“ดร.อาทิตย์” จี้รัฐบาลไทยเลิกอมพะนำ แถลงให้ชาวโลกรู้ว่า 4 จังหวัดกัมพูชาเคยเป็นของไทย แต่ต้องยอมยกให้เพราะอิทธิพลฝรั่งเศส หลังจากนั้นไทยก็ว่ากัมพูชาเป็นพี่น้อง ช่วยเหลือดูแลตลอด แต่เขมรยังยั่วยุ รุกราน แย่งชิงดินแดนไทยตลอด ถ้ายังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ ก็ถึงเวลาที่ต้องทวงคืน 4 จังหวัดให้กลับมาเป็นของไทย
วันนี้(27 ก.ค.) ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยรังสิต อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Arthit Ourairat” แสดงความเห็นกรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชาว่า รัฐบาลไทยต้องแถลงประกาศให้ทั่วโลกรู้อย่างชัดเจนว่า (ไม่อ้ำอึ้ง อมพะนำ ลับลมคมใน แบบมีผลประโยชน์ทับซ้อน) เดิมสมัยรัชกาลที่ 5 ดินแดนเกาะกง พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เป็นของสยามของไทย
ฝรั่งเศสมาครองอำนาจในฐานะเจ้าอำนาจอาณานิคมอย่างไม่เป็นธรรม และเมื่อทำสนธิสัญญาที่กรุงโตเกียว ได้กำหนดเขตแดนไทยโดยยึดสันปันน้ำจากช่องบกหรือสามเหลี่ยมมรกต ถึงหลักเขตที่ 1-73
และกลับไปยกเกาะกง ซึ่ง ร.6 ตั้งชื่อเป็นจังหวัดว่า ประจันตคีรีเขต คู่กับจังหวัดประจวบคึรีขันธ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกันของอ่าวไทย และพระตะบอง เสียมราฐ (ไม่ใช่เสียมเรียบ) ศรีโสภณ ให้กับประเทศที่ตั้งใหม่ชื่อกัมพูชา อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งไทยต้องจำยอม
ตามสนธิสัญญาที่ยึดสันปันน้ำเป็นหลักเขตแดน บรรดาปราสาททั้งหลาย ทั้งปราสาทพระวิหาร ตาเมือนธม ตาควาย ตาเมือนโต๊ด ทั้งหลายอยู่บนสันปันน้ำในเขตไทยทั้งสิ้น
ถ้าใช้แผนที่ประกอบต้องเป็นแผนที่ที่ถูกต้องไม่ขัดกับความเป็นจริงตามสนธิสัญญาที่ยึดสันปันน้ำเป็นหลัก ดังนั้นแผนที่ 1:200,000 ซึ่งหยาบไม่ละเอียดและไม่ถูกต้องจึงใช้ไม่ได้ ต้องใช้แผนที่ 1:50,000 ตามที่ใช้สากลเป็นหลัก หรือไม่ก็ใช้ดาวเทียมสำรวจใหม่
ไทยก็ยินยอมแบบจำยอม ยอมจำนนตลอดมา
และตลอดมาตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ไทยก็ถือประเทศกัมพูชาและประชาชนชาวกัมพูชาเป็นเหมือนพี่น้อง บ้านพี่เมืองน้อง ดูแลอุปการะช่วยเหลือเกื้อกูลในทุกด้านตลอดมา แม้ในช่วงกัมพูชามีสงครามภายในกัน ไทยก็ช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยสงคราม แม้กระทั่งพระมหากษัตริย์กัมพูชา ไทยก็ทุ่มสรรพกำลังช่วยเหลือมาตลอดจนไม่เป็นอันต้องทำเรื่องอื่น
แต่กัมพูชาไม่เคยยอมรับปฏิบัติตามสนธิสัญญา เรียกร้อง รุกราน คุกคาม ยั่วยุ ดินแดนไทยตลอดมา ตั้งแต่ปราสาทพระวิหาร ปราสาทอื่นๆ เกาะกูด เขตแดนไหล่ทวีปในทะเลที่กำหนดถูกต้องตามกฎหมายสากลทางทะเล UNCLOS โดยสมคบคิดกับนักการเมืองไทยเพื่อแบ่งผลประโยชน์ส่วนตัวกัน แย่งชิงสมบัติผลประโยชน์และอธิปไตยของชาติ จนเกิด MOU.43 และ 44 ขึ้น
การยั่วยุ รุกราน เพื่อแย่งชิงดินแดนไทยที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็เป็นกระบวนการต่อเนื่องของกัมพูชาที่ไม่ยอมหยุดยั้ง เห็นแก่ได้ และไม่สำนึกบุญคุณและมิตรไมตรีของประเทศไทยเลย
ประเทศไทยถูกรังแกบนความใจดี ต้องอดทนจำยอมหวานอมขมกลืนต่อความไม่เป็นธรรม และความไม่สำนึกในบุญคุณและคุณูปการมานานแล้ว
หากกัมพูชายังไม่หยุดกระบวนการดังกล่าว ก็บีบบังคับให้ไทยไม่มีทางเลือกจำที่จะต้องเรียกร้องทวงคืนผืนแผ่นดินไทยทั้งหมด ตั้งแต่เกาะกง จังหวัดประจันตคีรีเขต พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ คืนมาเป็นของไทยตามเดิม
เพื่อให้คนไทยในดินแดนดังกล่าวได้อยู่เย็นเป็นสุขต่อไป