มหาวิทยาลัยรังสิต จัดพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2568 ในวันเสาร์ที่ 6 (ฝึกซ้อม และถ่ายภาพหมู่บัณฑิต) และวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม 2568 ณ อาคารนันทนาการ โดย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นประธานในพิธีมอบปริญญาบัตร ในปีนี้สภามหาวิทยาลัยรังสิต มีมติประสาทปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่ พลโทบุญสิน พาดกลาง
อดีตแม่ทัพภาค 2 ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง และ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ
คำประกาศเกียรติคุณ พลโทบุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาค 2 ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้ดำรงตนมั่นคงในอุดมการณ์และหน้าที่ด้วยหัวใจแห่งการอุทิศตนและยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน โดยแสดงให้ประจักษ์ชัดถึง ภาวะผู้นำ คุณธรรม จริยธรรม และเป็นแบบอย่างอันชัดเจนของการรู้จักตนเอง
พลโทบุญสิน พาดกลาง ไม่เพียงแต่ตระหนักถึงศักยภาพของตน หากยังเข้าใจลึกซึ้งถึงจุดแข็ง ความท้าทาย ค่านิยม จนสามารถหล่อหลอมให้เกิดการตัดสินใจที่มั่นคง รอบคอบ และเปี่ยมด้วยวิจารณญาณ ความเข้าใจในตนเองอย่างถ่องแท้ยังทำให้ท่านมีจุดยืนที่แข็งแกร่ง รู้เท่าทันทั้งอารมณ์และผลกระทบที่การกระทำของตนมีต่อผู้อื่น ด้วยเหตุนี้ ทุกท่าทีที่ พลโท บุญสิน พาดกลางแสดงออกในฐานะผู้นำ จึงมิได้เป็นเพียงปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ หากแต่เป็นพลังแห่งการตระหนักรู้ที่สะท้อนถึงจุดยืนอันมั่นคง แน่วแน่ และสามารถนำพาสถานการณ์บ้านเมืองไปสู่ความมั่นคงและความหวังอย่างมีศักดิ์ศรี
ในมิติของการยึดมั่นในคุณค่า พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้แสดงถึงการตัดสินใจบนพื้นฐานของหลักการ ความถูกต้อง และคุณธรรม ไม่หวั่นไหวไปตามแรงกดดันจากภายนอก ทำให้การตัดสินใจในทุกก้าวย่างสะท้อนถึงการยึดมั่นในความถูกต้อง
โดยมิได้มีความหวั่นไหวต่อแรงกดดันหรือผลประโยชน์เฉพาะตน หากแต่ยึดในประโยชน์อันสูงยิ่งของสถาบันชาติ ศาสน์ และสถาบันพระมหากษัตริย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยึดมั่นต่อประชาชน
ในมิติของการเปิดใจรับฟังและใช้การวิเคราะห์อย่างสมดุล พลโทบุญสิน พาดกลาง ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งถึงพลังแห่งการตัดสินใจที่ผ่านการพิจารณาความเห็นรอบด้านเพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนรวม ท่านมีจิตใจกว้างขวางในการเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่าง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยปราศจากฉันทาคติ ทำให้การตัดสินใจยืนอยู่บนประโยชน์ของชาติและประชาชน
ในมิติของการแสดงออกซึ่งความโปร่งใส พลโท บุญสิน พาดกลาง แสดงให้เห็นเป็นแบบอย่างในเรื่องของความซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงไปตรงมา จริงใจต่อผู้ตาม สื่อสารเรื่องราวของชาติบ้านเมืองออกสู่สาธารณะอย่างเปิดเผย ไม่ปิดบัง สร้างความไว้วางใจและความศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชาและสังคมโดยรวม ซึ่งทำให้จุดยืนในอุดมการณ์ความรักชาติ รักสถาบัน ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้รับการกล่าวขาน และหยั่งรากฝังลึกในจิตใจของคนไทย โดยเฉพาะเยาวชนไทย ซึ่งจะเติบโตและนำพาความก้าวหน้ามั่นคงของชาติต่อไปในอนาคต
ในมิติด้านความเป็นผู้นำ ตั้งแต่ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 และ แม่ทัพภาคที่ 2 ตามลำดับนั้น พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้ให้ความสำคัญและปฏิบัติภารกิจ การอำนวยการ กำกับดูแล การป้องกันชายแดน ไทย - กัมพูชาอย่างเคร่งครัด โดยให้ความสำคัญในพันธกิจความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสูงสุด ทั้งนี้เพื่อนำมาซึ่งการแก้ปัญหาตลอด แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีความละเอียดอ่อนกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งตลอดระยะ เวลาที่ท่านดำรงตำแหน่ง พลโท บุญสิน พาดกลาง ได้แสดงออกถึงการสร้างความไว้วางใจเป็นฐานให้ผู้เดินรอยตามได้ยึดมั่นในความถูกต้อง การใช้ธรรมะเป็นฐานแห่งการยึดถือปฏิบัติ ในกรอบแห่งบทบาทหน้าที่ได้สร้างแรงบันดาลใจในความรักชาติ รักสถาบันศาสนา
รักสถาบันพระมหากษัตริย์ให้กับคนไทยทุกหมู่เหล่า และแสดงถึงการเป็นผู้นำที่มีจิตวิญญาณแห่งสังคมธรรมาธิปไตยที่สร้างเอกภาพให้บังเกิดแก่ประชาชนคนไทย ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างผลสำเร็จในระยะสั้น หากแต่ยังสืบทอดคุณค่าในระยะยาว
ด้วยคุณลักษณะและบุคลิกภาพของท่วงทีอันสูงส่งเหล่านี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง จึงมิได้เป็นเพียงผู้นำทางการทหาร หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของผู้นำแห่งสังคมธรรมาธิปไตย ผู้ที่ทุกย่างก้าวล้วนสะท้อนถึงความซื่อสัตย์ ความเสียสละ และการอุทิศตนเพื่อผืนแผ่นดินไทยสมควรได้รับการยกย่องและสรรเสริญในเกียรติคุณนี้อย่างสมภาคภูมิจากภาวะผู้นำที่แท้จริงดังที่กล่าวมาข้างต้น สภามหาวิทยาลัยรังสิต ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์มอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจและการเมือง (ประเภททั่วไป) แก่ พลโทบุญสิน พาดกลาง
