ข่าวในประเทศ - ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” สู้วิกฤตราคาน้ำมันดีเซลพุ่งแซงเบนซิน ได้ฤกษ์ปรับโฉมรถยนต์ในโครงการ IMV Project ปิกอัพ “ไฮลักซ์ วีโก้” และรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “ฟอร์จูนเนอร์” หลังจากทำตลาดมานานครบครึ่งเทอม 4 ปีแล้ว จับตา! เร็วๆ นี้ พาเหรดส่งเขย่าตลาดแน่นอน โดยเฉพาะฟอร์จูนเนอร์ที่ดีลเลอร์ “พิธานพาณิชย์” ชิงบทนำ เปิดเผยข้อมูลรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2551 เปรียบเทียบจุดเปลี่ยนแปลงกับรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ รายละเอียดภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามา พร้อมโชว์รูปภาพแบบจะจะ ในเว็บไซต์ของตนเอง www.phithan-toyota.com งานนี้ยังประกาศเปิดรับจองลูกค้าแล้ว ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการสิงหาคมนี้ ขณะที่ปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ แม้จะยังไม่เปิดเผยชัดๆ เหมือนฟอร์จูนเนอร์ แต่แจ้งลูกค้าเช่นกันจะมีการไมเนอร์เชนจ์ และเตรียมเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยจะมีการประชุมเซลปลายเดือนกรกฎาคม นี้ เรียกว่าใครจะเลือกซื้อรุ่นปัจจุบันที่มีแคมเปญและส่วนลดหลายหมื่นบาท หรือจะรอรุ่นใหม่ราคาปรับเพิ่มเชิญเลือกถอยได้ตามสบาย
จากรายงานยอดจำหน่ายตลาดปิกอัพ (ปิกอัพ+พีพีวี) ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2551 โตโยต้ายังคงประสบความสำเร็จมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งประเภทปิกอัพ 1 ตัน และรถอเนกประสงค์ที่พัฒนามาจากปิกอัพ หรือพีพีวี (PPV) ด้วยยอดรวม 74,569 คัน และมีอีซูซุที่เคยครองความยิ่งใหญ่ในตลาดนี้ตามมาเป็นอันดับสอง 67,445 คัน
นั่นแสดงให้เห็นว่าปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” และรถอเนกประสงค์พีพีวี “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” ยังได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากที่สุด ถึงแม้จะเปิดตัวทำตลาดมานานหลายปี แต่ก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่คู่แข่งต่างกันพากันเปิดตัวโฉมใหม่ หรือไมเนอร์เชนจ์ไม่รู้กี่รอบแล้ว ซึ่งก็ยังไม่สามารถฉุดให้โตโยต้าร่วงลงมาได้ ยิ่งสถานการณ์ตลาดปิกอัพที่กำลังประสบปัญหาวิกฤติราคาน้ำมันดีเซลแพง ฉุดภาพรวมทั้งตลาดชะลอการเติบโตลง จึงเป็นเรื่องยากที่แต่ละค่ายจะมีแรงคว่ำโตโยต้าลงได้
โดยเฉพาะในเร็วๆ นี้ โตโยต้ากำลังจะปรับโฉมรถอเนกประสงค์พีพีวีฟอร์จูนเนอร์ และปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ ซึ่งถึงกำหนดครึ่งเทอม 4 ปี ที่อยู่ในตลาดมา จึงได้ฤกษ์ที่จะต้องทำการปรับไมเนอร์เชนจ์เสียที ฉะนั้นค่ายรถคู่แข่งมีงานเข้าแน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว เมื่อมาเจอรูปลักษณ์ใหม่เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโค่นโตโยต้า แค่จะรักษายอดขายตัวเองให้เท่าเดิมก็สาหัสอยู่แล้ว
ทั้งนี้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของการปรับโฉม รถในสายพันธ์ IMV Project ทั้งสองรุ่นนี้ ได้เล็ดลอดผ่านออกมาจากตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ของโตโยต้าค่อนข้างละเอียดพอสมควร โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์แบบพีพีวีรุ่นฟอร์จูนเนอร์ ที่เมื่อทาง “พิธานพาณิชย์” ได้มีการลงข้อมูลของรถรุ่นนี้ในเว็ปไซต์ของตนเอง www.phithan-toyota.com พร้อมกับเปรียบเทียบรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงของรถยนต์รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2551 กับรุ่นที่กำลังขายอยู่ในปัจจุบัน
