กลยุทธ์ 4 นวัตกรรมของ “ดีแพค อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น” ต้องการทำการตลาดในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ด้วยการสร้างแบรนด์ “HERO” และ “สวัสดี” ให้เป็นที่ยอมรับสูงสุดในอาเซียน คาดว่าจะบุกตลาดอาเซียนครบ 9 ประเทศภายในปีนี้
แนวทางการดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์ 4 นวัตกรรม ได้แก่ 1) นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ระดับโลก เพื่อขยายฐานการตลาดระหว่างประเทศ และภายในประเทศ 2) นวัตกรรมเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า จากมาตรฐานระดับโลกไปสู่สินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคชาวไทย 3) นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ และ4) นวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใส่ใจชุมชนและสังคม
“แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ เรายังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในอาเซียน โดยจะทำการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมสนองตอบความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย และพัฒนาศักยภาพของบริษัทให้มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมพลาสติกติดอันดับ 1 ของประเทศไทย” ทวี จุลศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแพค อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ DPAC ผู้จัดจำหน่าย แผ่นฟิล์ม บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนเน้นที่นวัตกรรมใหม่ รายใหญ่ของประเทศ ภายใต้แบรนด์ “HERO” และแบรนด์ “สวัสดี” กล่าว และว่า
“แบรนด์สินค้าของบริษัทถูกแบ่งเซกเมนต์อย่างชัดเจน โดยแบรนด์ “HERO” เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม เพื่อผู้บริโภคใช้งานเอง (B2C) ส่วนแบรนด์ “สวัสดี” เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ (B2B) โดยการผลิตสินค้าทั้งสองแบรนด์มีมาตรฐานการผลิตโดยกลุ่มบริษัท คิงส์แพ็ค ที่มีมาตรฐานระดับสากล และคิงส์แพ็คก็มีพื้นที่และกำลังการผลิตใหญ่ติดระดับ1 ใน 3 ของเอเชีย ซึ่งได้รับความไว้วางใจในการผลิตสินค้า OEM ให้กับหลายแบรนด์ดังในยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น มานานมากกว่า 10 ปี ภายใต้โรงงานผลิตอยู่บนทำเลที่ตั้งที่ดี การคมนาคมสะดวก ทั้งสนามบิน ท่าเรือแหลมฉบัง ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพของกลุ่มคิงส์แพ็ค สามารถผลักดันให้การทำการตลาดของบริษัทฯ เดินหน้าได้อย่างเต็มที่และเข้มแข็ง”
ออกผลิตภัณฑ์ใหม่-ลุยการตลาด ดันยอดขาย1,200 ล้านบาท ปี 56
ทวี กล่าวถึงแผนการตลาดในปีนี้ ว่าเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ “HERO” ออกสู่ตลาดประมาณ 5 - 6 ประเภท อาทิ Zipper Bag, Cling Wrap และ Food Bag ฯลฯ เพื่อสนองความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย ตามรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในยุคสมัย และจะจัดกิจกรรมการตลาดในหลายรูปแบบให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ (B2B) บริษัทเตรียมเปิดตัวแบรนด์ “สวัสดี” เพื่อบุกตลาด B2B และจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ทั้งในประเทศและกลุ่มอาเซียน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ ที่บริษัทได้เข้าไปทำการตลาดมาแล้วซึ่งปีที่ผ่านมาได้ผลตอบรับดี โดยเฉพาะตลาดอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นก่อนการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 2 ปีข้างหน้า นั่นเป็นผลจากการขยายการตลาดอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของบริษัทในปี 2556 อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท อัตราการเติบโตของยอดขายปีละ 20%
“เราให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียนตลอดมา และเริ่มบุกตลาดมานานจากแบรนด์เดิม ตรา D ซึ่งเป็นสินค้าจับตลาดระดับล่าง โดยเข้าไปทำตลาดจนติดอันดับต้นๆ ทั้งในพม่า, ลาว และกัมพูชา และในปีนี้จะขยายตัวไปยังประเทศที่เหลือ โดยปรับรูปโฉมและรีแบรนด์ใหม่ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ภายใต้แบรนด์ “สวัสดี” เพื่อเจาะตลาดระดับกลางมากยิ่งขึ้น ทำให้มีสินค้าที่สนองตอบผู้บริโภคในทุกระดับชั้น” ทวี กล่าว
สำหรับทางด้านนวัตกรรมเพื่อตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญมาตลอด ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโครงการ “HERO Amazingly Clean Thailand มหัศจรรย์เมืองไทยสะอาด” ให้เป็นกิจกรรมที่มีส่วนร่วมในการจัดระเบียบดูแลเกี่ยวกับความสะอาดในทุกพื้นที่สาธารณะที่มีความต้องการอย่างแท้จริง อาทิ สถานที่ราชการ, สถานีตำรวจ, โรงพยาบาล, สถานศึกษา เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการแรกได้เข้าไปบูรณะซ่อมแซมและทำความสะอาด พื้นที่บริเวณโรงเรียนเมืองพัทยา 1 เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยนำพนักงานบริษัทฯ สื่อมวลชน ครูและนักเรียน รวมถึงชุมชนใกล้เคียงมาร่วมกิจกรรมทำความดีกับ HERO คนดีของสังคมที่อุทิศตนเพื่อทำความดีให้สังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน
แนวทางการดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์ 4 นวัตกรรม ได้แก่ 1) นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ระดับโลก เพื่อขยายฐานการตลาดระหว่างประเทศ และภายในประเทศ 2) นวัตกรรมเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า จากมาตรฐานระดับโลกไปสู่สินค้าที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคชาวไทย 3) นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความสะดวกสบาย และไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ และ4) นวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใส่ใจชุมชนและสังคม
“แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ เรายังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในอาเซียน โดยจะทำการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมสนองตอบความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย และพัฒนาศักยภาพของบริษัทให้มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรมพลาสติกติดอันดับ 1 ของประเทศไทย” ทวี จุลศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแพค อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ DPAC ผู้จัดจำหน่าย แผ่นฟิล์ม บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนเน้นที่นวัตกรรมใหม่ รายใหญ่ของประเทศ ภายใต้แบรนด์ “HERO” และแบรนด์ “สวัสดี” กล่าว และว่า
“แบรนด์สินค้าของบริษัทถูกแบ่งเซกเมนต์อย่างชัดเจน โดยแบรนด์ “HERO” เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม เพื่อผู้บริโภคใช้งานเอง (B2C) ส่วนแบรนด์ “สวัสดี” เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ (B2B) โดยการผลิตสินค้าทั้งสองแบรนด์มีมาตรฐานการผลิตโดยกลุ่มบริษัท คิงส์แพ็ค ที่มีมาตรฐานระดับสากล และคิงส์แพ็คก็มีพื้นที่และกำลังการผลิตใหญ่ติดระดับ1 ใน 3 ของเอเชีย ซึ่งได้รับความไว้วางใจในการผลิตสินค้า OEM ให้กับหลายแบรนด์ดังในยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น มานานมากกว่า 10 ปี ภายใต้โรงงานผลิตอยู่บนทำเลที่ตั้งที่ดี การคมนาคมสะดวก ทั้งสนามบิน ท่าเรือแหลมฉบัง ผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพของกลุ่มคิงส์แพ็ค สามารถผลักดันให้การทำการตลาดของบริษัทฯ เดินหน้าได้อย่างเต็มที่และเข้มแข็ง”
ออกผลิตภัณฑ์ใหม่-ลุยการตลาด ดันยอดขาย1,200 ล้านบาท ปี 56
ทวี กล่าวถึงแผนการตลาดในปีนี้ ว่าเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ “HERO” ออกสู่ตลาดประมาณ 5 - 6 ประเภท อาทิ Zipper Bag, Cling Wrap และ Food Bag ฯลฯ เพื่อสนองความต้องการผู้บริโภคที่หลากหลาย ตามรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในยุคสมัย และจะจัดกิจกรรมการตลาดในหลายรูปแบบให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ (B2B) บริษัทเตรียมเปิดตัวแบรนด์ “สวัสดี” เพื่อบุกตลาด B2B และจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ทั้งในประเทศและกลุ่มอาเซียน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ ที่บริษัทได้เข้าไปทำการตลาดมาแล้วซึ่งปีที่ผ่านมาได้ผลตอบรับดี โดยเฉพาะตลาดอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นก่อนการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 2 ปีข้างหน้า นั่นเป็นผลจากการขยายการตลาดอย่างต่อเนื่องและมั่นคง โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของบริษัทในปี 2556 อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท อัตราการเติบโตของยอดขายปีละ 20%
“เราให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียนตลอดมา และเริ่มบุกตลาดมานานจากแบรนด์เดิม ตรา D ซึ่งเป็นสินค้าจับตลาดระดับล่าง โดยเข้าไปทำตลาดจนติดอันดับต้นๆ ทั้งในพม่า, ลาว และกัมพูชา และในปีนี้จะขยายตัวไปยังประเทศที่เหลือ โดยปรับรูปโฉมและรีแบรนด์ใหม่ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ภายใต้แบรนด์ “สวัสดี” เพื่อเจาะตลาดระดับกลางมากยิ่งขึ้น ทำให้มีสินค้าที่สนองตอบผู้บริโภคในทุกระดับชั้น” ทวี กล่าว
สำหรับทางด้านนวัตกรรมเพื่อตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญมาตลอด ในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโครงการ “HERO Amazingly Clean Thailand มหัศจรรย์เมืองไทยสะอาด” ให้เป็นกิจกรรมที่มีส่วนร่วมในการจัดระเบียบดูแลเกี่ยวกับความสะอาดในทุกพื้นที่สาธารณะที่มีความต้องการอย่างแท้จริง อาทิ สถานที่ราชการ, สถานีตำรวจ, โรงพยาบาล, สถานศึกษา เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการแรกได้เข้าไปบูรณะซ่อมแซมและทำความสะอาด พื้นที่บริเวณโรงเรียนเมืองพัทยา 1 เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยนำพนักงานบริษัทฯ สื่อมวลชน ครูและนักเรียน รวมถึงชุมชนใกล้เคียงมาร่วมกิจกรรมทำความดีกับ HERO คนดีของสังคมที่อุทิศตนเพื่อทำความดีให้สังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน
