Q : หัวหน้าของผม เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ชอบโชว์กร่าง สั่งอะไรต้องได้ ใครเถียงหรือขัดใจ ก็ด่ากราด ยิ่งถ้าทำงานพลาด พนักงานทุกคน จะได้ยินเสียงกร่นด่า ทะลุห้องกันเลยทีเดียว แต่ที่ลูกน้องยังทน เพราะแกนำทีมไปถึงเป้าบริษัทเสมอ แต่ยังไงผมก็ยังหมั่นไส้อยู่ดี ที่เขามาจิกหัวใช้ราวกับทาส ผมควรจะทนทำงาน กับคนแบบนี้ หรือหาวิธีรับมือยังไงดีครับ
A : ผมมีคำถาม 3 ข้อ ให้ตอบ ก่อนที่จะให้คำแนะนำ
1. ทำงานกับหัวหน้าคนนี้ มากี่ปีแล้ว ถ้าเพิ่งทำได้ไม่กี่เดือน ให้อดทนไปก่อน เพราะการที่รู้สึกหมั่นไส้ อาจจะเป็นเพราะ ไม่คุ้นชินกันสไตล์ของหัวหน้าคนนี้ แต่ถ้าทำงานดัวยกัน มาหลายปีแล้ว คุณยังไม่ชินอีกเหรอครับ
2. เท่าที่มีโอกาส ได้ทำงานกับหัวหน้าคนนี้ คุณได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้นบ้าง ต้องยอมรับว่าคนแบบนี้ คงมีอะไรดี ถ้าไม่เช่นนั้น องค์กรไม่น่าเก็บไว้แล้ว นอกจากนั้น ถ้าเขาไม่เก่งจริง คงไม่สามารถ นำพาทีมให้บรรลุเป้าหมาย ได้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งๆ ที่ลูกน้องไม่ชอบหรอกครับ ผมเคยทำงานกับหัวหน้า ที่มีอารมณ์ร้อน เสียงดัง ปากจัด เผด็จการ ฯลฯ แต่เก่งมาก วันแรกๆ ที่เริ่มต้นทำงาน แกเรียกผมไปบอกว่า ถ้าทำงานด้วยกัน “No pain, No gain” แปลว่า ถ้าไม่เจ็บก็จะไม่ได้เรียนรู้ ดังนั้น ถ้าแกด่า แล้วรู้สึกเจ็บ ก็ต้องกลับมาคิดว่า ได้เรียนรู้อะไร ถ้าไม่คิดก็ได้แต่เคียดแค้นแต่ไม่ได้ความรู้ ดังนั้นที่ผ่านมา ได้เรียนรู้อะไร จากแกไปบ้างแล้วครับ
3. มีอะไรที่ยังไม่ได้เรียนรู้ จากหัวหน้าคนนี้อีกไหม เคยดูหนังจีน หรืออ่านหนังสือกำลังภายในบ้างไหมครับ ลูกศิษย์หลายคน ที่อยากเรียนวิชาจากอาจารย์เก่งๆ ล้วนถูกทดสอบความอดทน ทั้งทางร่างกายและ จิตใจอย่างสาหัสสากรรจ์ทั้งสิ้น กว่าจะได้ร่ำเรียนวิชาเอก หัวหน้าคนนี้มีความเก่งอะไร ที่คุณยังไม่ได้เรียนรู้อีกไหม ถ้ามีรีบเรียนเลย แต่ถ้าไม่มี ก็รีบไปเถอะครับ แกหมดค่าสำหรับคุณแล้ว
เมื่อตอบคำถามครบ 3 ข้อแล้ว มาฟังคำแนะนำต่อ
1. คุณเปลี่ยนคนอื่นได้ยาก โดยเฉพาะเปลี่ยนนิสัยของหัวหน้า ยิ่งยากขึ้นอีก 100 เท่า ดังนั้นแทนที่จะตั้งคำถาม กับตัวเองว่า “ทำไมแกเป็นอย่างนี้”, “เราจะดัดนิสัยแกได้ยังไง”, “เมื่อไรแกจะสำนึก” ฯลฯ ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้ประโยชน์ นอกจากจะไม่ได้คำตอบแล้ว คิดมากๆ ประสาทกินอีกต่างหาก ลองเปลี่ยนคำถามมาเป็น “เราจะทำงาน ให้ประสบความสำเร็จ กับคนที่มีนิสัยแบบนี้ ได้อย่างไร”, “เราจะทำงานกับคนๆ นี้ โดยที่เรามีความสุขได้อย่างไร”, “เรามีทางเลือกอื่นๆ อะไรในชีวิตอีกไหม ถ้าไม่อยากทน กับสภาพแบบนี้” เป็นต้น ซึ่งเป็นคำถามที่สร้างสรรค์กว่า
2. ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด อย่าไปสนใจคำพูด หรืออารมณ์ของเขา คิดซะว่ากำลังทำงานกับ “คนบ้า” ซึ่งฟ้าประทานมา เพื่อพิสูจน์ความสามารถของคุณ มองเป็นเรื่องตลก คล้ายๆ กำลังเล่นเกมส์ ลองพนันกับเพื่อนเล่นๆ ก็ได้ว่า วันนี้ใครจะโดนด่าเป็นคนแรก หรือ วันนี้แกจะโม้เรื่องอะไร เป็นต้น ใครทายถูกชนะ(ฮา) หรือมองเป็นเรื่องน่าสงสารก็ได้ คนแบบนี้ มักมีปมด้อยในชีวิต ถ้าสมัยเด็กๆ ไม่ถูกคนอื่นรังแก ที่บ้านก็คง ไม่มีความอบอุ่น พูดแล้วไม่มีใครฟัง เลยต้องมาหาสิ่งชดเชยจากที่ทำงาน คิดแล้วก็ให้รู้สึกสังเวชใจ จากนี้ไปตื่นให้เช้าขึ้นอีกหน่อย ใส่บาตรให้ไป เผื่อชาติหน้าเกิดใหม่ แกจะได้ดีขึ้น (อย่าลืมอุทิศส่วนกุศล โดยเรียกชื่อแกด้วย 55)
3. มองหาโอกาสใหม่ๆ ในที่ทำงานเดิมดูก่อน เช่น ขอย้ายไปแผนกอื่น หรือ ย้ายไปทำงานประเภทอื่น โดยอ้างว่า “เพื่อจะได้เรียนรู้งานใหม่ๆ” หรือถ้าไม่มีจริงๆ ก็มองหาโอกาสในองค์กรอื่นข้างนอกดูบ้าง ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไง ให้พิมพ์คำว่า “บริษัทจัดหางาน” ลงในกูเกิ้ล แล้วส่งรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติ การทำงานไปให้ ถ้าความสามารถของคุณ ตรงกับความต้องการที่บริษัทเหล่านี้มีอยู่ โอกาสก็จะเข้ามาหาเอง
อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
apiwut.p@slingshot.co.th