เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เปิดตัว “บ้านร่วมทางฝัน 3” เตรียมนำเงินกำไรที่ได้ทั้งหมดมอบให้แก่
รพ.รามาธิบดี ตั้งเป้าปีนี้มอบครบ 100 ล้านบาท จากการทำ 3 โครงการ เผยเป็นการทำกุศลครั้งยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด “อยู่เพื่อให้” เป้าหมายเพื่อตอบแทนสังคม ส่วนแผนงานของ SENA ครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ พร้อมตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 1,800 ล้านบาท
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า นอกจากการบริหารงานตามปกติแล้ว คณะผู้บริหารของ SENA ได้แบ่งเวลาในช่วงที่ว่างจากการทำงานหลักไปทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมภายใต้แนวคิด “อยู่เพื่อให้” โดยการจัดทำโครงการบ้านร่วมทางฝันขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ได้มอบเงินให้แก่โรงพยาบาลรัฐไปแล้ว 2 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ารวม 80.059 ล้านบาท จากการก่อสร้าง และจำหน่ายโครงการบ้านร่วมทางฝัน 1 และ 2 โดยมอบให้แก่โรงพยาบาลศิริราช 40.059 ล้านบาท และโรงพยาบาลตำรวจ 40 ล้านบาท
สำหรับครั้งนี้ เมื่อโครงการประสบความสำเร็จจะสามารถมอบเงินบริจาคเพื่อการกุศลได้ครบ 100 ล้านบาท จากการดำเนินงานรวม 3 โครงการที่ผ่านมา โดยเตรียมเปิดโครงการบ้านร่วมทางฝัน 3 ซึ่งเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 5 ชั้น 4 อาคาร รวม 296 ยูนิต และโฮมออฟฟิศ จำนวน 16 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-2-73 ไร่ โดยจัดทำเป็นห้องพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตร.ม. ราคาขายอยู่ที่ 6-7 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยได้เซ็นสัญญามอบกำไรจากการทำโครงการให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี ประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งปีนี้มีเป้าหมายว่าจะสามารถมอบให้ก่อนประมาณ 20 ล้านบาท
“เราตระหนักดีว่าการจะสร้างสังคมให้น่าอยู่ คนในสังคมต้องมีความสุข โครงการบ้านร่วมทางฝัน สร้างขึ้นเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัท ภายใต้แนวคิด “อยู่เพื่อให้” มีความตั้งใจที่จะคืนสิ่งดีๆ ให้แก่สังคม โดยผ่านการทำโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นรูปธรรม และสาเหตุที่มอบเงินให้แก่โรงพยาบาล เนื่องจากเห็นว่าเป็นการช่วยเหลือที่สามารถเข้าถึงผู้ที่ต้องการอย่างแท้จริง เพราะผู้ป่วยในประเทศไทยมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่โรงพยาบาลยังต้องการเครื่องมือต่างๆ และต้องการรับการสนับสนุนในหลายด้าน ทางบริษัทฯ จึงเกิดแนวคิดที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยพัฒนาให้โรงพยาบาลของรัฐได้มีเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบถ้วน เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลและสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่เข้ามารอรับการรักษาพยาบาลได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำเรื่องดีๆ โดยคณะผู้บริหารของ SENA เพื่อตอบแทนให้แก่สังคมในครั้งนี้”
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน SENA มีโครงการในมือรวม 13 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 7,900 ล้านบาท และช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 3,500 ล้านบาท และได้ตั้งเป้ายอดขายรวมของปีนี้เอาไว้ที่ระดับประมาณ 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2555 จะมาจากการขายบ้าน และคอนโดมิเนียมร้อยละ 96 ค่าเช่า และค่าบริการร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรายได้ที่เกิดจากค่าเช่าโดยคาดว่าจะขยับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปลายปีนี้ SENA มีแผนที่จะเปิดโครงการคอมมูนิตีมอลล์ ชื่อ “SENA fest” ซึ่งเป็นคอมมูนิตีมอลล์แห่งแรกของเสนา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศูนย์รวมความสุขของคนฝั่งธนฯ” ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าของโครงการมากกว่าร้อยละ 80 แล้ว
ดร.เกษรา กล่าวต่อช่วงท้ายว่า SENA มีแผนเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมอาคารสูงในแบรนด์ The Niche ให้มากขึ้น เพื่อให้ตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า Low-Middle Income ให้มากที่สุด รวมถึงการขยายธุรกิจให้มีบริการอสังหาริมทรัพย์ให้ครบวงจร จากเดิมที่มีบริการดูแลทรัพย์สิน และนิติบุคคลอาคารชุด และบริการรับฝากขาย ต่อไปบริษัทจะมีบริการซ่อมแซมบ้าน ในนาม SENA WE CARE เพิ่มขึ้นอีก 1 บริการตามแผนการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็นแผนงานต่อเนื่องภายหลังจากที่ได้ดำเนินการเรื่องเพิ่มทุนเพื่อขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป ซึ่งได้แจ้งข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ ผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว
