xs
xsm
sm
md
lg

TAPA’08 โชว์รถรักโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ – TAPA’08 ระดมพลโชว์กระหึ่ม ชูนวัตกรรมยานยนต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเตรียมนำรถต้นแบบ “อีโค คาร์” มาอวดโฉมเป็นครั้งแรกในไทย

นายศุภรัน์ ศิริสุวรรณางกูร นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า รถยนต์ประหยัดพลังงานหรือ อีโคคาร์ (Eco Car) นับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายให้ความสนใจและเป็นที่จับตามองของผู้บริโภคในวงกว้าง ทั้งนี้เนื่องมาจากกระแสการรณรงค์เพื่อลดปัญหาสภาวะโลกร้อน ประกอบกับราคาน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลขยับสูงขึ้น จึงคาดได้ว่าในอนาคตอันใกล้จะมีการหันมาใช้พลังงานทางเลือกกันมากขึ้น

สำหรับการพัฒนาพลังงานทางเลือกเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซินและดีเซลนั้น นายศุภรัตน์กล่าวว่า โอกาสที่ราคาน้ำมันจะลดลงนั้นเป็นไปได้ยาก ขณะนี้รัฐจึงเร่งส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทนขึ้นใช้ โดยในปี 2551 มีการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ที่มีส่วนผสมของเอทานอล 20% หรือ E20 ออกจำหน่าย

ขณะที่ภาครัฐได้มีการประกาศบังคับใช้ก๊าซเอ็นจีวี (NGV) ในกลุ่มรถแท็กซี่ เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ และจะมีการกำหนดบังคับใช้มาตรฐานไอเสีย ยูโร4 แทน ยูโร 3 ในปี 2555 อีกด้วย

ด้านผู้ผลิตชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์มีการปรับตัวรับกระแสรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเพิ่มมาตรฐานปลอดไอเสียภายในโรงงาน, ลดการใช้สารไอระเหยโดยสารที่เป็นน้ำในการพ่นสีแทน และยังลดการโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อร่างกายทำลายสิ่งแวดล้อม เช่นตะกั่ว และโครเมี่ยม เป็นต้น

“ในการผลิตรถยนต์ปัจจุบันใช้ชิ้นส่วนพลาสติกชีวภาพ(Bio-plastic) เช่น PLA (Polylactic Acid) ซึ่งทำจากข้าวโพดหรือมันสำปะหลัง เมื่อนำไปผสมกับพลาสติกชนิด PP (Polypropylene) ทำให้สามารถย่อยสลายได้ เช่น แผงคอนโซล พรมพื้นรถ และที่ปิดล้อยางอะไหล่ เป็นต้น” นายศุภรัตน์กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรืออีโค คาร์ นั้น ผู้ผลิตรถยนต์ค่าย ฮอนด้า นิสสัน และซูซูกิ ได้รับอนุมัติให้ผลิตรถยนต์ อีโค คาร์ แล้ว โดยจะเริ่มผลิตในปี 2552 ขณะที่ผู้ผลิตอีก 4 รายกำลังอยู่ระหว่างการรออนุมัติ

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถชมต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงาน และนวัตกรรมอะไหล่ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ในงานแสดงสินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง 2551 หรือ TAPA 2008 ระหว่างวันที่ 23-27 เมษายน ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยเปิดให้นักธุรกิจเข้าชมและเจรจาการค้าระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน เวลา 10.00-18.00 น. และเปิดจำหน่าปลีกแก่ประชาชนทั่วไปวันที่ 26-27 เมษายน เวลา 10.00-20.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น