xs
xsm
sm
md
lg

11 ปี TAQA มหาชนยืนยันคุณภาพ มุ่งมั่นยกระดับอุตฯ ยานยนต์ต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยนับว่ามีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ กว่าครึ่งศตวรรษที่รัฐบาลไทยได้วางยุทธศาสตร์ ปรับทิศทาง พร้อมปูรากฐานสร้างความมั่นคง จนถึงปัจจุบันประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านยานยนต์ หรือติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
สิ่งสำคัญที่ต้องตระหนักควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด คือการรักษาคุณภาพ มาตรฐาน ทั้งในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการบริการก่อนและหลังการขาย เพื่อตอบสนองความคาดหวังและความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค
สำหรับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม Thailand Automotive Quality Award หรือ TAQA Award เดินทางมาถึงปีที่ 11 และกำลังยกระดับเพื่อเป็นสถาบันในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน
โดยTAQA เริ่มจัดครั้งแรกปีพ.ศ.2545 อันเกิดจากความร่วมมือของบริษัท คัสต้อม เอเชีย จำกัด,บริษัท สื่อสากล จำกัด, หนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ประกอบการที่สามารถครองใจมหาชนได้มากที่สุด โดยวัดจากการทำวิจัยเชิงปริมาณสำรวจความพึงพอใจ ของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้รถจริงทั่วประเทศ ตั้งแต่ความพึงพอใจคุณภาพรถ และบริการหลังการขาย
ส่วน TAQA Award ครั้งล่าสุดนี้ ได้ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวนกว่า 6,400 ราย ในพื้นที่ 76 จังหวัด ครอบคลุมรถยนต์ 45 รุ่น จาก 12 ยี่ห้อ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู,เชฟโรเลต,ฟอร์ด, ฮอนด้า,อีซูซุ,มาสด้า,เมอร์เซเดส-เบนซ์,มิตซูบิชิ,นิสสัน,โปรตอน,ซูซูกิ,โตโยต้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกอบการใช้รถยนต์อาทิ น้ำมัน,แบตเตอรี่,ยางรถยนต์ เและฟิล์มกรองแสง
สุกิจ ตันสกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท คัสต้อม เอเชีย จำกัด
“รางวัลนี้ไม่ได้มีคณะกรรมการเป็นผู้ตัดสิน แต่เป็นผลมาจากลูกค้าที่ใช้รถหรือเจ้าของตัวจริงเป็นคนตัดสิน ว่ารถดี บริการดี เป็นยี่ห้อไหน ซึ่งจากกลุ่มตัวอย่างของเรา(คัสต้อม เอเชีย) เป็นลูกค้าของรถและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับรถทุกยี่ห้อ” สุกิจ ตันสกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท คัสต้อม เอเชีย จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาดมากว่า 30 ปี เปิดเผยถึงวิธีสำรวจ TAQA
สุกิจ ตันสกุล บอกว่า แม้ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ยี่ห้อเดียวกัน แต่การให้บริการของแต่ละโชว์รูมย่อมต่างกัน ซึ่งการสำรวจของ TAQA จะใช้ฐานข้อมูลของตนเอง ไม่ได้เอามาจากค่ายรถ ดังนั้น ที่มาของรายชื่อลูกค้าจึงเชื่อถือได้และเป็นกลาง ที่สำคัญทุกคนในเมืองไทยมีสิทธิ์โดนสุ่มเลือก(ด้วยคอมพิวเตอร์) เพื่อสอบถามความพึงพอใจของตัวผลิตภัณฑ์และบริการ ผ่านทางโทรศัพท์ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็ว สมบูรณ์ และสะดวกทุกฝ่าย
“ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก เนื่องจากมีความรู้ความสนใจ และศึกษารายละเอียดก่อนการซื้อรถเป็นอย่างดี แต่จากการศึกษาพบว่า สิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจอันดับหนึ่งคือ คำพูดปากต่อปาก เชื่อเพื่อน เชื่อบุคคลที่รู้จักและไว้ใจได้ อันดับที่สองคือ โลกออนไลน์หรือเว็บไซต์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว และอันดับสาม ถึงจะเป็นข้อมูลจากโชว์รูม คำแนะนำของพนักงานขาย”
สุกิจ ตันสกุล ย้ำว่า การสำรวจความพอใจของผู้บริโภคในลักษณะนี้ไม่ควรยึดกรอบ ขณะเดียวกันด้วยจำนวนกลุ่มตัวอย่างกว่า 6,400 รายของ TAQAสามารถตัดเรื่องอคติหรือความโน้มเอียงทางความคิดไปได้เลย ดังนั้นรูปแบบวิธีการที่ทำอยู่ จึงคิดว่าดีที่สุดแล้วในแง่ของการสำรวจ และผลลัพธ์ที่ได้จะสะท้อนให้เห็นมุมมองของผู้ใช้รถเมืองไทย ซึ่งบรรดาค่ายรถเองสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการกำหนดนโยบาย และกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าได้
“ในแง่ของผู้ประกอบการที่รับรางวัลTAQA นอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว ยังได้ข้อมูลอันมีค่า อันมาจากลูกค้าที่แท้จริงของเขา พร้อมแสดงให้เห็นว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไร และในมุมมองของลูกค้าอะไรคือจุดแข็งที่เขาควรรักษาไว้ อะไรคือจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เหนืออื่นใดจะส่งผลกลับมาให้ธุรกิจยานยนต์เกิดการแข่งขัน มีการเรียนรู้ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยต์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป”
ต่อคำถามที่ว่ารางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม TAQA จะเดินควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างไร “สุกิจ ตันสกุล” ให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า
“เรามุ่งมั่นตั้งใจทำรางวัล TAQA โดยไม่ได้หวังผลทางธุรกิจ แต่เราหวังว่ารางวัลนี้จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการก้าวหน้านี้จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจดีขึ้น ถึงวันนี้เราทำ TAQAมาแล้ว 11 ปี และยืนยันจะทำต่อไป อย่างไรก็ตามเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นวตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เราจึงต้องปรับเทคนิควิจัย โมเดลวิจัย วิธีการสุ่มตัวอย่าง และวิธีการวิเคราะห์ ให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วย”
นั่นคือความมุ่งมั่นตั้งใจของหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลัง รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม TAQA “สุกิจ ตันสกุล” พร้อมกับยืนยันที่จะเป็นอีกหนึ่งสถาบัน ในการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยต่อไป

“ในแง่ของผู้ประกอบการที่รับรางวัลTAQA นอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว ยังได้ข้อมูลอันมีค่า อันมาจากลูกค้าที่แท้จริงของเขา พร้อมแสดงให้เห็นว่าลูกค้ารู้สึกอย่างไร และในมุมมองของลูกค้าอะไรคือจุดแข็งที่เขาควรรักษาไว้ อะไรคือจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงแก้ไข”

นานาทัศนะของผู้ได้รับรางวัล TAQA
บรรดาค่ายรถยนต์และผลิตภัณฑ์ประกอบรถยนต์ส่วนหนึ่ง แสดงความคิดเห็นจากการได้รับรางวัล TAQA ครั้งที่ 11ไว้อย่างน่าสนใจ
ครั้งนี้ โตโยต้า กวาด 9 รางวัล และคว้ารางวัล TAQA Excellent Award CSI 2008-2012 เป็นบริษัทแรกที่ได้รับรางวัลความพึงพอใจด้านการบริการ หลังการขาย (CSI) ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน
โตโยต้า คว้ารางวัลความพึงพอใจด้านการขาย หลังการขาย และความพึงพอใจด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ และรางวัล TAQA Excellent Award CSI 2008-2112 เป็นบริษัทแรกที่ได้รับรางวัลความพึงพอใจด้านการบริการ หลังการขาย (CSI) ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน รวมแล้วได้ทั้งสิ้น 9 รางวัล
วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า รางวัลที่ได้ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันถือเป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้าที่ได้รับความไว้วางใจ และความเชื่อมั่นจากลูกค้าตลอดมา เกิดจากความพากเพียร ทุ่มเทแรงกายแรงใจของทีมงานทุกฝ่าย เพื่อรักษาคุณภาพมาตรฐาน มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด รวมถึงมาตรฐานการบริการและความเป็นมืออาชีพของผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทุกคน
“เราไม่ได้คาดหวังกับรางวัล แต่เป็นการทำตามบทบาทความรับผิดชอบในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ และผู้มอบการบริการทั้งก่อนและหลังการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม ทุกรางวัลที่ได้รับล้วนมีความสำคัญยิ่ง เพราะถือเป็นภาพสะท้อนถึงความไว้วางใจและมั่นใจในคุณภาพและการบริการที่ลูกค้ามีต่อเรา รางวัลเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ทีมงานทุกฝ่าย รวมถึงผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ และการบริการเหนือระดับต่อไป”
บีเอ็มดับบลิว ซิว 2 รางวัลภาพลักษณ์ไปครอง
บีเอ็มดับเบิลยู ได้ 2 รางวัลสำคัญด้านภาพลักษณ์ ทั้งในด้านการออกแบบและในด้านเทคโนโลยีระดับสูง นับว่าสะท้อนถึงการยอมรับในนวัตกรรมทั้งสองด้านอันเป็นปัจจัยหลักของรถยนต์นั่งระดับหรู
กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่าการออกแบบนั้น จะเห็นว่ารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในแต่ละรุ่น มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น แต่ปรับเปลี่ยนให้ดูมีความทันสมัยขึ้น ทั้งในส่วนของการออกแบบภายนอกและภายใน โดยนักออกแบบที่ทำงานกันในทุกจุดของรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของวัสดุลายไม้ ชนิดของหนังคุณภาพเยี่ยมที่ใช้ห่อหุ้มเบาะที่นั่ง และการวางตำแหน่งของปุ่มควบคุมต่างๆ ให้ง่ายต่อการใช้งานที่สุด เหล่านี้รวมเป็นปัจจัยแห่งรายละเอียดที่มีอยู่ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกคัน
