ข่าวต่างประเทศ - หลังตกเป็นข่าวว่าฮัมเมอร์กำลังถูกขายทอดให้กับแบรนด์รถยนต์ชื่อดังของอินเดียอย่างทาทา และมหินธรา แอนด์ มหินธรา แต่ติดปัญหาในเรื่องของการใช้ยุทโธปกรณ์ทางด้านการทหารที่ต่างขั้วกัน ในตอนนี้ ข่าวเรื่องการขายทอดตลาดของฮัมเมอร์ยังมีอะไรใหม่ๆ ออกมาติดตามอย่างต่อเนื่อง แต่คราวนี้เบนเข็มไปที่แบรนด์รถยนต์จีน
แหล่งข่าวภายในของจีเอ็มเปิดเผยออกมาโดยอ้างคำกล่าวของฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ประธานและซีอีโอของฮัมเมอร์ ซึ่งกล่าวหลังจากที่เดินทางไปที่ประเทศจีน โดยมีการยืนยันว่าในตอนนี้จีเอ็มได้รับการติดต่อและทามทาบจากผู้ผลิตรถยนต์ของจีนกลายราย
‘ในตอนนี้เราเปิดกว้างในเรื่องของข้อเสนอที่ถูกยื่นออกมา แต่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตรถยนต์จีนจะให้ความสนใจกับเรา และถ้าหากเป็นข้อเสนอจากพวกเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและลงตัวกับเรามากที่สุด’ ฟริตซ์กล่าวในขณะที่มาเยือนประเทศจีนเป็นครั้งแรกนับจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สันไม่ได้กล่าวว่าในตอนนี้มีผู้ผลิตรถยนต์จากจีนรายไหนบ้างที่ยื่นข้อเสนอหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตอนนี้ที่สหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับแกลลอนละ 4 เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ รวมถึงปิกอัพและเอสยูวีขนาดใหญ่ของจีเอ็มได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องในด้านยอดจำหน่าย โดยเฉพาะฮัมเมอร์ ซึ่งทำให้จีเอ็มเริ่มหันมาพิจารณาในการขายกิจการของแบรนด์นี้ออกจากเครือเพื่อลดปัญหาในเรื่องของการขาดทุนสะสม
มีการประเมินกันว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กิจการของจีเอ็มมียอดการขาดทุนสะสมรวมแล้วมากกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.55 ล้านล้านบาท และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าจีเอ็มจะไม่สามารถพลิกเกมในการกลับมาสู่สภาพที่ได้กำไรอีกครั้งภายในปีนี้อย่างแน่นอน
แหล่งข่าวภายในของจีเอ็มเปิดเผยออกมาโดยอ้างคำกล่าวของฟริตซ์ เฮนเดอร์สัน ประธานและซีอีโอของฮัมเมอร์ ซึ่งกล่าวหลังจากที่เดินทางไปที่ประเทศจีน โดยมีการยืนยันว่าในตอนนี้จีเอ็มได้รับการติดต่อและทามทาบจากผู้ผลิตรถยนต์ของจีนกลายราย
‘ในตอนนี้เราเปิดกว้างในเรื่องของข้อเสนอที่ถูกยื่นออกมา แต่ดูเหมือนว่าผู้ผลิตรถยนต์จีนจะให้ความสนใจกับเรา และถ้าหากเป็นข้อเสนอจากพวกเขา ดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและลงตัวกับเรามากที่สุด’ ฟริตซ์กล่าวในขณะที่มาเยือนประเทศจีนเป็นครั้งแรกนับจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เฮนเดอร์สันไม่ได้กล่าวว่าในตอนนี้มีผู้ผลิตรถยนต์จากจีนรายไหนบ้างที่ยื่นข้อเสนอหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตอนนี้ที่สหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับแกลลอนละ 4 เหรียญสหรัฐฯ ทำให้ตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ รวมถึงปิกอัพและเอสยูวีขนาดใหญ่ของจีเอ็มได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องในด้านยอดจำหน่าย โดยเฉพาะฮัมเมอร์ ซึ่งทำให้จีเอ็มเริ่มหันมาพิจารณาในการขายกิจการของแบรนด์นี้ออกจากเครือเพื่อลดปัญหาในเรื่องของการขาดทุนสะสม
มีการประเมินกันว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กิจการของจีเอ็มมียอดการขาดทุนสะสมรวมแล้วมากกว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.55 ล้านล้านบาท และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าจีเอ็มจะไม่สามารถพลิกเกมในการกลับมาสู่สภาพที่ได้กำไรอีกครั้งภายในปีนี้อย่างแน่นอน