รพ.รามาธิบดี ตั้งเป้าปีนี้มอบครบ 100 ล้านบาท จากการทำ 3 โครงการ เผยเป็นการทำกุศลครั้งยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิด “อยู่เพื่อให้” เป้าหมายเพื่อตอบแทนสังคม ส่วนแผนงานของ SENA ครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ พร้อมตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 1,800 ล้านบาท
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า นอกจากการบริหารงานตามปกติแล้ว คณะผู้บริหารของ SENA ได้แบ่งเวลาในช่วงที่ว่างจากการทำงานหลักไปทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมภายใต้แนวคิด “อยู่เพื่อให้” โดยการจัดทำโครงการบ้านร่วมทางฝันขึ้นมา ซึ่งขณะนี้ได้มอบเงินให้แก่โรงพยาบาลรัฐไปแล้ว 2 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ารวม 80.059 ล้านบาท จากการก่อสร้าง และจำหน่ายโครงการบ้านร่วมทางฝัน 1 และ 2 โดยมอบให้แก่โรงพยาบาลศิริราช 40.059 ล้านบาท และโรงพยาบาลตำรวจ 40 ล้านบาท
สำหรับครั้งนี้ เมื่อโครงการประสบความสำเร็จจะสามารถมอบเงินบริจาคเพื่อการกุศลได้ครบ 100 ล้านบาท จากการดำเนินงานรวม 3 โครงการที่ผ่านมา โดยเตรียมเปิดโครงการบ้านร่วมทางฝัน 3 ซึ่งเป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 5 ชั้น 4 อาคาร รวม 296 ยูนิต และโฮมออฟฟิศ จำนวน 16 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-2-73 ไร่ โดยจัดทำเป็นห้องพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 ตร.ม. ราคาขายอยู่ที่ 6-7 แสนบาท รวมมูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท โดยได้เซ็นสัญญามอบกำไรจากการทำโครงการให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี ประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งปีนี้มีเป้าหมายว่าจะสามารถมอบให้ก่อนประมาณ 20 ล้านบาท
“เราตระหนักดีว่าการจะสร้างสังคมให้น่าอยู่ คนในสังคมต้องมีความสุข โครงการบ้านร่วมทางฝัน สร้างขึ้นเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัท ภายใต้แนวคิด “อยู่เพื่อให้” มีความตั้งใจที่จะคืนสิ่งดีๆ ให้แก่สังคม โดยผ่านการทำโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นรูปธรรม และสาเหตุที่มอบเงินให้แก่โรงพยาบาล เนื่องจากเห็นว่าเป็นการช่วยเหลือที่สามารถเข้าถึงผู้ที่ต้องการอย่างแท้จริง เพราะผู้ป่วยในประเทศไทยมีเป็นจำนวนมาก ขณะที่โรงพยาบาลยังต้องการเครื่องมือต่างๆ และต้องการรับการสนับสนุนในหลายด้าน ทางบริษัทฯ จึงเกิดแนวคิดที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยพัฒนาให้โรงพยาบาลของรัฐได้มีเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบถ้วน เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลและสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่เข้ามารอรับการรักษาพยาบาลได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำเรื่องดีๆ โดยคณะผู้บริหารของ SENA เพื่อตอบแทนให้แก่สังคมในครั้งนี้”
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน SENA มีโครงการในมือรวม 13 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 7,900 ล้านบาท และช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้มีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นอีก 3 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 3,500 ล้านบาท และได้ตั้งเป้ายอดขายรวมของปีนี้เอาไว้ที่ระดับประมาณ 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปี 2555 จะมาจากการขายบ้าน และคอนโดมิเนียมร้อยละ 96 ค่าเช่า และค่าบริการร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรายได้ที่เกิดจากค่าเช่าโดยคาดว่าจะขยับเพิ่มขึ้น เนื่องจากปลายปีนี้ SENA มีแผนที่จะเปิดโครงการคอมมูนิตีมอลล์ ชื่อ “SENA fest” ซึ่งเป็นคอมมูนิตีมอลล์แห่งแรกของเสนา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ศูนย์รวมความสุขของคนฝั่งธนฯ” ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าของโครงการมากกว่าร้อยละ 80 แล้ว
ดร.เกษรา กล่าวต่อช่วงท้ายว่า SENA มีแผนเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมอาคารสูงในแบรนด์ The Niche ให้มากขึ้น เพื่อให้ตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า Low-Middle Income ให้มากที่สุด รวมถึงการขยายธุรกิจให้มีบริการอสังหาริมทรัพย์ให้ครบวงจร จากเดิมที่มีบริการดูแลทรัพย์สิน และนิติบุคคลอาคารชุด และบริการรับฝากขาย ต่อไปบริษัทจะมีบริการซ่อมแซมบ้าน ในนาม SENA WE CARE เพิ่มขึ้นอีก 1 บริการตามแผนการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็นแผนงานต่อเนื่องภายหลังจากที่ได้ดำเนินการเรื่องเพิ่มทุนเพื่อขายให้แก่นักลงทุนทั่วไป ซึ่งได้แจ้งข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ ผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว
