Q: มีลูกน้องที่เก่ง ทำงานดี แต่มีพฤติกรรมไม่ดี เพื่อนร่วมงานไม่ค่อยชอบ แต่กับดิฉันเอง เรื่องงานไม่บกพร่อง จะมีปัญหาก็แค่ตอนที่ ต้องประสานงานกับแผนกอื่น เคยตักเตือนแล้ว ก็ดีขึ้นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ถ้าตักเตือนบ่อยๆ ก็กลัวจะผิดใจกัน ปัญหาอย่างนี้ควรทำอย่างไรดีคะ
A: พฤติกรรมไม่ดีที่ว่านี้คืออะไร แล้วเป็นสิ่งที่คุณรับได้ หรือเปล่า
หากคิดว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เช่น แต่งตัวสีฉุดฉาดเกินไป เป็นต้น ก็ทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ซะ พูดครั้งเดียวพอ ที่เหลือปล่อยให้ไปคิดเอง แต่ที่สำคัญต้องมีมาตรฐานเดียว แปลว่ากับคนอื่นๆ ที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน คุณก็ต้องยอมรับด้วย จากนั้น จึงหาโอกาสสื่อสารให้กับพนักงานคนอื่นๆ ในทีมให้ทราบว่า สำหรับประเด็นแบบนี้ คุณไม่ใส่ใจถือสาอะไร หากงานทำเสร็จ ตามกำหนดเวลาและ มีผลงานตามที่ตกลงกัน ก็ยอมรับได้
แต่หากพฤติกรรมที่ว่านี้ เป็นเรื่องที่คุณรับไม่ได้ เช่น ไม่ให้ความร่วมมือ กับกิจกรรมอื่นๆ ขององค์กรเลย เป็นต้น ขอให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เรียกพนักงานคนนี้มาคุย เป็นการส่วนตัว แยกประเด็นให้ชัดเจนว่า สิ่งที่ต้องการคุยด้วยคือ เรื่องพฤติกรรมบางอย่าง ของเขาที่คุณไม่โอเค (อย่าอ้างว่าคนอื่นไม่โอเค) บอกถึงผลดีหากเขาสามารถปรับเปลี่ยนได้และ บอกถึงผลเสีย หากยังคงมีพฤติกรรมเช่นนี้ ต่อไป
2. ถามเขาว่ามีความเห็นอย่างไร กับสิ่งที่คุณพูด เห็นด้วยหรือไม่ว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและ สมควรปรับเปลี่ยน (หากเห็นด้วยข้ามไปข้อ 4)
3. หากยังไม่เห็นด้วย อย่าเพิ่งไปต่อ ให้ยกตัวอย่างผลเสีย ที่เกิดขึ้นแล้ว หรืออาจเกิดขึ้นในอนาคต จากพฤติกรรมนั้นๆ ของเขา พูดคุยให้เห็นถึง ผลกระทบที่ชัดเจน ที่จะมีต่อตัวพนักงานเอง อย่างไรก็ตาม หากสุดท้าย ยังคงยืนยันว่าไม่เห็นด้วย ที่จะต้องปรับเปลี่ยน ให้คุณพูดชัดเจนว่า "สำหรับพี่ พฤติกรรมแบบนี้ ยอมรับไม่ได้และ ไม่ต้องการเห็นพฤติกรรมเช่นนี้ เกิดขึ้นในทีมอีก ไม่ว่าจะโดยใคร" ทำหน้าตาให้ขึงขัง ดูเอาจริงเอาจัง แต่ไม่ก้าวร้าว
4. ถามพนักงานว่า เขามีแนวทาง ในการปรับปรุงแก้ไข เรื่องนี้อย่างไรและ ต้องการให้คุณสนับสนุนช่วยเหลืออะไรบ้าง เพื่อให้เขาสามารถ ทำตามที่ตั้งใจได้ หากสิ่งที่พนักงานเสนอ คุณรับได้ ให้ตกลงตามนั้น แต่หากไม่เห็นด้วย หรือพนักงานไม่มีข้อเสนอใดๆ ให้คุณกำหนดวิธีการ ที่ต้องการให้พนักงานปฏิบัติให้ชัดเจน
5. ตกลงวิธีการติดตามผลและ วันเวลาที่จะกลับมาคุยกันอีกครั้ง (ไม่ควรทิ้งระยะ เกินกว่า 2 อาทิตย์สำหรับ 1-2 ครั้งแรก ของการพูดคุย)
6. หากไม่ดีขึ้น ให้กลับไปทำข้อ 3 อีกครั้ง แต่สุดท้าย หากยังไม่ดีขึ้นอีก จงทำใจให้เข้มแข็งและตัดสินใจลงโทษ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม ต่อไป
จากเรื่องราวที่เล่ามาให้ฟังข้างต้น ผมเข้าใจดีว่า คุณรู้สึกสงสารและ ไม่อยากรุนแรงกับพนักงาน ประกอบกับพนักงาน มีผลงานที่คุณรับได้ แต่ต้องยอมรับว่า หากไม่ทำอะไรเลย ปัญหาจะลุกลามใหญ่โตขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายคุณอาจรักษาพนักงานคนนี้ไว้ได้ แต่ต้องสูญเสียพนักงานคนอื่นๆ ไป นอกจากนั้น ผู้บริหารในองค์กรและ หัวหน้าทีมคนอื่นๆ คงจับตาดูด้วยว่า คุณจะบริหารจัดการปัญหานี้อย่างไร หากคุณไม่ตัดสินใจ ทำอะไรสักอย่าง อาจทำให้ความเชื่อมั่น ในภาวะผู้นำของคุณในสายตาคนอื่นๆ ลดลงด้วย
ผมเข้าใจดีว่า "หัวหน้าที่ดี ต้องให้โอกาสคน" แต่อย่าลืมว่า "โอกาสต้องมีวันสิ้นสุด" การตัดสินใจครั้งนี้ อาจจะฟังดูยาก แต่ในฐานะผู้นำ การทำในสิ่งที่ถูกต้องและ ควรทำแม้มีบางคนไม่พอใจก็ตาม เป็นความท้าทายที่ต้องเอาชนะ
อยากให้คิดว่า พนักงานคนนี้ก็เปรียบเสมือนเป็นลูก เป็นน้องของคุณจริงๆ หากต้องตัดสินใจลงโทษบ้าง ก็ทำเพราะรัก ไม่ใช่เพราะเกลียด ทำเพราะอยากให้เขาได้ดีและ ประสบความสำเร็จในอนาคต ไม่เช่นนั้นอาจเข้าทำนอง "พ่อแม่รังแกฉัน" ในบทสรุป ตอนสุดท้ายของเรื่อง ก็เป็นได้
อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
apiwut@riverorchid.com