เพื่อเป็นเกียรติและเป็นการประกาศเกียรติคุณสืบไป
คำประกาศเกียรติคุณ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้บริหารยุคใหม่ที่มุ่งมั่นยกระดับการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ในธุรกิจระดับประเทศและต่างประเทศ สามารถขยายและปรับเปลี่ยนองค์กรไปในระดับสากล ซึ่งเป็นแบบอย่างอันทรงคุณค่าแก่ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและการบริการ สมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญในเกียรติคุณนี้
ในมิติของการเป็นผู้บริหารยุคใหม่แบบมืออาชีพ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ใช้ประสบการณ์ด้านบริหารธุรกิจนำมาขับเคลื่อนกระทรวงพาณิชย์ โดยเน้นการนำมุมมองและทักษะจากประสบการณ์ ๓๐ ปีในองค์กรใหญ่ เช่น IBM, ไทยคม และดุสิตธานี มาประยุกต์ใช้ในบริบทของภาครัฐ โดยให้ความสำคัญกับ การมองภาพรวม และ การให้คุณค่ากับคน พร้อมทั้งใช้ความรู้ด้านเศรษฐกิจ การตลาด และการเจรจาธุรกิจระหว่างประเทศมาสร้างรายได้ เปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น จีนตะวันตก อาเซียน และอินเดีย และในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การเจรจาความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA) และแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งข้าราชการและทีมเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม สร้างผลงานที่โดดเด่นกับกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ด้วยการมอบนโยบายภายใต้แนวคิด "กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว" หรือ "Quick Big Win" ซึ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่างการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและวางรากฐานเพื่อการเติบโตในระยะยาว
ในมิติของการเป็นผู้บริหารที่สร้างสรรค์มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีแนวคิดในการนำเศรษฐกิจไทยไปสู่ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า” นั่นคือ การเปลี่ยนโครงสร้างการค้าเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการผ่านแบรนด์นวัตกรรม และการออกแบบ รวมถึงส่งเสริมซอฟพาวเวอร์ของไทย ตลอดจนมีนโยบายเร่งนำ AI มาวิเคราะห์อุปสงค์- อุปทานของสินค้าและเร่งขยายช่องทางอีคอมเมิรซ์ สำหรับสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดสากล และล่าสุดที่ประจักษ์ชัดเจนได้รับการกล่าวถึงในสังคมอย่างกว้างขวาง คือ การริเริ่มโครงการ Dusit Central Park เป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่โดดเด่นของกรุงเทพมหานครโดยให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลชัดเจน
ในมิติการบูรณาการและความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ มีความเชี่ยวชาญในการทำงานกับคนหลากหลายสาขาอาชีพ หลากหลายประเทศ และแสดงความตั้งใจที่จะปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค โดยมองว่าความสามารถในการปรับตัวและไม่กลัวการเปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร เช่น ในการทำงานมุ่งเน้นประชาชนนำแนวคิดแบบภาคเอกชนมาใช้ในการทำงาน มุ่งแก้ปัญหาปากท้องและลดค่าครองชีพ เช่น การทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลเอกชนให้เปิดเผยราคายา เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการซื้อยาที่ร้านขายยาภายนอก
ด้วยเหตุแห่งความสำเร็จในทุกมิติข้างต้น คือ มิติของการเป็นผู้บริหารยุคใหม่แบบมืออาชีพ มิติของการเป็นผู้บริหารที่สร้างสรรค์มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มิติการบูรณาการและความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ทั้งในการบริหารจัดการองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนเป็นแบบอย่างที่ดีงามให้กับผู้บริหารยุคใหม่ ซึ่งท่านมิได้มองเพียงการฟื้นคืนความเจริญก้าวหน้าให้กับภาคธุรกิจเท่านั้น ท่านยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์มาช่วยพลิกฟื้นประเทศไทยในด้านการพาณิชย์ให้เจริญก้าวหน้าอีกด้วยในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ที่รับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ผ่านวิกฤติและพบโอกาสในเวทีโลก จากการเป็นผู้บริหารที่มีความเป็นเลิศอย่างแท้จริงดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นสภามหาวิทยาลัยรังสิต ในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๘ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์มอบปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ (ประเภททั่วไป) แก่ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพื่อเป็นเกียรติและเป็นการประกาศเกียรติคุณสืบไป ./


