xs
xsm
sm
md
lg

โคคา-โคลา ประเทศไทย ชูกลยุทธ์สร้างความสุขให้พนักงาน เปิดโครงการ Coca-Cola Be Well

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาร์ชวัส เจริญศิลป์
อาร์ชวัส เจริญศิลป์ ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร ภูมิภาคอาเซียน เดอะ โคคา-โคลา คัมปะนี กล่าวว่า “นอกจากการมอบความสุขให้คนไทยร่วม 65 ปี ผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว อีกพันธกิจสำคัญของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย คือสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยใช้ชีวิตแอ็คทีฟด้วยการออกกำลังกายและบริโภคอย่างสมดุลเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ ซึ่งกิจกรรมภายนอกบริษัทฯ ที่เราส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการ Active Campus Network ผนึกกำลังมหาวิทยาลัย 12 แห่งทั่วประเทศ ส่งเสริมวัฒนธรรมจักรยานภายในมหาวิทยาลัยและชุมชนรอบข้าง การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ” ส่งเสริมการเล่นกีฬาในหมู่เยาวชนบันไดสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติมาหลายสมัย ฯลฯ
ส่วนภายในบริษัทเราเปิดโครงการ “Coca-Cola Be Well” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสุขให้พนักงาน โดยส่งเสริมด้านสุขภาพองค์รวม ภายใต้ความเชื่อมั่นว่า เมื่อพนักงานและครอบครัวของพวกเขาสุขภาพดีและมีความสุขจะเกิดประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้”
ความสำเร็จขององค์กรไม่ใช่แค่วิสัยทัศน์หรือกลยุทธ์การบริหารงานของผู้บริหารเท่านั้น “พนักงานในองค์กร” ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ หลายบริษัทให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างความสุขให้พนักงาน นำไปสู่การเป็น Happy Workplace ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างงานให้มีประสิทธิภาพนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จในที่สุดเช่นเดียวกับ กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ที่ชูกลยุทธ์สร้างความสุขให้พนักงาน ส่งเสริมให้มีสุขภาวะที่ดีด้วยการใช้ชีวิตแอ็คทีฟบวกกับโปรแกรมสวัสดิการต่างๆ ภายใต้โครงการ “Coca-Cola Be Well” โปรแกรมสร้างความสุขครบวงจรสำหรับพนักงานโคคา-โคลาโดยเฉพาะ
“โปรแกรม “Coca-Cola Be Well” นอกจากจะมุ่งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของพนักงานแล้ว ยังเป็นการสร้างความผูกพันและมีส่วนร่วมต่อองค์กรของพนักงาน (Employee Engagement) เพราะเราสร้างโอกาสและสภาพแวดล้อมให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเพื่อนร่วมงานในองค์กร สร้างความผูกพันให้เกิดกับงาน กิจกรรม และเพื่อนร่วมงาน อันนำไปสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้เช่นกัน หากเราต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางบวกและส่งเสริมให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสุขภาพดี เราต้องเริ่มต้นจากตัวเราก่อน จากนั้นจึงจะสามารถถ่ายทอดความสุขนี้ไปยังผู้บริโภคได้ เราหวังว่าโคคา-โคลา ประเทศไทย จะเป็นสถานที่ทำงานที่ทำให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเป็น Happy Workplace อันดับต้นๆ ของประเทศไทย” อาร์ชวัส กล่าว
พื้นที่ส่วนหนึ่งในออฟฟิศเป็นที่ออกกำลังกาย
โปรแกรมส่งเสริมด้าน Well-Being ช่วยให้พนักงานมี work-life balance มากขึ้น
โครงการ “Coca-Cola Be Well” แบ่งเป็น 2 โปรแกรมหลัก
1.โปรแกรมส่งเสริมการใช้ชีวิตแอ็คทีฟ โคคา-โคลาจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งในออฟฟิศเป็นที่ออกกำลังกาย ประกอบด้วยห้องฟิตเนสที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์คาดิโอและอุปกรณ์ยกน้ำหนัก ชั้นเรียนออกกำลังกาย และชั้นเรียนโยคะที่มีเป็นประจำทุกวันหลังเลิกงาน ตกแต่งด้วยข้อความเสริมสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแอ็คทีฟ นอกจากนั้นยังมีการมอบจักรยานให้พนักงานโคคา-โคลาทุกคน เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ในการใช้ชีวิตแอ็คทีฟ รวมทั้งมอบ Misfit Shine สายรัดข้อมือเพื่อวัดการใช้พลังงานของร่างกายในชีวิตประจำวัน เพื่อให้พนักงานรู้ว่าวันนี้เราใช้พลังงานไปเท่าไหร่ถึงเป้าที่เราตั้งไว้หรือไม่ และยังมีการตรวจเช็คสมรรถภาพร่างกายรายเดือน และตรวจสุขภาพประจำปี อีกด้วย

2.โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดี เพราะความหมายของคำว่าสุขภาวะที่ดีไม่ใช่แค่สุขภาพกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย โครงการของโคคา-โคลาจึงไม่ได้มีแค่กิจกรรมการออกกำลังกาย แต่ยังมีโปรแกรมและการอบรมต่างๆ ที่ช่วยพนักงานจัดการกับความเครียดระหว่างทำงานและการผ่อนคลายเพื่อสุขภาพจิตที่ดี เช่น บริการให้คำปรึกษาด้านการเงินและภาษี จัดห้องสำหรับคุณแม่ที่ต้องการให้นมบุตร เพื่อให้กลับมาทำงานได้หลังจากลาคลอดโดยไม่ต้องมีข้อกังวล ส่วนคุณพ่อก็มีสวัสดิการด้าน Paternity Leave ซึ่งพนักงานชายที่ภรรยาพึ่งคลอดบุตร สามารถลาทำงานที่บ้านได้หนึ่งเดือน โดยไม่ต้องนั่งทำงานที่ออฟฟิศ รวมทั้งจัดกิจกรรมสำหรับครอบครัวและชุมชนให้แก่พนักงานทุกคน
ด้าน ประไพภักตร์ ไวเกิล ผู้จัดการการตลาด เครื่องดื่มไม่อัดลม บ.โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เผยมุมมองในฐานะพนักงานโคคา-โคลาว่า “การที่บริษัทมีโปรแกรมส่งเสริมด้าน Well-Being ให้แก่พนักงาน สามารถช่วยให้เรามี work-life balance มากขึ้น ไม่เกิดความคิดว่ามาทำงานแล้วต้องเจอแต่ความเครียด เพราะสถานที่ทำงานของเราสามารถทำให้เรารีแลกซ์ได้ อีกทั้งยังช่วยให้เรามีสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก จากที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย กลายเป็นคนที่รักการออกกำลังกายไปโดยปริยาย ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจในเชิงบวก มีความสามารถในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ วันมากขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น