ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาด(รถหรู) สูงถึง 50% ในตลาดอเมริกาเหนือของรถจากแดนปลาดิบยี่ห้อ “เลกซัส” เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ เนื่องจากเลกซัสเป็นแบรนด์เล็กๆ ในตลาดรถพรีเมียมเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู บวกกับเลกซัสมีประวัติศาสตร์เพียงแค่ 20 กว่าปีเท่านั้น ขณะที่คู่แข่งมีถึง 100 ปี ... เหนืออื่นใดตลาดเอเชียประเทศเกาหลีใต้สามารถทำตัวเลขยอดขายเลกซัสเป็นอันหนึ่งแซงหน้ารถหรูจากเมืองเบียร์ทั้ง 2 ยี่ห้อ
หลายคนสงสัย...อะไร ...ทำไม... รถเลกซัสจึงครองใจคนอเมริกัน และลูกค้าจากแดนโสม วันนี้เราจะไขข้อข้องใจให้ได้รับรู้กัน เพราะ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงาน “ทาฮาร่า” (TAHARA PLANT) ต้นกำเนิดของรถเลกซัส รถหรูจากแดนซามูไร โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เชื้อเชิญ
โรงงานทาฮาร่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2522 โดยพันธกิจของโรงงานคือการสร้างแรงบันดาลใจและความต้องการของวิศวกรผู้ผลิตให้เกิดขึ้นมาเป็นยานยนต์อย่างสมบูรณ์แบบโดยใช้การผสมผสานกันระหว่าง นวัตกรรมทางด้านเทคนิคการผลิต (Innovative Technique) ประกอบกับความประณีตในการผลิตของช่างฝีมือที่มีทักษะในการผลิตระดับสูง (Craftsmanship) ออกมาเป็นรถยนต์เลกซัส ยานยนต์หรูระดับพรีเมียม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ความพิเศษของทาฮาร่า คือเป็นโรงงานที่มีการผลิตชิ้นส่วนรถทั้งคัน โดยเริ่มจากการขึ้นรูปจนถึงการประกอบรถ ที่สำคัญเป็นโรงงานที่เจ้าของแบนด์ “โตโยต้า” นำเทคโนโลยีด้านต่างๆ ที่โตโยต้าคิดค้นได้มาใส่ในเลกซัสเป็นครั้งแรกทุกครั้ง สำหรับรถรุ่นแรกที่ออกจากสายการผลิตแห่งนี้คือ รุ่น LS 400 และปัจจุบันทาฮาร่า ทำการผลิตรถยนต์เลกซัส หลากหลายรุ่นด้วยกัน เช่น LS, GS, IS ไลน์ และรถไฮบริด LS600h, LS600hL เป็นต้น
โรงงานทาฮาร่า มีอัตรากำลังการผลิตในการประกอบรถเลกซัสได้ประมาณปีละ 600,000 คัน แต่ในปี 2550 สามารถผลิตได้สูงถึง610,000 คัน โดย 85 % ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศทั่วโลก ขณะที่ยอดจำหน่ายรวมจากทุกโรงงานอยู่ที่ 1,200,000 คัน นอกจากจะจำหน่ายในเอเชียเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงค์โปร์ และไทยแล้ว ตลาดหลักของเลกซัสอยู่ที่อเมริกาเหนือ
สิ่งแรกที่ผู้บรรยายพูดถึงก่อนเข้าชมโรงงานทาฮาร่า คือ “ทาคูมิ หรือช่างฝีมือดีเด่น” พร้อมชี้ให้ดูรูปถ่ายของชาวญี่ปุ่น 10 คน ที่โชว์บนผนัง และบอกว่านี่เป็นสุดยอดของทาคูมิ
ผู้บรรยายบอกอีกว่าช่างฝีมือมีหลายระดับแต่ละระดับจะต้องผ่านการทดสอบอย่างหนักจึงจะได้รับใบอนุญาตการทำงาน ผู้ที่อยู่ชั้นล่างสุดของพีระมิดมีประมาณ 2,200 คน สามารถทำได้เฉพาะงานของตัวเองเท่านั้น ขึ้นไประดับสองมีอยู่ประมาณ 500 คน พวกนี้นอกจากงานตัวเองสามารถทำเรื่องอื่นได้ด้วย ส่วนชั้นหนึ่งสามารถสอนให้กับคนอื่นได้ และบุคคลเหล่านี้จะเลื่อนตำแหน่งไปจนถึงช่างฝืมือ และปัจจุบันทาฮาร่า มีช่างฝีมือดีเด่นอยู่ 10 คน แต่ละคนจะเก่งกันคนละอย่าง
นั่นหมายความว่าโรงงาน ทาฮาร่า จะใช้ช่างฝีมือที่มีทักษะและความชำนาญระดับสูงทางด้านการผลิตควบคู่กับการใช้นวัตกรรมทางด้านเทคนิคการผลิต โดยเฉพาะยอดฝีมือจะใช้ความประณีตจากประสาทสัมผัสทั้งห้าของมนุษย์ในการควบคุมและปรับปรุงการผลิตอย่างละเอียดประกอบกับความตั้งใจ เอาใจใส่ ทำให้สามารถตรวจสอบรับรู้ถึงความผิดปกติในส่วนต่างๆ อันไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยเครื่องวัดใดๆ และทำการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ได้ นับเป็นการผลิตที่ละเอียดถี่ถ้วนและก่อให้เกิดคุณภาพมาตรฐานระดับ “เลกซัส”
ยกตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องช่วยฟังเพื่อตรวจสอบเสียงเครื่องยนต์, ใช้แสงฉายส่องเพื่อปรับแต่งแม่พิมพ์, ตรวจสอบคุณภาพของกันชนและตัวถังโดยใช้ประสาทสัมผัสทางตาและระบบการสัมผัส,ประกอบแผงด้านหน้าด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทางตา และระบบการสัมผัส และการใช้ประสาทสัมผัสทางการฟังในการตรวจสอบหาจุดเกิดเสียงผิดปรกติและปรับแก้ไขจุดบกพร่องให้ได้ตามมาตรฐานของเลกซัส
บวกกับนวัตกรรมทางด้านเทคนิคการผลิต ( Innovative Technique) ที่ใช้ดิจิตอลเทคโนโลยี (Digital Engineering) และการใช้หุ่นยนต์ระดับสูง (Pioneering Robotics) ในการผลิตเพื่อความสามารถในการควบคุมการผลิตให้เกิดผลลัพธ์ที่แม่นยำและเที่ยงตรงก่อให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างชัดเจน ซึ่งเทคนิคในการผลิตเหล่านี้ได้แก่
เครื่องวัดบล็อกเครื่องยนต์ความละเอียดสูง/ความเร็วสูงแบบ 3 มิติ, เครื่องปั๊มประสิทธิภาพสูง สามารถปั้มชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ด้วยความเที่ยงตรงและแม่นยำ, หุ่นยนต์เชื่อมตัวถังใหม่ล่าสุด มีความแม่นยำในการทำงานสูงสุด, ระบบการพ่นสีที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยล่าสุด ควบคุมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีเพื่อคุณภาพการพ่นสีระดับพรีเมียม ตามแบบฉบับของเลกซัส, สายพานการพ่นสีอัตโนมัติคุณภาพสูงด้วยหุ่นยนต์อัตโนมัติรุ่นใหม่ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมภายใต้ระบบการพ่นสีแบบใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย (Water-based Painting System)
ด้วยนวัตกรรมทางด้านเทคนิคการผลิตที่ล้ำสมัยประกอบกับความประณีตในการผลิตของช่างฝีมือและทักษะการผลิตระดับสูงจากโรงงานทาฮาร่า ทำให้รถเลกซัสทุกคันสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย และบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่น ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีและความประณีตในการผลิตจากสายพานการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์เลกซัส หรือสามารถกล่าวได้ว่า โรงงาน “ทาฮาร่า” เป็นต้นกำเนิดของของยอดรถระดับพรีเมียมที่สมบูรณ์แบบไม่แพ้ยี่ห้ออื่น
จากการเดินชมโรงงานทาฮาร่า ตั้งแต่ต้นจนจบต้องยอมรับว่ากระบวนการผลิตของรถเลกซัสไม่ธรรมดาเลย เพราะไม่เพียงนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้แล้ว โรงงานแห่งนี้ยังปลูกฝั่งให้พนักงานทุกคนทำงานด้วยจิตวิญญาณควบคู่ไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น การพ่นสีรถเลกซัสจะพ่นถึง 6 ขั้นตอนซึ่งมากกว่ายี่ห้ออื่นตามด้วยการขัดสีด้วยน้ำโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของทาคูมิตรวจสอบ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้กับรถเลกซัสในปัจจุบันด้วยการพิสูจน์ให้เราเห็นว่าเวลาเราปล่อยมือจากพวงมาลัยรถเลกซัสจะไปได้ตรงกับรถคันอื่น
ถึงบรรทัดนี้คงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมโรงาน ทาฮาร่า จึงเป็นโรงงานแม่ของเลกซัส เพราะเป็นการรวมสุดยอดของเทคโนโลยีและสุดยอดคนไว้ในที่เดียวกัน โดยเฉพาะการใช้ช่างฝีมือ “ทาคูมิ” ร่วมสร้างสรรค์ยนตรกรรมระดับหรู และกลายเป็นจุดเด่นของโรงงาน ทาฮาร่า ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ...จึงไม่แปลกที่ในอนาคตรถเลกซัสจะกลายเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกมิใช่เฉพาะในอเมริกาเหนือและเกาหลีใต้เท่านั้น
เมื่อวันนั้นมาถึง 2 แบรนด์ดังจากเมืองเบียร์อาจต้องหันกลับมามอง “เลกซัส” คู่แข่งที่เป็นม้านอกสายตามาตลอด