ข่าวต่างประเทศ - ท่ามกลางกระแสราคาน้ำมันแพงอย่างต่อเนื่อง โดยที่รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงยังไม่เป็นจริงที่เชิงพาณิชย์ และตลาดเครื่องยนต์ดีเซลก็ยังจำกัดตัวอยู่ในแบรนด์ยุโรประดับหรู ส่งผลให้รถยนต์ไฮบริดที่ใช้ขุมพลังลูกผสมระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดสหรัฐอเมริกา และเป็นครั้งแรกที่ตลาดไฮบริดมีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์มากกว่า 3% เป็นครั้งแรก
จากการเปิดเผยของ Green Car Congress ระบุว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รถยนต์ไฮบริดในสหรัฐอเมริกามียอดขาย 39,898 คัน หรือเพิ่มขึ้น 46% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ที่น่าสนใจ คือ ตลาดกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์รวมของเมืองลุงแซมถึง 3.2% โดยตัวเลขนี้น่าจะมีมากกว่านี้ เพราะว่าจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์สไม่ได้แยกตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฮบริดของตัวเองออกจากรุ่นปกติที่มีอยู่ในตลาด
สำหรับรถยนต์รุ่นที่ครองส่วนแบ่งมากที่สุดในกลุ่มไฮบริดก็ยังเป็นโตโยต้า พริอุส ซึ่งมียอดขาย 21,757 คัน หรือเพิ่มขึ้น 67% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เพราะว่าพริอุสรุ่นนี้อยู่ในช่วงปลายของการทำตลาดแล้ว เพราะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2004 และจากตัวเลขในเดือนนี้ทำให้พริอุสมียอดขายสะสมในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่รุ่นแรกมากกว่า 680,000 คัน และน่าจะทำตัวเลขเกินหลัก 700,000 คันได้อย่างแน่นอนในเดือนพฤษภาคม
ขณะที่ค่ายฮอนด้า มียอดขายเพิ่มขึ้นในส่วนของซีวิค ไฮบริด จำนวน 4,324 คัน (+51%) หรือคิดเป็น 12.7% ของยอดขายรวมซีวิคทุกแบบทุกเครื่องยนต์ ขณะที่แอคคอร์ด ไฮบริดซึ่งเลิกผลิตแล้วโดยยังใช้ตัวถังของแอคคอร์ดรุ่นเดิม มียอดขายเพียง 25 คัน หรือลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 92%
ฟอร์ดมียอดขายรวมของรุ่นเอสเคป และเมอร์คิวรี มาริเนอร์ลดลง 16% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลงมาอยู่ที่ 1,907 คัน ส่วนนิสสันขายรุ่นอัลติมา ไฮบริดไปได้ 801 คัน หรือคิดเป็น 3.5% ของยอดขายรวมอัลติมาทุกแบบทุกเครื่องยนต์ โดยอัลติมา ไฮบริดของนิสสันทำตลาดเพียงแค่ 8 รัฐในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
จากการเปิดเผยของ Green Car Congress ระบุว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รถยนต์ไฮบริดในสหรัฐอเมริกามียอดขาย 39,898 คัน หรือเพิ่มขึ้น 46% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ที่น่าสนใจ คือ ตลาดกลุ่มนี้มีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์รวมของเมืองลุงแซมถึง 3.2% โดยตัวเลขนี้น่าจะมีมากกว่านี้ เพราะว่าจีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์สไม่ได้แยกตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฮบริดของตัวเองออกจากรุ่นปกติที่มีอยู่ในตลาด
สำหรับรถยนต์รุ่นที่ครองส่วนแบ่งมากที่สุดในกลุ่มไฮบริดก็ยังเป็นโตโยต้า พริอุส ซึ่งมียอดขาย 21,757 คัน หรือเพิ่มขึ้น 67% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกเหมือนกัน เพราะว่าพริอุสรุ่นนี้อยู่ในช่วงปลายของการทำตลาดแล้ว เพราะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2004 และจากตัวเลขในเดือนนี้ทำให้พริอุสมียอดขายสะสมในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่รุ่นแรกมากกว่า 680,000 คัน และน่าจะทำตัวเลขเกินหลัก 700,000 คันได้อย่างแน่นอนในเดือนพฤษภาคม
ขณะที่ค่ายฮอนด้า มียอดขายเพิ่มขึ้นในส่วนของซีวิค ไฮบริด จำนวน 4,324 คัน (+51%) หรือคิดเป็น 12.7% ของยอดขายรวมซีวิคทุกแบบทุกเครื่องยนต์ ขณะที่แอคคอร์ด ไฮบริดซึ่งเลิกผลิตแล้วโดยยังใช้ตัวถังของแอคคอร์ดรุ่นเดิม มียอดขายเพียง 25 คัน หรือลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 92%
ฟอร์ดมียอดขายรวมของรุ่นเอสเคป และเมอร์คิวรี มาริเนอร์ลดลง 16% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลงมาอยู่ที่ 1,907 คัน ส่วนนิสสันขายรุ่นอัลติมา ไฮบริดไปได้ 801 คัน หรือคิดเป็น 3.5% ของยอดขายรวมอัลติมาทุกแบบทุกเครื่องยนต์ โดยอัลติมา ไฮบริดของนิสสันทำตลาดเพียงแค่ 8 รัฐในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
