ข่าวต่างประเทศ - แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขออกมาอย่างเป็นทางการสักค่าย แต่ทางด้านโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชันกลับมั่นใจว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั่วโลกของตัวเองในปี 2007 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับ 9.37 ล้านคัน ก็น่าจะเพียงพอแล้วในการเขี่ยให้จีเอ็ม หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส หล่นจากบัลลังก์ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกที่ครองมานานถึง 76 ปีได้อย่างแน่นอน
จากการเปิดเผยของโตโยต้าระบุว่าในปี 2007 โตโยต้ามียอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดต่างแดนอยู่ที่ 7.1 ล้านคันหรือเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2006 เมื่อบวกกับตัวเลขยอดจำหน่ายในบ้านตัวเอง 2.26 ล้านคัน (ลดลงจากปี 2006 ประมาณ 4%) ก็เพียงพอแล้วในการแซงจีเอ็มขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดโลก เพราะว่าจากการวิเคราะห์ของโตโยต้า เชื่อว่าในปี 2007 จีเอ็มมียอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั่วโลกเพียงแค่ 9.3 ล้านคันเท่านั้น
ทั้ง 2 ค่ายต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดทุกภูมิภาค ซึ่งก็รวมถึงตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย, รัสเซีย และอเมริกาใต้ แต่ในตลาดจีนแล้ว ดูเหมือนว่าจีเอ็มจะทำผลงานได้ดีกว่าโตโยต้า เพราะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2006 ถึง 19% ด้วยตัวเลข 1.03 ล้านคัน ในขณะที่โตโยต้ากำลังอยู่ในช่วงของการขยายตัว เพราะเน้นไปที่การขยายฐานการผลิตในเมืองจีน
อย่างไรก็ตาม จอห์น แม็คโดนัลด์ โฆษกของทางจีเอ็มยังไม่ได้ตอบโต้ต่อถ้อยแถลงของโตโยต้าในครั้งนี้ และต้องรอการประกาศตัวเลขยอดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มกราคมนี้
จากการเปิดเผยของโตโยต้าระบุว่าในปี 2007 โตโยต้ามียอดจำหน่ายรถยนต์ในตลาดต่างแดนอยู่ที่ 7.1 ล้านคันหรือเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2006 เมื่อบวกกับตัวเลขยอดจำหน่ายในบ้านตัวเอง 2.26 ล้านคัน (ลดลงจากปี 2006 ประมาณ 4%) ก็เพียงพอแล้วในการแซงจีเอ็มขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดโลก เพราะว่าจากการวิเคราะห์ของโตโยต้า เชื่อว่าในปี 2007 จีเอ็มมียอดจำหน่ายรถยนต์รวมทั่วโลกเพียงแค่ 9.3 ล้านคันเท่านั้น
ทั้ง 2 ค่ายต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดทุกภูมิภาค ซึ่งก็รวมถึงตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย, รัสเซีย และอเมริกาใต้ แต่ในตลาดจีนแล้ว ดูเหมือนว่าจีเอ็มจะทำผลงานได้ดีกว่าโตโยต้า เพราะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากปี 2006 ถึง 19% ด้วยตัวเลข 1.03 ล้านคัน ในขณะที่โตโยต้ากำลังอยู่ในช่วงของการขยายตัว เพราะเน้นไปที่การขยายฐานการผลิตในเมืองจีน
อย่างไรก็ตาม จอห์น แม็คโดนัลด์ โฆษกของทางจีเอ็มยังไม่ได้ตอบโต้ต่อถ้อยแถลงของโตโยต้าในครั้งนี้ และต้องรอการประกาศตัวเลขยอดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มกราคมนี้