เริ่มตั้งแต่ไลน์ผลิตภัณฑ์ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ที่ถึงแม้จะมีให้เลือก 2 รุ่น เหมือนกับรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน คือ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 1KD-FTV 3.0 ลิตร 163 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2TR-FE 2.7 ลิตร 160 แรงม้า แต่ได้เพิ่มจำนวนรุ่นย่อยให้เลือกมากถึง 5 รุ่น ซึ่งเดิมมีอยู่เพียงรุ่นเบนซิน 2.7V ขับเคลื่อนสองล้อเกียร์อัตโนมัติ และรุ่นดีเซล 3.0G พร้อมรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปี 2551 ได้เพิ่มรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 2 ล้อเกียร์อัตโนมัติ และดีเซล 3.0V NAVI ที่เพิ่มระบบนำทางเข้ามาด้วย
ส่วนรายละเอียดภายนอกที่เปลี่ยนแปลง ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปี 2551 ได้ทำการออกแบบกระจังหน้าใหม่ แบบ 3 ชั้น ลายรังผึ้ง รวมถึงไฟหน้าใหม่พร้อมโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ จากเดิมที่เป็นแบบมัลติรีเฟลคเตอร์ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบโคมสีแดง-ขาว ขณะที่เดิมจะเป็นโคมแดง ล้อเปลี่ยนจากแม็ก 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/70R16 เป็นล้อแม็ก 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R17
ภายในตกแต่งสีใหม่ san-beige จากปัจจุบันเป็นสี Ivory คอนโซลหน้าสีเงินเมทัลลิคในรุ่นเดิม แต่ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ในรุ่น V จะเป็นแบบลายไม้หรูหราขึ้น แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศออกแบบใหม่ วิทยุยกระดับเป็นแบบ 2 DIN 6 CD (ยกเว้นรุ่น 3.0G เป็น 1CD) พร้อมเล่น MP3/WMA และระบบ ASL ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ และยังเพิ่มความสะดวกสบายจากรุ่นปัจจุบัน ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ(Cruise Control) และกระจกมองข้าพับไฟฟ้าและเบาะด้านคนขับปรับไฟฟ้า ขณะที่แอร์ด้านหลังเปลี่ยนเป็นแบบ 2 ตอนบนเพดานพร้อมสวิตช์ปรับความแรง จากรุ่นปัจจุบันแบบด้านข้างฝั่งเดียวเฉพาะเบาะตอนสาม
ไม่เพียงเท่านั้นโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ปี 2551 ยังเพิ่มความปลอดภัยกับระบบกระจายแรงเบรก เป็นแบบอิเลคทรอนิก(EBD) พร้อมระบบช่วยแรงเบรกฉุกเฉิน(BA) ซึ่งรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบกลไก LSPV และยังเพิ่มระบบควบคุมการทรงตัว VSC พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) เข้ามาเฉกเช่นเดียวกับรถหรูหราของโตโยต้า ซึ่งในรุ่นปัจจุบันจะไม่มีระบบดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบถามตัวแทนขายของพิธานพาณิชย์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งขณะนี้เปิดรับจองลูกค้าแล้ว ส่วนสนนราคายังไม่เปิดเผยออกมาจากโตโยต้า ประเทศไทย แต่คาดว่าจะปรับเพิ่มแน่นอน และไม่มีส่วนลดหรือแคมเปญเหมือนรุ่นปัจจุบัน โดยรุ่นที่มีจำหน่ายอยู่เดิมจะปรับขึ้นเพียงไม่กี่หมื่นบาท แต่ในรุ่นที่เข้ามาในสายผลิตภัณฑ์ใหม่จะปรับเพิ่มขึ้นหลายหมื่นบาทพอสมควร
ในส่วนของปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดชัดเจน แต่จากข่าวล่าสุดบอกว่าในเดือนนี้จะมีการประชุมฝ่ายขายเกี่ยวกับตัว ไฮลักซ์ วีโก้ หลังจากเลื่อนประชุมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มก็น่าจะทำการไมเนอร์เชนจ์เช่นเดียวกันโดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะทำทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะภายนอกจะเห็นชัดเจน ในส่วนของด้านหน้า ที่มีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
พร้อมกันนี้ไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ ยังจะมีรุ่นแค็บเปิดได้แนะนำสู่ตลาดด้วย โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ในส่วนของเครื่องยนต์ก่อนหน้านี้มีหลายกระแสข่าว ทั้งจะปรับจูนเครื่องยนต์ให้มีกำลังเพิ่มขึ้น และบางกระแสยืนยันยังไม่ปรับเปลี่ยนอะไร แต่หากดูสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง คาดว่าโตโยต้าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับฟอร์จูนเนอร์ที่ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง
