xs
xsm
sm
md
lg

สิทธิผลรายได้พุ่ง4.5หมื่นล้านขยายธุรกิจรุกอุตฯยานยนต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ – ยักษ์ใหญ่ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ไทย “กลุ่มสิทธิผล” ไร้ผลกระทบจากตลาดรถและรถจักรยานยนต์ไทยร่วง ฟันยอดขายในปีที่แล้วกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท ประกาศปีนี้ดันรายได้พุ่งไม่ต่ำกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท เหตุตลาดส่งออกและอะไหล่ทดแทนยังเติบโตดี ล่าสุดขยายธุรกิจเป็นผู้แทนขายน้ำมันเครื่อง “เอลฟ์” และสายพานรถจักรยานยนต์ออโตเมติก ยี่ห้อ “แบนโด” พร้อมเปิดสินค้าใหม่รุกตลาดอีก 2 ตัว

นายทนง ลี้อิสระนุกูล กรรมการผู้จัดการกลุ่มสิทธิผล ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์รายใหญ่ของไทย โดยมีบริษัทในเครือประมาณ 50 บริษัท ผลิตสินค้าและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ อาทิ ไออาร์ซี, เดนโซ่, แบนโด, เอลฟ์ และดี.ไอ.ดี สแตนเลย์ เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มสิทธิผลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย แม้ในปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในไทย จะชะลอตัวลงเป็นอย่างมากก็ตาม

“เราในฐานะผลิตและจำหน่ายอะไหล่ทดแทน ไม่ได้รับผลกระทบจากตลาดชะลอตัวแต่อย่างใด และในสภาวะเช่นนี้กลับทำให้อะไหล่ทดแทนขายดียิ่งขึ้น ขณะที่ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ส่งให้กับโรงงานประกอบรถ ได้รับผลกระทบบ้างเฉพาะตลาดในประเทศ แต่ตลาดส่งออกยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มสิทธิผลยังดีอยู่ โดยปีที่ผ่านมามีรายได้รวมทั้งกลุ่มประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะทำได้ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท”

ส่วนสาเหตุที่คาดการณ์รายได้เติบโต เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงไปได้ดี โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์จากไทย และมีโปรดักซ์รุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด ขณะที่ในส่วนของอะไหล่รถจักรยานยนต์ทดแทน ตลาดยังคงมีความต้องการต่อเนื่อง เพราะถือเป็นสินค้าที่ต้องมีการเปลี่ยนอยู่แล้ว ประกอบกับปัจจุบันรถจักรยานยนต์ออโตเมติก มีอัตราการเติบโตเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะเพิ่งเข้ามาในตลาดไทยได้ไม่นาน แต่ขณะนี้ถึงเวลาที่ชิ้นส่วนหลายอย่างต้องเริ่มเปลี่ยนตามอายุใช้งานแล้ว

นายทนงกล่าวว่า จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้กลุ่มสิทธิพล ได้มีการขยายธุรกิจจำหน่ายสินค้าในหมวดยานยนต์เพิ่มอีก 2 แบรนด์ โดยเป็นผู้แทนจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ “เอลฟ์” และเป็นผู้แทนจำหน่ายสายพานรถจักรยานยนต์ออโตเมติกยี่ห้อ “แบนโด” ภายใต้การดำเนินการของบริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด

“ในปีที่ผ่านมาสิทธิผล 1919 บริษัทในเครือที่ดูแลธุรกิจจำหน่ายอะไหล่ทดแทนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ มีผลประกอบการประมาณ 2,200 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้ามีอัตราการเติบโตประมาณ 35% ซึ่งจากการขยายสินค้าที่มากขึ้น ทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินงานของสิทธิผล 1919 ในปีนี้จะยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%”

สำหรับการเป็นผู้แทนจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์เอลฟ์ เนื่องจากเดิมสิทธิพล 1919 เป็นผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นยี่ห้อ “โททาล” ของบริษัทโททาล ออยล์ ที่เข้ามาซื้อธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นเอลฟ์เมื่อหลายปีก่อน แต่การแข่งขันที่รุนแรงทำให้เอลฟ์ลดบทบาทไปจากตลาดเมืองไทย

เหตุนี้ทางโททาลจึงต้องการให้กลุ่มสิทธิผลมาดูแลเรื่องการจำหน่ายในไทย โดยจะมีการแยกตลาดให้ชัดเจน ให้แบรนด์โททาลมุ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นรถยนต์ และให้เอลฟ์เจาะตลาดน้ำมันหล่อลื่นรถจักรยานยนต์ พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่บุกตลาด 2 ตัว คือ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ รวมทั้งหมด 3 รุ่น และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะอีกรุ่น
นายทนงกล่าวว่า ในส่วนของสายพานรถจักรยานยนต์ออโตโมติกยี่ห้อเบนโด ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่สุดของวงการ เพื่อเป็นการตอบสนองตลาดรถจักรยานยนต์ออโตโมติกในไทย ที่มีอัตราการเติบโตเป็นอย่างมาก ซึ่งจากเดิมมีสัดส่วนเพียง 10% แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นถึง 45% ของตลาดรถจักรยานยนต์ทั้งหมด และส่งผลให้รถจักรยานยนต์แบบครอบครัวมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือเพียง 55% จากเดิมที่มีถึง 85%

“รถจักรยานยนต์ออโตเมติกรุ่นแรกที่แนะนำสู่ตลาดเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ชิ้นส่วนบางตัวเริ่มจะหมดอายุการทำงานแล้ว การเปิดตัวอะไหล่สายพานรถจักรยานยนต์ออโตเมติก จึงเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมกันนี้เราได้แนะนำหัวเทียนสำหรับรถจักรยานยนต์ออโตเมติกของเดนโซ่สู่ตลาดเช่นกัน”

นอกจากนี้กลุ่มสิทธิผลยังได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ยางรถจักรยานยนต์ไออาร์ซี อีเอ็มดี (IRC EMD หรือ IRC Eat My Dust) ซึ่งเป็นยางที่ผลิตเพื่อรถแข่งทางตรง แดร็กไบค์ ที่มีคุณสมบัติในการควบคุมรถได้ง่าย และมีความแม่นยำในขับขี่ รวมทำให้การเบรครถและหยุดรถได้อย่างมั่นใจ

กำลังโหลดความคิดเห็น