สมาคมการขายและตลาดอสังหาฯหรือRESAM ลุ้นรัฐบาลออกมาตรการระยะสั้น-ยาวหนุนอสังหาฯ พร้อมชี้เทรนด์ตลาดเข้าสู่ระบบการแข่งขัน Certified Agent กระตุ้นโบรกเกอร์-ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยกระดับพนักงานขายสู่ระบบไลเซนส์สู้ต่างชาติรับมือตลาดเปิดเสรีภายใต้กรอบเออีซี
นายสมศักดิ์ ชุติศิลป์ นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือRESAM เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปลายปี2558 เป็นต้นไป ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีจะเปิดอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้จึงมองว่าจะช่วยสร้างตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีความคึกคักมากขึ้นทั้งตลาดเช่าและตลาดซื้อขาย และหากรัฐบาลได้มาตรการสนับสนุนทั้งระยะสั้นและระยาวด้วยการขยายเพดานการถือครองคอนโดมิเนียมจาก 49%ในปัจจุบันเป็น 75% ตามที่ภาคเอกชนเสนอผ่านสภาหอการค้าไทยแล้วรวมถึงการปัดฝุ่นมาตรการการลดหย่อน”ภาษี”มาใช้จะยิ่งช่วยสนับสนุนให้ตลาดคอนโดฯที่อยู่ในกรุงเทพเละหัวเมืองการท่องเที่ยวได้รับความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นจากนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพนายหน้า โบรกเกอร์ หรือเอเจนท์ต่างๆเมื่อเออีซีเปิดก็เท่ากับว่าตลาดได้เปิดกว้างให้ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ใน 10 ประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียนสามารถเข้ามาเปิดกิจการหรือดำเนินการในประเทศไทยได้อย่างเสรีมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการอาชีพนายหน้าในประเทศไทยควรจะพัฒนาเรื่องการใช้ภาษาที่ควรพูดได้มากกว่า 2 ภาษา และต้องมี Innovation และ Networking เพื่อโชว์ศักยภาพความเป็นมืออาชีพ เพื่อรองรับการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานในการประกอบอาชีพ
“เปิดเสรีเออีซีมีทั้งข้อดี-ข้อด้อย ข้อดีก็คือ โอกาสที่จะมีลูกค้ามากขึ้น ส่วนข้อด้อยแม้ขนาดฐานลูกค้าใหญ่ขึ้นแต่จะถูกเอเจนท์จากต่างชาติเข้ามาในเมืองไทยมากขึ้นและต่างชาติเองนอกจากได้ภาษาแล้วเขาจะมีเครือข่ายที่มีชื่อเป็นที่รู้จักของตลาด”นายสมศักดิ์ กล่าวพร้อมกับระบุด้วยว่า นับจากนี้ไปการได้รับไลเซนส์จากองค์กรหรือสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของนานาชาติจะเข้ามามีอิทธิพลหรือมีบทบาทที่สำคัญในอาชีพนี้ ส่วนตัวต้องการกระตุ้นให้ผู้ที่ประกอบอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขายอสังหาริมทรัพย์ในไทย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทโบรกเกอร์ หรือ บริษัทผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มีความตื่นตัวและเห็นความสำคัญในเรื่องไลเซนส์ เพราะในอนาคตตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเข้าสู่ระบบการขายผ่าน Certified Agent ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีไลเซนส์คือ มาเลเซีย ,สิงคโปร์
เพื่อรองรับการเปิดเออีซีทางสมาคมฯที่ผ่านมาได้ร่วมกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ(National Assosiation of Realtors:NAR)จัดการอบรมหลักสูตรCIPS(Certifiled International Property Specailist)ซึ่งเป็นมาตรฐานรองรับการเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ การจัดอบรมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ ซึ่งผู้เข้าร่วมผู้ที่ผ่านการอบรมและได้ใบรับรองจะได้รับความน่าเชื่อถือและสามารถประสานงานหรือทำงานร่วมกับเอเจนท์ในต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการร่วมมือกับ 10 ประเทศสมาชิกในอาเซียนนั้นทางสมาคมฯได้ดำเนินการมาตลอด และในเดือนกรฎาคม 2558 ที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้เข้าร่วมประชุมใหญ่ที่ประเทศฟิลิปินส์เป็นเจ้าภาพ ในการเข้าร่วมประชุมนั้นก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงชักชวนให้นักลงทุนมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยด้วย
นายสมศักดิ์ ชุติศิลป์ นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือRESAM เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปลายปี2558 เป็นต้นไป ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีจะเปิดอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้จึงมองว่าจะช่วยสร้างตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีความคึกคักมากขึ้นทั้งตลาดเช่าและตลาดซื้อขาย และหากรัฐบาลได้มาตรการสนับสนุนทั้งระยะสั้นและระยาวด้วยการขยายเพดานการถือครองคอนโดมิเนียมจาก 49%ในปัจจุบันเป็น 75% ตามที่ภาคเอกชนเสนอผ่านสภาหอการค้าไทยแล้วรวมถึงการปัดฝุ่นมาตรการการลดหย่อน”ภาษี”มาใช้จะยิ่งช่วยสนับสนุนให้ตลาดคอนโดฯที่อยู่ในกรุงเทพเละหัวเมืองการท่องเที่ยวได้รับความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นจากนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพนายหน้า โบรกเกอร์ หรือเอเจนท์ต่างๆเมื่อเออีซีเปิดก็เท่ากับว่าตลาดได้เปิดกว้างให้ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้ใน 10 ประเทศที่เป็นสมาชิกอาเซียนสามารถเข้ามาเปิดกิจการหรือดำเนินการในประเทศไทยได้อย่างเสรีมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการอาชีพนายหน้าในประเทศไทยควรจะพัฒนาเรื่องการใช้ภาษาที่ควรพูดได้มากกว่า 2 ภาษา และต้องมี Innovation และ Networking เพื่อโชว์ศักยภาพความเป็นมืออาชีพ เพื่อรองรับการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานในการประกอบอาชีพ
“เปิดเสรีเออีซีมีทั้งข้อดี-ข้อด้อย ข้อดีก็คือ โอกาสที่จะมีลูกค้ามากขึ้น ส่วนข้อด้อยแม้ขนาดฐานลูกค้าใหญ่ขึ้นแต่จะถูกเอเจนท์จากต่างชาติเข้ามาในเมืองไทยมากขึ้นและต่างชาติเองนอกจากได้ภาษาแล้วเขาจะมีเครือข่ายที่มีชื่อเป็นที่รู้จักของตลาด”นายสมศักดิ์ กล่าวพร้อมกับระบุด้วยว่า นับจากนี้ไปการได้รับไลเซนส์จากองค์กรหรือสถาบันที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของนานาชาติจะเข้ามามีอิทธิพลหรือมีบทบาทที่สำคัญในอาชีพนี้ ส่วนตัวต้องการกระตุ้นให้ผู้ที่ประกอบอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขายอสังหาริมทรัพย์ในไทย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทโบรกเกอร์ หรือ บริษัทผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มีความตื่นตัวและเห็นความสำคัญในเรื่องไลเซนส์ เพราะในอนาคตตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเข้าสู่ระบบการขายผ่าน Certified Agent ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีไลเซนส์คือ มาเลเซีย ,สิงคโปร์
เพื่อรองรับการเปิดเออีซีทางสมาคมฯที่ผ่านมาได้ร่วมกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ(National Assosiation of Realtors:NAR)จัดการอบรมหลักสูตรCIPS(Certifiled International Property Specailist)ซึ่งเป็นมาตรฐานรองรับการเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติ การจัดอบรมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมและให้ความรู้ ซึ่งผู้เข้าร่วมผู้ที่ผ่านการอบรมและได้ใบรับรองจะได้รับความน่าเชื่อถือและสามารถประสานงานหรือทำงานร่วมกับเอเจนท์ในต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการร่วมมือกับ 10 ประเทศสมาชิกในอาเซียนนั้นทางสมาคมฯได้ดำเนินการมาตลอด และในเดือนกรฎาคม 2558 ที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้เข้าร่วมประชุมใหญ่ที่ประเทศฟิลิปินส์เป็นเจ้าภาพ ในการเข้าร่วมประชุมนั้นก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงชักชวนให้นักลงทุนมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยด้วย