สำหรับราคาจำหน่ายของวีโก้ ไมเนอร์เชนจ์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ส่วนรุ่นใหม่แค็บเปิดได้คาดว่าจะมีราคาสูงกว่า รุ่นเอ็กซ์ตร้าแค็บในปัจจุบันพอสมควร
แม้ภาพรวมของตลาดปิกอัพจะไม่ดีนัก จากผลกระทบวิกฤตราคาน้ำมันดีเซลพุ่งแซงเบนซิน จากการปรับโฉมของยักษ์ใหญ่โตโยต้า น่าจะกลับมาช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคักอีกครั้ง ส่วนใครที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์แบบพีพีวีและปิกอัพอยู่ โดยไม่ห่วงเรื่องแคมเปญส่วนลด แต่อยากได้ของใหม่สดซิงๆ โปรดอดใจไว้รอเร็วๆ นี้…
*** หมายเหตุ - ภาพทั้งหมดเป็นของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ซึ่งเผยอยู่ใน www.phithan-toyota.com
จากรายงานยอดจำหน่ายตลาดปิกอัพ (ปิกอัพ+พีพีวี) ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2551 โตโยต้ายังคงประสบความสำเร็จมียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ทั้งประเภทปิกอัพ 1 ตัน และรถอเนกประสงค์ที่พัฒนามาจากปิกอัพ หรือพีพีวี (PPV) ด้วยยอดรวม 74,569 คัน และมีอีซูซุที่เคยครองความยิ่งใหญ่ในตลาดนี้ตามมาเป็นอันดับสอง 67,445 คัน
นั่นแสดงให้เห็นว่าปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” และรถอเนกประสงค์พีพีวี “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” ยังได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากที่สุด ถึงแม้จะเปิดตัวทำตลาดมานานหลายปี แต่ก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่คู่แข่งต่างกันพากันเปิดตัวโฉมใหม่ หรือไมเนอร์เชนจ์ไม่รู้กี่รอบแล้ว ซึ่งก็ยังไม่สามารถฉุดให้โตโยต้าร่วงลงมาได้ ยิ่งสถานการณ์ตลาดปิกอัพที่กำลังประสบปัญหาวิกฤติราคาน้ำมันดีเซลแพง ฉุดภาพรวมทั้งตลาดชะลอการเติบโตลง จึงเป็นเรื่องยากที่แต่ละค่ายจะมีแรงคว่ำโตโยต้าลงได้
โดยเฉพาะในเร็วๆ นี้ โตโยต้ากำลังจะปรับโฉมรถอเนกประสงค์พีพีวีฟอร์จูนเนอร์ และปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ ซึ่งถึงกำหนดครึ่งเทอม 4 ปี ที่อยู่ในตลาดมา จึงได้ฤกษ์ที่จะต้องทำการปรับไมเนอร์เชนจ์เสียที ฉะนั้นค่ายรถคู่แข่งมีงานเข้าแน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว เมื่อมาเจอรูปลักษณ์ใหม่เช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องโค่นโตโยต้า แค่จะรักษายอดขายตัวเองให้เท่าเดิมก็สาหัสอยู่แล้ว
ทั้งนี้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของการปรับโฉม รถในสายพันธ์ IMV Project ทั้งสองรุ่นนี้ ได้เล็ดลอดผ่านออกมาจากตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ของโตโยต้าค่อนข้างละเอียดพอสมควร โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์แบบพีพีวีรุ่นฟอร์จูนเนอร์ ที่เมื่อทาง “พิธานพาณิชย์” ได้มีการลงข้อมูลของรถรุ่นนี้ในเว็ปไซต์ของตนเอง www.phithan-toyota.com พร้อมกับเปรียบเทียบรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงของรถยนต์รุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2551 กับรุ่นที่กำลังขายอยู่ในปัจจุบัน
เริ่มตั้งแต่ไลน์ผลิตภัณฑ์ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ที่ถึงแม้จะมีให้เลือก 2 รุ่น เหมือนกับรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน คือ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 1KD-FTV 3.0 ลิตร 163 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2TR-FE 2.7 ลิตร 160 แรงม้า แต่ได้เพิ่มจำนวนรุ่นย่อยให้เลือกมากถึง 5 รุ่น ซึ่งเดิมมีอยู่เพียงรุ่นเบนซิน 2.7V ขับเคลื่อนสองล้อเกียร์อัตโนมัติ และรุ่นดีเซล 3.0G พร้อมรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปี 2551 ได้เพิ่มรุ่นดีเซล 3.0V ขับเคลื่อน 2 ล้อเกียร์อัตโนมัติ และดีเซล 3.0V NAVI ที่เพิ่มระบบนำทางเข้ามาด้วย
