ข่าวในประเทศ - จุดองศาเดือด! เดือนสิงหาคม เมื่อสองค่ายยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า-มิตซูบิชิ” พร้อมใจเขย่าตลาดรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี (PPV) ส่งรถใหม่ท้าชนแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ด้วยการโหมโรงตั้งแต่ต้นเดือนจากค่ายโตโยต้า เปิดตัว “ฟอร์จูนเนอร์” ใหม่ ที่ทำการไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดเป็นครั้งแรก ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงใส่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยเข้าไปเพียบ พร้อมเพิ่มทางเลือกใหม่เป็น 5 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ลิตร และเบนซิน 2.7 ลิตร เคาะราคา 1.059 – 1.419 ล้านบาท แต่งานนี้ใช่จะกินนิ่มเมื่องานเข้า ค่าย “มิตซูบิชิ” ร่นแผนเผยโฉมพีพีวีโมเดลใหม่ “ปาเจโร สปอร์ต” เร็วขึ้น จากกำหนดเดิมช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ขยับมาเปิดตัวกับสื่อมวลชนปลายเดือนสิงหาคมนี้แทน กับรูปลักษณ์การออกแบบรูปลักษณ์และสมรรถนะเฉกเช่นรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี (SUV) และมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 และ 3.2 ลิตร แว่วๆ สนนราคาน่าดึงดูดใจกว่าแน่นอน!!
พิษน้ำมันดีเซลพุ่งทำให้รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลปั่นป่วนไปหมด ทั้งปิกอัพตลาดใหญ่สุดของไทย รวมถึงรถเครื่องยนต์ดีเซลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง และรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี (PPV : Pick Up Passenger Vehicle ) ซึ่งพัฒนาและใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับปิกอัพ ต่างพากันยอดขายร่วงระนาว แต่ค่ายรถก็หวังว่าอาการช็อกที่เกิดจากราคาน้ำมันดีเซลพุ่ง จะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และเมื่อบวกกับ 6 มาตรการ 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ลดภาษีน้ำมันลงทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงด้วย ทำให้ค่ายรถยังพร้อมที่จะลุยดันยอดขายกันต่อไป
โดยล่าสุดยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” นำร่องสร้างความคึกคักให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่” สู่ตลาดไปเมื่อวานนี้(5 สิงหาคม 2551) ซึ่งเป็นการไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก นับตั้งแต่รถรุ่นนี้แนะนำสู่ตลาดเมื่อ 4 ปีก่อน
สำหรับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ เพิ่มทางเลือกใหม่จาก 3 รุ่น เป็น 5 รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเดิมมีอยู่เพียงรุ่นเบนซิน 2.7V ขับเคลื่อนสองล้อเกียร์อัตโนมัติ และรุ่นดีเซล 3.0G พร้อมรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปี 2551 ได้เพิ่มรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 2 ล้อเกียร์อัตโนมัติ และดีเซล 3.0V NAVI ที่เพิ่มระบบนำทางเข้ามาด้วย ส่วนขุมกำลังยังเป็นบล็อกเดิม คือ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 1KD-FTV 3.0 ลิตร 163 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2TR-FE 2.7 ลิตร 160 แรงม้า พร้อมกับการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนเพื่อรองรับการใช้น้ำมันดีเซลชนิด B5 ได้ ดังรายระเอียดที่เรานำเสนอไปแล้ว
ด้านสนนราคาเทียบกับรุ่นเดิมที่มีจำหน่าย ปรับเพิ่มขึ้น 23,000- 53,000 บาท โดยแต่ละรุ่นมีราคาดังนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ รุ่น 3.0V 4WD A/T Navi ราคา 1,419,000 บาท รุ่น 3.0V 4WD A/T ราคา 1,309,000 บาท รุ่น 3.0V 2WD A/T ราคา 1,249,000 บาท รุ่น 2.7V 2WD A/T ราคา1,149,000 บาท และรุ่น 3.0G 4WD M/T ราคา 1,059,000 บาท
เรียกว่าโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มาได้ถูกจังหวะที่ราคาน้ำมันกำลังลดลง แต่ใช่ว่างานนี้จะฟันยอดขายนิ่มๆ เหมือนที่ผ่านมา เพราะมีงานเข้าเตรียมรับมือกับพีพีวีน้องใหม่จากค่าย “มิตซูบิชิ” ซึ่งจะส่งมาท้าชนแทนรุ่น “จี-แวกอน” ที่ยุติการทำตลาดไปหลายปีก่อน ภายใต้ชื่อ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” โดยมีกำหนดเปิดตัวรอบสื่อมวลชนช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ร่นเร็วขึ้นจากเดิมที่จะเปิดตัวช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แทน
สำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต พัฒนาบนพื้นฐานของปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน แต่ได้ออกแบบรูปลักษณ์และสมรรถนะเฉกเช่นรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี(SUV : Sport Utility Vehicle) โดยปาเจโร สปอร์ต ใหม่ จะมีทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยมีเครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล ให้เลือก 2 ขนาด 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร ที่วางอยู่ในปิกอัพรุ่นไทรทัน
โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมรูปทรงที่ปราดเปรียว พร้อมการตกแต่งภายนอกสไตล์สปอร์ต เติมเต็มความลงตัว โครงสร้างตัวถังให้ใหญ่ขึ้นด้วยโครงสร้างแบบขั้นบันไดใหม่ เพื่อความทนทานและเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและทันสมัย ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย ตอบสนองความต้องการ และรู้สึกปลอดภัย พร้อมที่นั่งแบบ 3 แถว (รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัว
จุดเด่นอีกอย่างของปาเจโร่ สปอร์ต อยู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู โดยสามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน
แต่งานนี้มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต จะสามารถท้าชนและช่วงชิงยอดขายจาก โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้หรือไม่? ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างประกอบ โดยเฉพาะราคาจำหน่ายที่แว่วว่าสวยกว่าคู่แข่งแน่ ส่วนจะดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากน้อยแค่ไหน? คงต้องติดตามในปลายเดือนสิงหาคมนี้…
พิษน้ำมันดีเซลพุ่งทำให้รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลปั่นป่วนไปหมด ทั้งปิกอัพตลาดใหญ่สุดของไทย รวมถึงรถเครื่องยนต์ดีเซลอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง และรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี (PPV : Pick Up Passenger Vehicle ) ซึ่งพัฒนาและใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับปิกอัพ ต่างพากันยอดขายร่วงระนาว แต่ค่ายรถก็หวังว่าอาการช็อกที่เกิดจากราคาน้ำมันดีเซลพุ่ง จะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และเมื่อบวกกับ 6 มาตรการ 6 เดือน เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่ลดภาษีน้ำมันลงทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงด้วย ทำให้ค่ายรถยังพร้อมที่จะลุยดันยอดขายกันต่อไป
โดยล่าสุดยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” นำร่องสร้างความคึกคักให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่” สู่ตลาดไปเมื่อวานนี้(5 สิงหาคม 2551) ซึ่งเป็นการไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก นับตั้งแต่รถรุ่นนี้แนะนำสู่ตลาดเมื่อ 4 ปีก่อน
สำหรับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ เพิ่มทางเลือกใหม่จาก 3 รุ่น เป็น 5 รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเดิมมีอยู่เพียงรุ่นเบนซิน 2.7V ขับเคลื่อนสองล้อเกียร์อัตโนมัติ และรุ่นดีเซล 3.0G พร้อมรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปี 2551 ได้เพิ่มรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 2 ล้อเกียร์อัตโนมัติ และดีเซล 3.0V NAVI ที่เพิ่มระบบนำทางเข้ามาด้วย ส่วนขุมกำลังยังเป็นบล็อกเดิม คือ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 1KD-FTV 3.0 ลิตร 163 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2TR-FE 2.7 ลิตร 160 แรงม้า พร้อมกับการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนเพื่อรองรับการใช้น้ำมันดีเซลชนิด B5 ได้ ดังรายระเอียดที่เรานำเสนอไปแล้ว
ด้านสนนราคาเทียบกับรุ่นเดิมที่มีจำหน่าย ปรับเพิ่มขึ้น 23,000- 53,000 บาท โดยแต่ละรุ่นมีราคาดังนี้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ รุ่น 3.0V 4WD A/T Navi ราคา 1,419,000 บาท รุ่น 3.0V 4WD A/T ราคา 1,309,000 บาท รุ่น 3.0V 2WD A/T ราคา 1,249,000 บาท รุ่น 2.7V 2WD A/T ราคา1,149,000 บาท และรุ่น 3.0G 4WD M/T ราคา 1,059,000 บาท
เรียกว่าโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ มาได้ถูกจังหวะที่ราคาน้ำมันกำลังลดลง แต่ใช่ว่างานนี้จะฟันยอดขายนิ่มๆ เหมือนที่ผ่านมา เพราะมีงานเข้าเตรียมรับมือกับพีพีวีน้องใหม่จากค่าย “มิตซูบิชิ” ซึ่งจะส่งมาท้าชนแทนรุ่น “จี-แวกอน” ที่ยุติการทำตลาดไปหลายปีก่อน ภายใต้ชื่อ “มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต” โดยมีกำหนดเปิดตัวรอบสื่อมวลชนช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ร่นเร็วขึ้นจากเดิมที่จะเปิดตัวช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แทน
สำหรับมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต พัฒนาบนพื้นฐานของปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน แต่ได้ออกแบบรูปลักษณ์และสมรรถนะเฉกเช่นรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี(SUV : Sport Utility Vehicle) โดยปาเจโร สปอร์ต ใหม่ จะมีทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยมีเครื่องยนต์คอมมอนเรล ไดเร็ค อินเจ็คชั่น ดีเซล ให้เลือก 2 ขนาด 2.5 ลิตร และ 3.2 ลิตร ที่วางอยู่ในปิกอัพรุ่นไทรทัน
โดยมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมรูปทรงที่ปราดเปรียว พร้อมการตกแต่งภายนอกสไตล์สปอร์ต เติมเต็มความลงตัว โครงสร้างตัวถังให้ใหญ่ขึ้นด้วยโครงสร้างแบบขั้นบันไดใหม่ เพื่อความทนทานและเพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและทันสมัย ให้ความรู้สึกสะดวกสบาย ตอบสนองความต้องการ และรู้สึกปลอดภัย พร้อมที่นั่งแบบ 3 แถว (รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัว
จุดเด่นอีกอย่างของปาเจโร่ สปอร์ต อยู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Super Select 4WD ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่ใช้ในรถมิตซูบิชิ ปาเจโร เอสยูวี ระดับหรู โดยสามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน
แต่งานนี้มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต จะสามารถท้าชนและช่วงชิงยอดขายจาก โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ได้หรือไม่? ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างประกอบ โดยเฉพาะราคาจำหน่ายที่แว่วว่าสวยกว่าคู่แข่งแน่ ส่วนจะดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากน้อยแค่ไหน? คงต้องติดตามในปลายเดือนสิงหาคมนี้…
