xs
xsm
sm
md
lg

ต้องคุมลูกน้องช่างนินทา ทำอย่างไรดี โดย อ.อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อ.อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา กรรมการบริหาร บ.ออคิด สลิงชอท จำกัด
Q: เป็นหัวหน้าแผนกค่ะ และเป็นคนมีลูกน้อง ตอนนี้มีปัญหาคือ ลูกน้องชอบนินทาหัวหน้า ไม่ว่าให้ทำอะไรก็จะเอาไปบ่น แล้วชอบดองงาน ต้องคอยให้ตามตลอด พอตามมากๆเข้าก็จะไม่พอใจ บางครั้งก็จะชอบไปนินทาให้แผนกอื่นฟัง ซึ่งโดยส่วนตัวลูกน้องเองก็มีพฤติกรรมที่มีปัญหา ไม่ตั้งใจทำงาน เช้ามาเล่นเฟสบุ๊ค แต่งหน้าแต่งตัว กว่าจะทำงานได้ปาเข้าไป 10 โมง ในตอนแรกดิฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่พอผ่านไปนานๆเข้าก็มีพฤติกรรมแบบนี้ทุกวัน ทำให้ต้องเรียกมาตักเตือนซึ่งก็ดีขึ้นแค่ในช่วงแรกๆ สักพักก็เหมือนเดิม ขู่จะหักเงินเดือนก็ไม่สนใจ คนใหม่ที่เข้ามาก็จะทำตามๆกัน จึงให้พักงานไปคนนึง ทำให้ตอนนี้ยิ่งต่อต้านกันใหญ่ ส่วนฝ่ายบุคคลมีก็เหมือนไม่มีค่ะ เพราะลาออกบ่อย จะปรึกษาผู้บริหาร ก็กลัวจะคิดว่าเราคุมลูกน้องไม่ได้ ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ

A: ผมขอตอบตรงๆ ตามความรู้สึกและ ข้อมูลที่มี อาจไม่ถูกต้องหรือถูกใจ 100% นะครับ ผมเห็นว่าเรื่องนี้ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่ลูกน้อง อีกส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่ตัวเราเองด้วย ผมขอเริ่มต้นจากปัญหาที่ตัวเราเองก่อน เพราะแก้ไขได้ง่ายกว่า ทำไมผมจึงมองว่าเป็นปัญหาที่เราด้วย เพราะคุณมีลูกน้อง 5 คน ลูกน้องทั้งหมดจับกลุ่มสุมหัวนินทานาย พอมีคนใหม่เข้ามาก็ไปเข้าร่วมสุมหัวกับพวกเก่าๆ ด้วย อย่างนี้แปลว่าไม่ใช่ลูกน้องแค่คนสองคน หรือ ไม่ใช่เฉพาะคนเก่าเท่านั้น ที่ไม่ชอบคุณ ทั้งคนเก่าคนใหม่ ไม่ว่ามีลูกน้องกี่คน ก็ไม่ชอบคุณทั้งหมด แบบนี้คุณน่าจะมีช่องว่างในการทำงานกับลูกน้องอย่างมากเลยทีเดียว รายละเอียดที่ให้มาก็ไม่ได้บอกด้วยสิว่า สไตล์การทำงานของคุณเป็นอย่างไร ผมพยายามเดาๆ ดู คิดว่าเป็นไปได้ไหมที่คุณเป็นคนมุ่งงานและ ให้ความสำคัญกับความสำเร็จของงานอย่างมาก แต่อาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับคน อย่างเพียงพอ เป็นไปได้หรือไม่ว่า คุณอาจไม่ค่อยได้มีโอกาส สังสรรค์กับลูกน้องนอกเวลางาน หรือพูดคุยกันเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากงานเท่าที่ควร ความไว้เนื้อเชื่อใจจึงไม่เกิดขึ้น

หากเป็นเช่นนั้นผมขอแนะนำสัก 3-4 อย่างดังนี้ก่อน

1. ต้องได้ใจก่อนได้งาน หาโอกาสพูดคุยกับลูกน้องทีละคน ทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น ในเรื่องส่วนตัว ครอบครัว ความมุ่งหวัง เป้าหมายในชีวิต ความสุขความทุกข์ที่มี ถามเยอะๆ พูดน้อยๆ ตั้งใจรับฟัง

2. ถ้าเป็นไปได้ ลองขอให้ลูกน้องให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) กับเรา โดยให้ลูกน้องทุกคนรวมกลุ่มกันแล้วใช้เทคนิค 3S คือให้ถามว่า "ทีมของเรารวมทั้งตัวคุณด้วย มีอะไรที่ยังไม่ได้ทำ อยากให้เริ่มทำหรือ ทำให้มากขึ้น (Start) มีอะไรที่ทำมากเกินไปไม่ อยากให้ทำหรือ ทำให้น้อยลง (Stop) และ มีอะไรที่ทำได้ดีอยู่แล้วอยากให้ทำต่อเนื่องต่อไป (Stay) เมื่อได้รับแล้ว นำมาพิจารณาว่า มีอะไรที่ทำได้บ้าง ให้ลองพยายามปรับเปลี่ยนดูเท่าที่พอทำไหว ในขณะที่บางอย่างทำไม่ได้ หรือจะตัดสินใจว่าจะยังไม่ทำ ก็หาโอกาสสื่อสาร พร้อมทั้งให้เหตุผล ให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรับทราบ

3. ลองทบทวนดูซิว่าที่ผ่านๆ มา มีใครพูดหยอกล้อ แซว หรือพูดกระทบกระเทียบคุณเรื่องอะไรบ่อยๆ บ้าง เพราะสิ่งเหล่านั้น อาจเป็นจุดบอด ที่คุณไม่เคยทราบมาก่อนเลย ก็เป็นไปได้ บางครั้งเราอยู่กับตัวเองนานไป เลยมองไม่เห็นว่าตนเองเป็นอย่างไร ในเชิงการบริหารจัดการมักเปรียบเปรยว่าคนส่วนใหญ่ใช้ "กระจกใส" จึงมองเห็นแต่ "คนอื่น" ก่อน น้อยคนนักที่ใช้ "กระจกเงา" ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นตนเองบ้าง จริงอยู่ กระจกใสทำให้เราเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนขึ้น หากเราต้องเดินไปข้างหน้าก็คงต้องมอง กระจกใส คล้ายกับการขับรถที่ต้องมองกระจกหน้ารถเป็นสำคัญ แต่บางขณะบางระยะเวลา หากมีโอกาสได้มองกระจกเงา เพื่อให้เห็นตัวเองบ้าง ก็จะดีไม่น้อย คล้ายกับการขับรถ ที่คนขับมักเหลือบมองกระจกเงาส่องด้านหลังเป็นระยะๆ ฉันใดก็ฉันนั้น

4. เรื่องแบบนี้ควรเล่าให้หัวหน้าฟัง แต่อย่าเล่าแบบเป็นปัญหา ให้เล่าทำนองว่าตอนนี้ในทีมเป็นแบบนี้และ คุณได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการแบบนี้ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ จึงอยากมาเล่าให้หัวหน้าฟัง เผื่อหัวหน้ามีข้อแนะนำอื่นใด บางทีผมคิดว่าหัวหน้าของคุณก็คงได้ยินเรื่องราวจากลูกน้องของคุณมาบ้าง หรือเฝ้าสังเกตุคุณอยู่และ รอดูว่าคุณจะมาคุยกับเขาเมื่อไร การที่ต่างคนต่างดูใจกัน คงไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไร การตัดสินใจเผชิญกับปัญหา น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพียงแต่ต้องมีจังหวะและ เทคนิคที่เหมาะสมด้วย

หากพยายามทำอย่างที่ว่าด้านบนแล้ว ต่อไปลองมองปัญหาที่ลูกน้องบ้าง

1. เป็นไปได้ไหมในกลุ่มนี้มีหัวโจกอยู่คนสองคน ส่วนที่เหลือเป็นพวก "ขุนพลอยพยัก" แบบ ว่าไงว่าตามกัน ดังนั้นหากมีหัวโจก ให้จัดการซะก่อนเลย เริ่มต้นจากวิธีการพูดคุยแบบตรงไปตรงมา แล้วค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักความเข้มงวดให้มากขึ้น เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งคงต้องให้หัวหน้าของคุณ เข้ามามีส่วนรับรู้และ เกี่ยวข้องด้วยและ สุดท้ายหากต้องลงโทษ ก็ทำใจให้แข็งและ เด็ดขาด การเป็นหัวหน้าคนต้องรู้จักที่จะให้โอกาส แต่อย่าลืมว่าโอกาสก็ต้องมีวันสิ้นสุด

2. เป็นไปได้ไหมที่บางคนว่างงานจนเกินไป จึงไม่รู้จะทำอะไร นอกจากจับกลุ่มพูดคุย หรือนินทา หากเป็นเช่นนั้นหางานเพิ่มให้ทำ จะได้ไม่ว่างมากจนเกินไป

3. เป็นไปได้ไหมว่าทำเลที่นั่ง เอื้อให้มีการจับกลุ่ม เช่น ลูกน้องนั่งอยู่ไกลจากคุณ หรือโต๊ะที่นั่งอยู่ใกล้กันจนเกินไป ทำให้จับกลุ่มได้สะดวก หาทางสับเปลี่ยนที่นั่งบ้าง หากเป็นไปได้

4. ผู้บริหารระดับสูงกว่า HR มีไหม หน่วยงาน HR รายงานตรงต่อใคร ถึงแม้ HR จะเข้าๆ ออกๆ บ่อย แต่หวังว่าหัวหน้าของ HR คงอยู่นานกว่า บางทีอาจต้องยืมมือ ผู้มีอำนาจในองค์กรมาจัดการบ้าง เพราะบางครั้งต้องยอมรับว่าพนักงานบางคน ก็หัวแข็งจนไม่มีใครเอาอยู่

ลองดูนะครับ เบื้องต้นแนะนำได้เท่านี้ หากไม่ถูกต้อง หรือเพี้ยนไปตรงไหน ลองให้ข้อมูลมาเพิ่มเติม

อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
apiwut@riverorchid.com
กำลังโหลดความคิดเห็น