ข่าวต่างประเทศ - ในเมื่องบประมาณมีไม่มาก และจำเป็นที่จะต้องโกอินเตอร์ด้วยการเปิดตลาดเกิดใหม่อย่างอเมริกาใต้ ทางด้านไครสเลอร์จึงต้องเดินหน้าลุยตลาดกลุ่มนี้ด้วยการมองหาพันธมิตรใหม่ใสช่วยแบ่งเบาภาระ และจัดการเซ็นสัญญาหยิบยืมรถยนต์ของนิสสันเพื่อนำมาตีตราใหม่สำหรับขายในตลาดซับคอมแพ็กต์แห่งนี้ โดยจะเริ่มทำตลาดต้นปี 2009 เป็นต้นไป
จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ Detnews ของสหรัฐอเมริการะบุว่า ทั้งไครสเลอร์และนิสสันได้เซ็นสัญญาในข้อตกลงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยนิสสันจะรับหน้าที่ในการผลิตรถยนต์ให้กับไครสเลอร์ และแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อรุ่นออกมา แต่เชื่อว่ารถยนต์ที่จะถูกไครสเลอร์นำไปรีแบรนด์ขายในอเมริกาใต้คือ เวอร์ซา หรือ ทีด้าในตลาดเมืองไทยและญี่ปุ่น ซึ่งทางนิสสันจะส่งให้กับไครสเลอร์เฉพาะตัวถังซีดานเท่านั้น ส่วนรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตูไม่ได้อยู่ในสัญญา
นิสสันถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายที่ 2 ซึ่งจับมือกับไครสเลอร์ในการรับหน้าที่ผลิตรถยนต์ให้ โดยก่อนหน้านี้ ไครสเลอร์เซ็นสัญญากับเชอรี่ ออโตโมบิลแห่งประเทศจีนในการรับหน้าที่ผลิตรถยนต์ไซส์เล็กที่ไครสเลอร์ออกแบบเพื่อนำมาขายในตลาดอเมริกาเหนือ และการดำเนินกลยุทธ์ในลักษณะนี้จะช่วยให้ไครสเลอร์ประหยัดงบประมาณในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ด้วยตัวเองถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 33,000 ล้านบาท
คาดว่านิสสันจะผลิตรถยนต์ส่งให้กับไครสเลอร์ในระดับ 20,000 คันต่อปี และเชื่อว่าตามข้อตกลงนี้จะไม่ได้มีการสนับสนุนรถยนต์ให้เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่น่าจะมีมากกว่านั้น เพราะว่าในตอนนี้ทางไครสเลอร์พยายามที่จะหาวิธีในการลดต้นทุนการผลิตนับตั้งแต่แยกตัวออกจากเดมเลอร์ และถูกทางกลุ่มเซอร์เบอรุสเทคโอเวอร์กิจการเมื่อกลางปี 2007
จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ Detnews ของสหรัฐอเมริการะบุว่า ทั้งไครสเลอร์และนิสสันได้เซ็นสัญญาในข้อตกลงอย่างเป็นทางการแล้ว โดยนิสสันจะรับหน้าที่ในการผลิตรถยนต์ให้กับไครสเลอร์ และแม้ว่าจะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อรุ่นออกมา แต่เชื่อว่ารถยนต์ที่จะถูกไครสเลอร์นำไปรีแบรนด์ขายในอเมริกาใต้คือ เวอร์ซา หรือ ทีด้าในตลาดเมืองไทยและญี่ปุ่น ซึ่งทางนิสสันจะส่งให้กับไครสเลอร์เฉพาะตัวถังซีดานเท่านั้น ส่วนรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตูไม่ได้อยู่ในสัญญา
นิสสันถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายที่ 2 ซึ่งจับมือกับไครสเลอร์ในการรับหน้าที่ผลิตรถยนต์ให้ โดยก่อนหน้านี้ ไครสเลอร์เซ็นสัญญากับเชอรี่ ออโตโมบิลแห่งประเทศจีนในการรับหน้าที่ผลิตรถยนต์ไซส์เล็กที่ไครสเลอร์ออกแบบเพื่อนำมาขายในตลาดอเมริกาเหนือ และการดำเนินกลยุทธ์ในลักษณะนี้จะช่วยให้ไครสเลอร์ประหยัดงบประมาณในการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ด้วยตัวเองถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 33,000 ล้านบาท
คาดว่านิสสันจะผลิตรถยนต์ส่งให้กับไครสเลอร์ในระดับ 20,000 คันต่อปี และเชื่อว่าตามข้อตกลงนี้จะไม่ได้มีการสนับสนุนรถยนต์ให้เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่น่าจะมีมากกว่านั้น เพราะว่าในตอนนี้ทางไครสเลอร์พยายามที่จะหาวิธีในการลดต้นทุนการผลิตนับตั้งแต่แยกตัวออกจากเดมเลอร์ และถูกทางกลุ่มเซอร์เบอรุสเทคโอเวอร์กิจการเมื่อกลางปี 2007
