ข่าวในประเทศ- นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่าย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยถึงสภาพตลาดรถจักรยานยนต์เดือน พ.ค. ว่า มีปริมาณยอดการจดทะเบียนทั้งสิ้น 135,369 คัน ถือว่าสูงที่สุดในปีนี้และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มีอัตราหดตัวตลาดเพียง 10% ซึ่งหดตัวลดลงน้อยที่สุดในปีนี้ โดยตั้งแต่ ม.ค.-เม.ย. 52 อัตราหดตัวของตลาดมีมากถึง 23%, 15%, 12% และ 19% ตามลำดับ
รายละเอียดยอดการจดทะเบียน พบว่ารถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ระบบจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนถึงกระแสความนิยมและความเชื่อมั่นผู้บริโภค ล่าสุดรถเครื่องยนต์หัวฉีดมีสัดส่วนจากตลาดโดยรวมสูงขึ้น 45% มีอัตราขยายตัวมากขึ้นกว่าเท่าตัวจากเมื่อเดือน ม.ค. ของปีนี้ที่มีสัดส่วน 22% จากความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ ส่งผลให้ฮอนด้าผู้นำตลาด ครองส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี โดยเมื่อ ม.ค. มีอัตราครองตลาด 64% ล่าสุดเดือน พ.ค. ครองตลาดเพิ่มขึ้น 68% ขณะที่ค่ายผู้ผลิตรายอื่นๆ มีอัตราครองตลาดลดลงมาโดยตลอด
โดยเฉพาะตลาดกลุ่มรถแบบ เอ.ที. (Automatic Transmission) หรือแบบเกียร์อัตโนมัติ ที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งฮอนด้าเร่งกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการขายรถกลุ่มนี้แบบเครื่องยนต์หัวฉีดแบบ PGM-FI ที่ให้ประสิทธิภาพประหยัดน้ำมัน สมรรถนะดีขับขี่สนุก ให้ไอเสียน้อย มีความทนทาน และรับประกันระบบหัวฉีดนาน 5 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร ทั้งมุ่งเน้นไปยังรถยอดนิยมรุ่น คลิก-ไอ ส่งผลให้ฮอนด้ามีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มรถแบบ เอ.ที. เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยจากเดือน ม.ค. ที่มีส่วนแบ่งตลาด 38% เพิ่มเป็น 44% เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะค่ายผู้ผลิตอื่นๆ มีสัดส่วนลดน้อยลงเรื่อยมา ที่สำคัญรถฮอนด้าหัวฉีดแบบ เอ.ที. รุ่น คลิก-ไอ ยังเป็นรถยอดนิยมที่มีปริมาณจดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล สูงที่สุดต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นมา
ในส่วนยอดจดทะเบียนโดยรวมเดือน พ.ค.แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 66,314 คัน เทียบเท่าสัดส่วนตลาด 49%, รถแบบ เอ.ที. 63,659 คัน สัดส่วนตลาด47%, รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 3,325 คัน สัดส่วนตลาด 2 %, รถแบบสปอร์ต 951 คัน สัดส่วนตลาด 1% และรถประเภทอื่นๆ 1,120 คัน และยอดจดทะเบียนสะสมช่วงห้าเดือนแรกของปีที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 591,751 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนกันของปีก่อน มีอัตราการเติบโตลดลง 17%
หากแบ่งเป็นค่ายใน 5 เดือน ฮอนด้ามาเป็นอันดับหนึ่ง 388,810 คัน ตามด้วย ยามาฮ่า 165,610 คัน ซูซูกิ 26,881 คัน คาวาซากิ 5,406 คัน เจอาร์ดี 666 คัน แพตตินัม 461 คัน ไทเกอร์ 376 คัน และยี่ห้ออื่นรวมกัน 3,541 คัน
