสัดส่วนเพียง 50% เท่านั้น ทั้งนี้ปริมาณการจดทะเบียนของรถแบบครอบครัวในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 78,965 คัน
ส่วนรถจักรยานยนต์ประเภทอื่นๆ มียอดการจดทะเบียนและสัดส่วนตลาดดังนี้ คือ รถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ จำนวน 63,071 คัน สัดส่วนตลาด 43% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 3,781 คัน สัดส่วนตลาด 3% รถแบบสปอร์ต 903 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 790 คัน สัดส่วนตลาด 1%