ส่วนรายละเอียดภายนอกที่เปลี่ยนแปลง ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ปี 2551 ได้ทำการออกแบบกระจังหน้าใหม่ แบบ 3 ชั้น ลายรังผึ้ง รวมถึงไฟหน้าใหม่พร้อมโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ จากเดิมที่เป็นแบบมัลติรีเฟลคเตอร์ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบโคมสีแดง-ขาว ขณะที่เดิมจะเป็นโคมแดง ล้อเปลี่ยนจากแม็ก 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/70R16 เป็นล้อแม็ก 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R17
ภายในตกแต่งสีใหม่ san-beige จากปัจจุบันเป็นสี Ivory คอนโซลหน้าสีเงินเมทัลลิคในรุ่นเดิม แต่ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ในรุ่น V จะเป็นแบบลายไม้หรูหราขึ้น แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศออกแบบใหม่ วิทยุยกระดับเป็นแบบ 2 DIN 6 CD (ยกเว้นรุ่น 3.0G เป็น 1CD) พร้อมเล่น MP3/WMA และระบบ ASL ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ และยังเพิ่มความสะดวกสบายจากรุ่นปัจจุบัน ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ(Cruise Control) และกระจกมองข้าพับไฟฟ้าและเบาะด้านคนขับปรับไฟฟ้า ขณะที่แอร์ด้านหลังเปลี่ยนเป็นแบบ 2 ตอนบนเพดานพร้อมสวิตช์ปรับความแรง จากรุ่นปัจจุบันแบบด้านข้างฝั่งเดียวเฉพาะเบาะตอนสาม
ไม่เพียงเท่านั้นโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ปี 2551 ยังเพิ่มความปลอดภัยกับระบบกระจายแรงเบรก เป็นแบบอิเลคทรอนิก(EBD) พร้อมระบบช่วยแรงเบรกฉุกเฉิน(BA) ซึ่งรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบกลไก LSPV และยังเพิ่มระบบควบคุมการทรงตัว VSC พร้อมระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC) เข้ามาเฉกเช่นเดียวกับรถหรูหราของโตโยต้า ซึ่งในรุ่นปัจจุบันจะไม่มีระบบดังกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบถามตัวแทนขายของพิธานพาณิชย์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งขณะนี้เปิดรับจองลูกค้าแล้ว ส่วนสนนราคายังไม่เปิดเผยออกมาจากโตโยต้า ประเทศไทย แต่คาดว่าจะปรับเพิ่มแน่นอน และไม่มีส่วนลดหรือแคมเปญเหมือนรุ่นปัจจุบัน โดยรุ่นที่มีจำหน่ายอยู่เดิมจะปรับขึ้นเพียงไม่กี่หมื่นบาท แต่ในรุ่นที่เข้ามาในสายผลิตภัณฑ์ใหม่จะปรับเพิ่มขึ้นหลายหมื่นบาทพอสมควร
ในส่วนของปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดชัดเจน แต่จากข่าวล่าสุดบอกว่าในเดือนนี้จะมีการประชุมฝ่ายขายเกี่ยวกับตัว ไฮลักซ์ วีโก้ หลังจากเลื่อนประชุมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มก็น่าจะทำการไมเนอร์เชนจ์เช่นเดียวกันโดยการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะทำทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะภายนอกจะเห็นชัดเจน ในส่วนของด้านหน้า ที่มีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์
พร้อมกันนี้ไฮลักซ์ วีโก้ ใหม่ ยังจะมีรุ่นแค็บเปิดได้แนะนำสู่ตลาดด้วย โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ ในส่วนของเครื่องยนต์ก่อนหน้านี้มีหลายกระแสข่าว ทั้งจะปรับจูนเครื่องยนต์ให้มีกำลังเพิ่มขึ้น และบางกระแสยืนยันยังไม่ปรับเปลี่ยนอะไร แต่หากดูสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง คาดว่าโตโยต้าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับฟอร์จูนเนอร์ที่ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง
สำหรับราคาจำหน่ายของวีโก้ ไมเนอร์เชนจ์ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ส่วนรุ่นใหม่แค็บเปิดได้คาดว่าจะมีราคาสูงกว่า รุ่นเอ็กซ์ตร้าแค็บในปัจจุบันพอสมควร
แม้ภาพรวมของตลาดปิกอัพจะไม่ดีนัก จากผลกระทบวิกฤตราคาน้ำมันดีเซลพุ่งแซงเบนซิน จากการปรับโฉมของยักษ์ใหญ่โตโยต้า น่าจะกลับมาช่วยกระตุ้นตลาดให้คึกคักอีกครั้ง ส่วนใครที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์แบบพีพีวีและปิกอัพอยู่ โดยไม่ห่วงเรื่องแคมเปญส่วนลด แต่อยากได้ของใหม่สดซิงๆ โปรดอดใจไว้รอเร็วๆ นี้…
*** หมายเหตุ - ภาพทั้งหมดเป็นของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ซึ่งเผยอยู่ใน www.phithan-toyota.com
