ข่าวในประเทศ-ค่ายรถยนต์นิสสันร่วมมือตำรวจทางหลวง เปิดโครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน พร้อมมอบอุปกรณ์สาธารณประโยชน์เพื่อการปฏิบัติงาน
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง แถลงเปิดโครงการ “เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน” เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในความพยายามที่จะลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมกันนี้บริษัท ฯ ยังได้มอบอุปกรณ์เพื่อสาธารณประโยชน์ อันได้แก่ เสื้อสะท้อนแสง เต็นท์ขนาด 4x4 เมตรและป้ายไฟหยุดตรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการปฏิบัติหน้าที่บนท้องถนน
สำหรับโครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน มีวัตถุประสงค์ในการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในรถทั้งในส่วนด้านหน้าหรือด้านหลัง ทั้งนี้จากสถิติที่ได้จากจำนวนรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนพบว่า มีเพียงร้อยละ 28 ของผู้ขับขี่เท่านั้นที่คาดเข็มขัดนิรภัยและเพียงร้อยละ 11 ในส่วนของผู้โดยสารที่คาดเข็มขัดนิรภัย จากสถิติดังกล่าวเป็นเกณฑ์ที่ต่ำมาก ทั้งนี้ยังพบด้วยว่ามีผู้โดยสารที่อายุต่ำกว่า 15 ปีหลุดออกจากห้องโดยสาร หรือกระแทกของแข็งในห้องโดยสาร ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต
ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ฝ่ายการตลาดและขาย กล่าวว่า “นิสสันในฐานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพและผู้นำด้านรถยนต์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรืออีโค คาร์ มีนโยบายในการตอบแทนสังคมอย่างชัดเจน โดยหนึ่งในแผนงานของการตอบแทนสังคมก็คือ นโยบายในการส่งเสริมด้านความปลอดภัยของผู้ใช้รถและใช้ถนน และนิสสัน ได้ใช้โอกาสใกล้ช่วงวันหยุดพิเศษปีนี้ เปิดโครงการดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท”
สำหรับกิจกรรมเพื่อรณรงค์ โครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน ในครั้งนี้ จะเริ่มต้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงคือ วันที่ 28 ธันวาคม 2555 ที่จะเป็นช่วง เฝ้าระวัง หรือ 7 วันอันตราย บริษัท นิสสัน และตำรวจทางหลวง จะจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางหลักของการเดินทางสู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เพื่อให้บริการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถยนต์เบื้องต้น โดยนักศึกษาช่างเทคนิคที่จะมาช่วยตรวจสภาพ ไม่ว่าจะเป็นความดันลมยาง แบตเตอรี่หรือระดับน้ำกลั่น พร้อมให้บริการน้ำดื่ม และสติ๊กเกอร์รณรงค์โครงการ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทางหลักดังกล่าว
“ส่วนของการรณรงค์ นิสสันได้มอบอุปกรณ์สาธารณประโยชน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านได้นำไปใช้ในการปฎิบัติงาน เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทุกท่าน ผู้ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการดูแล ช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชนทั้งในช่วงเวลาธรรมดา และโดยเฉพาะในวันหยุดช่วงเทศกาล นิสสันมุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเราวางแผนที่ขยายโครงการนี้ไปยังช่วงวันหยุดเทศกาลสำคัญๆ อื่นๆ ในอนาคต และจะจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อขยายขอบเขตในการรณรงค์โครงการนี้เพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทย” ประพัฒน์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ในช่วงวันหยุดที่ใกล้จะมาถึง กองบังคับการตำรวจทางหลวงร่วมกับบริษัท นิสสันฯ จะตั้งเต้นท์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน บนเส้นทางหลวงดังนี้ จุดที่ 1 บริเวณจุดพักรถถนนมอเตอร์ เวย์ ฝั่งขาออก, จุดที่ 2 บริเวณหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงวังน้อย, จุดที่ 3 บริเวณหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงทับกวาง และจุดที่ 4 บริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังมะนาว โดยประชาชนสามารถแวะรับบริการพักรถ รับน้ำดื่มฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 28-30 ธันวาคม 2555
