ที่ทำงานนับเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตามาอยู่ร่วมกัน เพื่อประโยชน์อย่างใด อย่างหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนมากก็จะหนีไม่พ้น ตำแหน่ง และค่าตอบแทน มิตรภาพเปรียบเสมือนเป็นโบนัสก้อนหนึ่ง ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าจะได้มานั้นแสนยากเย็น บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ jobsDB มี 5 วิธีการจัดการกับเพื่อนร่วมงานที่นอกจากจะไม่หยิบยื่นมิตรภาพมาให้แล้วยังเลือกใช้วิธีแทงข้างหลังคุณจนมิดด้ามดังนี้
1. นิ่ง สงบ สยบทุกความเคลื่อนไหว
เมื่อมีคนพูดถึงคุณในแง่ลบ อย่าเพิ่งกระต่ายตื่นตูม ตั้งสติแล้วอยู่แบบเงียบ ๆ รอเก็บข้อมูลก่อน นำสิ่งที่ได้ยินมาวิเคราะห์ด้วยปัญญาและเหตุผลอีกครั้งว่า จริงหรือไม่ ใช่สิ่งที่คุณทำจริงหรือไม่ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายให้คนอื่นคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะคนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอาจสงสัยได้ว่า ถ้าเรื่องที่เป็นประเด็นให้พูดถึงอยู่ขณะนั้น มันไม่มีมูล แล้วคุณจะเดือดร้อนทำไม เมื่อคนที่หวังร้ายกับคุณเห็นว่าคุณไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร อีกทั้งประเด็นค่อย ๆ จะเลือนหายไป เพราะความไม่มีมูล คนๆ นั้นจะสงบปากไปเอง
2. ทำตัวเป็นกองพิสูจน์หลักฐาน
ในบางกรณีความเงียบอาจต้านไม่อยู่ และเพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง จำเป็นต้องมีกระแสโต้กลับไปบ้าง คำแนะนำอย่างหนึ่งของการทำงานที่มีประสิทธิภาพคือ การทำงานแบบมีหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือรูปภาพ จะมีส่วนช่วยอย่างมาก เวลาที่เราต้องการความกระจ่างในเรื่องที่โดนกล่าวหา ถ้าคุณกำลังโดนแทงข้างหลังด้วยข้อหาบางอย่าง แล้วคุณมีหลักฐานชี้แจงให้เห็นในข้อเท็จจริง คำชี้แจงของคุณจะมีน้ำหนักมาก ซึ่งมากกว่าแค่คำพูดแก้ตัวลอยๆ และเชื่อเลยว่าคนที่ตั้งใจให้ร้ายคุณจะต้องหงายเงิบแน่นอน
3. หาโฆษกประจำตัว
นอกเหนือจากพยานหลักฐานแล้ว พยานบุคคล ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีน้ำหนัก และสำคัญมาก ๆ ต่อรูปคดี ดังนั้น ถ้าคุณโดนเพื่อนร่วมงานตัวแสบ กระทำการแทงข้างหลังคุณ แต่คุณมีกัลยาณมิตร ผู้รับรู้เหตุการณ์จริงอยู่ข้างกาย คุณไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไป จงใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ให้กัลยาณมิตรเป็นเสมือนโฆษกประจำตัวช่วยคุณเพื่อช่วยคุณแก้ต่าง ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์ดูดีขึ้นมาก เพราะการที่คนอื่นพูดถึงเรานั้น มีความน่าเชื่อถือกว่าการที่เราพูดถึงตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องในทางลบ
4. หากรรมการห้ามยก
นิ่งก็แล้ว หาหลักฐานมาแก้ก็แล้ว ถ้าเพื่อนร่วมงานยังไม่หยุด ยังดึงดันแทงข้างหลังคุณต่อไปเรื่อยๆ คงต้องถึงเวลาหาทางคุยกันสักที ว่าจริงๆ แล้วมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจคุณหรือไม่ ทำไมยังตามราวีคุณอยู่? การเลือกพูดคยกันแบบเปิดอกจะดีที่สุด ถ้ามีพยานที่เกี่ยวข้องเป็นคนกลางคอยห้ามยก เพื่อให้มีคนรับรู้อีกคนหนึ่งว่า สิ่งที่เราได้คุยกับคู่กรณีคืออะไร และมีข้อตกลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง ป้องกันการบิดพลิ้วหัวหมอของเพื่อนร่วมงานผู้ไม่ประสงค์ดี และกรรมการคนนี้ยังทำหน้าที่ช่วยชี้แจง ไกล่เกลี่ย และให้ความเห็นแบบเป็นกลางโดยปราศจากอคติได้ อาจเป็นอีกทางหนึ่ง ในการประสานความเข้าใจได้อีกด้วย
5. คิดบวกไว้เถิด จะเกิดผล
สุดท้าย คงต้องอาศัยพลังของจิตอันเข้มแข็งมาเป็นแรงผลักดัน จะไม่มีใครทำอะไรคุณได้ หากเรามีจิตอันมั่นคงในการตั้งใจทำงาน และไม่ให้ร้ายใคร ขอให้คิดเป็นบวกเข้าไว้ ว่านี่คือหนึ่งในบททดสอบชีวิตที่คุณต้องผ่านไปให้ได้ พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ที่สุด ให้เกิดข้อบกพร่องน้อยที่สุด แล้วจะไม่มีใครทำอะไรคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้า หรือลับหลัง จงจำไว้ว่า คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ดังนั้นไม่ว่าเราจะโดนแทงข้างหลังอย่างไรก็ตามถ้าเรามั่นใจในความดีของตัวเอง เราจะสามารถฝันฝ่าอุปสรรคทั้งหมดไปได้อย่างแน่นอน
