นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า ความสำเร็จจากการดำเนินงานของบริษัทในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทได้รับรางวัลที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในแบรนด์จากหลายสถาบัน ได้แก่ รางวัล 5 ดาวจากการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (กลต.) และสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) การได้รับการประเมินคุณภาพในระดับดีเลิศ (100%) ในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2555 จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย
รางวัลบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุดในหมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง จากภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงรางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น แบรนด์แห่งคุณภาพที่คุ้มค่ากับการซื้อจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งรางวัลต่างๆ ดังกล่าว เป็นผลจากการกำหนดทิศทางของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความรอบคอบ โปร่งใส และการส่งมอบคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรผ่านวิสัยทัศน์ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2554 - 2556)
นอกจากรางวัลที่ได้รับแล้ว ด้านผลการดำเนินงานบริษัทยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เห็นได้จากกำไรสุทธิในรอบ 3 ปี ที่มีอัตราการเติบโตรวม 49% ด้านรายได้รวมในรอบ 3 ปีเติบโตขึ้น 41% ส่วนผลประกอบการโดยรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แม้จะมีสถานการณ์ภายในประเทศที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเกิดขึ้นก็ตาม
"ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาโครงการที่มุ่งตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยด้วยนโยบาย Affordable House ภายใต้แนวคิดการบริหารชุมชนในแบบชุมชนน่าอยู่ โดยมี 2 โครงการไฮไลต์ที่เป็นเรือธงและยุทธศาสตร์ของบริษัทในอนาคต ได้แก่ โครงการ ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 และ เดอะ ลุมพินี 24 ที่มีความแตกต่างกันทั้งในด้านกลุ่มเป้าหมายและแนวทางการบริหารชุมชน อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยที่สั่งสมมากว่า 25 ปี ทำให้ทั้ง 2 โครงการไฮไลต์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี"
สำหรับปี 2557 - 2559 จะเป็นการใช้วิสัยทัศน์รอบใหม่ของบริษัท เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 และการเติบโตต่อไปในอนาคต ซึ่งมีความท้าทายหลายประการรออยู่โดยมีปัจจัยคือสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ บริษัทจึงต้องเตรียมแผนธุรกิจเพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ในขณะเดียวกันด้วยสถาบัน LPN ที่บริษัทจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจและการเติบโตของบริษัทให้กับพนักงาน
ส่วนแผนงานด้านธุรกิจนั้น บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตทั้งด้านยอดขายและยอดรับรู้รายได้ไว้ที่ 10% จากการพัฒนาโครงการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 12 โครงการ โดยได้เริ่มเปิดขาย 2 โครงการต่อเนื่องในย่านอ่อนนุชเพื่อดูกระแสตอบรับของตลาด ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจ ทั้ง 2 โครงการยังคงได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายโดยดูจากจำนวน Tag ที่ลูกค้ามาลงชื่อก่อนเปิดจองโดยมียอดขาย 50% จากจำนวนที่เปิดขายทั้งหมดซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย เนื่องจากผู้ซื้อบางส่วนยังต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงกำลังซื้อจะกลับมาชัดเจนมากขึ้น โดยบริษัทได้เก็บข้อมูลการขายทั้ง 2 โครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ประเมินตามสถานการณ์จริงสำหรับปรับกลยุทธ์การขายต่อไป