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจทางหลวง แถลงเปิดโครงการ “เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน” เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐในความพยายามที่จะลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมกันนี้บริษัท ฯ ยังได้มอบอุปกรณ์เพื่อสาธารณประโยชน์ อันได้แก่ เสื้อสะท้อนแสง เต็นท์ขนาด 4x4 เมตรและป้ายไฟหยุดตรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการปฏิบัติหน้าที่บนท้องถนน
สำหรับโครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน มีวัตถุประสงค์ในการรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคาดเข็มขัดนิรภัยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในรถทั้งในส่วนด้านหน้าหรือด้านหลัง ทั้งนี้จากสถิติที่ได้จากจำนวนรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนพบว่า มีเพียงร้อยละ 28 ของผู้ขับขี่เท่านั้นที่คาดเข็มขัดนิรภัยและเพียงร้อยละ 11 ในส่วนของผู้โดยสารที่คาดเข็มขัดนิรภัย จากสถิติดังกล่าวเป็นเกณฑ์ที่ต่ำมาก ทั้งนี้ยังพบด้วยว่ามีผู้โดยสารที่อายุต่ำกว่า 15 ปีหลุดออกจากห้องโดยสาร หรือกระแทกของแข็งในห้องโดยสาร ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต
ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ฝ่ายการตลาดและขาย กล่าวว่า “นิสสันในฐานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพและผู้นำด้านรถยนต์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรืออีโค คาร์ มีนโยบายในการตอบแทนสังคมอย่างชัดเจน โดยหนึ่งในแผนงานของการตอบแทนสังคมก็คือ นโยบายในการส่งเสริมด้านความปลอดภัยของผู้ใช้รถและใช้ถนน และนิสสัน ได้ใช้โอกาสใกล้ช่วงวันหยุดพิเศษปีนี้ เปิดโครงการดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท”
สำหรับกิจกรรมเพื่อรณรงค์ โครงการ เดินทางปลอดภัย คาดเข็มขัดนิรภัยทั้งคัน ในครั้งนี้ จะเริ่มต้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงคือ วันที่ 28 ธันวาคม 2555 ที่จะเป็นช่วง เฝ้าระวัง หรือ 7 วันอันตราย บริษัท นิสสัน และตำรวจทางหลวง จะจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางหลักของการเดินทางสู่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เพื่อให้บริการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถยนต์เบื้องต้น โดยนักศึกษาช่างเทคนิคที่จะมาช่วยตรวจสภาพ ไม่ว่าจะเป็นความดันลมยาง แบตเตอรี่หรือระดับน้ำกลั่น พร้อมให้บริการน้ำดื่ม และสติ๊กเกอร์รณรงค์โครงการ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้เส้นทางหลักดังกล่าว
“ส่วนของการรณรงค์ นิสสันได้มอบอุปกรณ์สาธารณประโยชน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านได้นำไปใช้ในการปฎิบัติงาน เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทุกท่าน ผู้ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการดูแล ช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของประชาชนทั้งในช่วงเวลาธรรมดา และโดยเฉพาะในวันหยุดช่วงเทศกาล นิสสันมุ่งหวังที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเราวางแผนที่ขยายโครงการนี้ไปยังช่วงวันหยุดเทศกาลสำคัญๆ อื่นๆ ในอนาคต และจะจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อขยายขอบเขตในการรณรงค์โครงการนี้เพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในสังคมไทย” ประพัฒน์ กล่าวเสริม
ทั้งนี้ในช่วงวันหยุดที่ใกล้จะมาถึง กองบังคับการตำรวจทางหลวงร่วมกับบริษัท นิสสันฯ จะตั้งเต้นท์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน บนเส้นทางหลวงดังนี้ จุดที่ 1 บริเวณจุดพักรถถนนมอเตอร์ เวย์ ฝั่งขาออก, จุดที่ 2 บริเวณหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงวังน้อย, จุดที่ 3 บริเวณหน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงทับกวาง และจุดที่ 4 บริเวณหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังมะนาว โดยประชาชนสามารถแวะรับบริการพักรถ รับน้ำดื่มฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 28-30 ธันวาคม 2555