xs
xsm
sm
md
lg

GM-นิสสันมอง “จีน” เป็นคู่แข่งน่ากลัว ชี้ต้องรีบบุกตลาดเกิดใหม่อย่าง “อินเดีย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/เอเจนซี - ผู้บริหารของทั้ง เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) แห่งสหรัฐฯ และ นิสสัน มอเตอร์ แห่งญี่ปุ่น ต่างให้ความเห็นระหว่างเข้าร่วมงาน ดีทรอยต์ ออโต โชว์ ว่า พวกผู้ผลิตรถยนต์จีนจะเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามในอนาคตอันไม่ไกลนัก ขณะเดียวกัน ทั้งคู่ต่างก็มุ่งเร่งเจาะเข้าบรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดีย

ริก แวกอเนอร์ ประธานจีเอ็มกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวที่งาน ดีทรอยต์ ออโต โชว์ เมื่อวันอาทิตย์(13) ว่า ภัยคุกคามอีกด้านหนึ่งซี่งอาจกระทบกระเทือนยอดขายในทั่วโลกของจีเอ็มได้ ก็คือ จากบรรดาผู้ผลิตรถชาวจีน ถึงแม้เขาคิดว่าคงจะมีเวลาราว 5-10 ปี ก่อนที่ผู้ผลิตภายในประเทศของแดนมังกรจะพร้อมส่งออกยวดยานของพวกเขาอย่างจริงจัง

เขาอธิบายว่า การที่จะให้โรงงานผลิตรถภายในประเทศของจีนซึ่งมีอยู่จำนวนมากๆ ต่างพากันส่งออกนั้น ย่อมเป็นเรื่องยุ่งยากและเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น จึงน่าที่จะมีการรวมศูนย์เข้ามาจนกระทั่งเหลือผู้ผลิตรถรายใหญ่ราว 2-4 แห่งมากกว่า

และแม้มีสิ่งบ่งชี้ว่ารถยนต์ทำโดยผู้ผลิตจีน อาจบุกเข้าตลาดสหรัฐฯกันตั้งแต่ปีนี้แล้ว แต่แวกอเนอร์คิดว่า ยังต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งก่อนที่รถจีนจะคุกคามยอดขายของจีเอ็มในตลาดบ้านเกิดได้ โดยที่ผู้ผลิตแดนมังกรไม่น่าจะเจาะตลาดสหรัฐฯอย่างจริงจัง จนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถสร้างความพอใจให้แก่ผู้บริโภคชาวอเมริกันซึ่งคาดหมายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง

ทางด้าน การ์โลส ตาบาเรส รองประธานกรรมการบริหารของนิสสัน มอเตอร์ ได้บอกกับผู้สื่อข่าวในงานเดียวกันว่า บริษัทของเขากำลังเตรียมตัวเองเพื่อการสู้รบอย่างยาวนาน กับพวกผู้ผลิตรถชาวจีนในการชิงส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก

“เราไม่ได้กำลังรอคอยให้ผู้ผลิตจีนบุกเข้าบรรดาตลาดที่โตเต็มที่ แล้วทำให้ชีวิตของเราในตลาดเหล่านั้นยุ่งยากลำบากหรอกนะ” ทาบาเรส ซึ่งเป็นหมายเลข 2 ในสายการบริหารจัดการของนิสสัน กล่าว

“เรากำลังตระเตรียมยุทธศาสตร์ของเราเอง และจุดยืนในเชิงรุกของเราเอง”

ยุทธศาสตร์ดังกล่าว มีอาทิ การขยายตัวเข้าสู่พวกตลาดเกิดใหม่, การสร้างหุ้นส่วนใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อแบ่งเบาความเสี่ยง, การมีวิธีที่ปฏิบัติได้จริงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้เชื้อเพลิง, และการมุ่งเน้นปรับปรุงคุณสมบัติด้านความสามารถในการซื้อหาของรถทุกๆ ระดับของบริษัท

ตาบาเรส บอกว่า ปัจจุบันผู้ผลิตรถชาวจีนยังคงมัวยุ่งอยู่กับการขยายตัวให้ทันการเติบโตในตลาดแดนมังกรเองซึ่งเติบโตรวดเร็วยิ่ง จนไม่สามารถที่จะแบ่งสรรทรัพยากรอย่างจริงจังมาให้แก่การขยายการส่งออกได้ ทว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าในที่สุดแล้วพวกเขาก็จะต้องกลายเป็นเพลเยอร์ในระดับโลก

“เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้รวดเร็วแค่ไหน เวลานี้ยังเป็นเรื่องคาดเดากัน แต่เราก็จะวางแผนสำหรับการต่อสู้นี้” เขาบอก

“ถ้าผมกำลังบอกคุณว่า เรามียุทธศาสตร์ด้านรถยนต์ราคาถูกสำหรับผู้ซื้อรถคันแรกในชีวิต โดยที่เรามีสเปคทางเทคนิคอันละเอียดอ่อน จนทำให้สามารถเป็นเจ้าของได้อย่างสบายมากและคุ้มค่ามากด้วย นั่นก็เพราะเราวางแผนเพื่อใช้สู้กับความเสี่ยงนี้แหละ” เขาขยายความ

“ถ้าเรากำลังหารือกับหุ้นส่วนชาวอินเดียอยู่จำนวนหนึ่ง นั่นก็เช่นกันเป็นเพราะเราเชื่อว่า ในอินเดียนั้นมีกรอบความคิดในเรื่องความมัธยัสถ์ และเป็นหนึ่งในฐานซัปพลายเออร์ที่อาจจะคุ้มทุนที่สุดของโลก ซึ่งคุณจะสามารถหาได้ในโลกนี้”

ตาบาเรส บอกด้วยว่า นิสสันนั้นคาดหมายว่าจะทำยอดขายได้ดีเป็นประวัติการณ์ในยุโรปและสหรัฐฯ อีกทั้งสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่น ทว่าโอกาสใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่การเติบโตในบรรดาตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่น จีน, รัสเซีย, อินเดีย และบราซิล

ทางด้าน แวกอเนอร์ ก็กล่าวว่า จีเอ็มจะต้องขยายการดำเนินงานของตนในอินเดีย หากต้องการแข่งขันในบรรดาตลาดเกิดใหม่

เขาชี้ว่า แม้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าผู้บริโภคจะสนใจรถยนต์ “นาโน” ราคา 2,500 ดอลลาร์ของบริษัท ตาต้า มอเตอร์ มากแค่ไหน แต่รถราคาถูกทำนองนี้อย่างไรเสียก็จะเกิดได้และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะสำหรับผู้ซื้อรถคันแรกในตลาดเกิดใหม่

บิ๊กบอสจีเอ็ม บอกว่า เวลานี้จีเอ็มผลิตรถราคาต่ำจำนวนหนึ่งสำหรับตลาดเกิดใหม่อยู่แล้ว อาทิ รถแบบหนึ่งในจีนที่ขายราคาประมาณ 3,500 ดอลลาร์ แต่เขาชี้ว่า แผนการของจีเอ็มที่จะขยายศูนย์วิศวกรรมในอินเดีย ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด

“ผมดีใจมากที่เราเลือกที่ตั้งของเราไปอยู่ที่อินเดีย" แวกอเนอร์บอก "เราต้องทำให้พวกเขาสามารถรับมือกับผลิตภัณฑ์ระดับท้องถิ่น พอๆ กับที่ต้องสามารถรับมือกับระดับโลกได้ เพราะเราจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับเกมนี้”
กำลังโหลดความคิดเห็น