ส่วนรางวัลด้านภาพลักษณ์ในด้านเทคโนโลยีระดับสูงนั้น กฤษฎา บอกว่า เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของบีเอ็มดับเบิลยูในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Mobility ซึ่งเป็นก้าวใหม่สำหรับการเดินทางส่วนบุคคลระดับพรีเมี่ยมในอนาคต ทั้งนี้ ทีมวิจัยและพัฒนาของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้บุกเบิกริเริ่มการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน หรือ Sustainability โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบขับเคลื่อนใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริด
“รางวัลที่ได้ทั้งสองรางวัลสำคัญนี้เป็นไปตามความคาดหมาย เพราะจากการวิจัยการตลาดในด้านความพึงพอใจของลูกค้าทั่วโลกเพื่อเฟ้นหาแบรนด์ที่เป็นอันดับหนึ่งนั้น บีเอ็มดับเบิลยูได้คะแนนความพึงพอใจในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ประกอบกับมีการออกแบบที่โดดเด่น และมีเทคโนโลยีทั้งในด้านความปลอดภัยและในด้านการขับขี่ที่เป็นเลิศ และจากผลการวิจัยนี้ ก็มิได้ทำให้บีเอ็มดับเบิลยูหยุดนิ่งกับผลลัพธ์อันน่าพึงพอใจ แต่ในทางตรงกันข้าม เรายังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความเป็นผู้นำทั้งในด้านการออกแบบและในด้านเทคโนโลยีระดับสูงต่อไป”
ปตท. คว้า 3 รางวัล ตอกย้ำการยอมรับคุณภาพผลิตภัณฑ์ของลูกค้า
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับ 3 รางวัล ด้านผลิตภัณฑ์ยานยนต์อื่นๆ และผลิตภัณฑ์ประกอบการใช้รถยนต์ ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และ น้ำมันหล่อลื่น ถือว่าตอกย้ำในความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อตราสินค้า ปตท. และจะเป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบครันต่อไป
สรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ”3 รางวัล TAQA เป็นอีกความภาคภูมิใจของ ปตท.ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า และแสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อ ปตท. ซึ่งเกิดขึ้นมาจากความพากเพียร การทุ่มเทแรงกายแรงใจของทีมงานทุกฝ่ายในการรักษาคุณภาพมาตรฐานซึ่งตลอดมา ปตท.ไม่เคยหยุดนิ่งในการปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจแต่อย่างใด”
ในหมวดฟิล์มกรองแสง ลามิน่า คว้าไปเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ลามิน่า ได้รางวัลผลิตภัณฑ์ประกอบการใช้รถยนต์
จันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และฟิล์มกรองแสงอาคาร ‘ลามิน่า’ ฟิล์มกลุ่มพิเศษ ‘ลูม่าร์’ จากซีพีฟิล์มอิงค์ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า รางวัลนี้สะท้อนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ลามิน่า และเป็นรางวัลที่มีคุณค่ามาก เพราะตัดสินจากประสบการณ์ของคนใช้สินค้าจริงและพอใจกับสินค้านี้ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือพร้อมยืนยันคุณภาพจากการใช้งานจริงไม่ใช้ความรู้สึก
“เราภูมิใจที่ได้รับรางวัล TAQA ต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เรายังคงเป็นผู้ประกอบการธุรกิจฟิล์มกรองแสงรถยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัล TAQAซึ่งลามิน่าขอสัญญาว่าจะนำกำลังใจที่ได้รับมาใช้ในการเดินหน้าพัฒนาการให้บริการของบริษัท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยต่อไป”
แบตเตอรี่ 3 K อีกบทที่พิสูจน์คุณภาพ
แบตเตอรี่ 3 เค คว้ารางวัลผลิตภัณฑ์ประกอบการใช้รถยนต์ไปครอง
วีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ รองประธานอาวุโส บริษัท ผลิตภัณฑ์ 3 เค จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 25 ปี การที่ได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยม (TAQA Award) ย่อมเป็นเครื่องการันตีคุณภาพของสินค้าที่ใช้นวัตกรรมอันล้ำสมัยมาพัฒนาให้กลายเป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และมีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ให้ดูทันสมัย
“สำหรับปี 2556 ทาง 3 เค เเบตเตอรี่ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ มาตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคมากขึ้น โดยหลักๆ เน้นไปที่เรื่องคุณภาพสินค้าเพื่อให้เป็นสินค้าไทยที่ไปแข่งขันในตลาดโลก ทั้งนี้ ใช้การตลาดกีฬา (Sport Marketing) เป็นตัวนำ เริ่มจากการสนับสนุนทีมสโมสรฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนจะก้าวไกลไปถึงทีมตำนานระดับโกลบอลแบรนด์อย่างลิเวอร์พูล กับงบประมาณในการสปอนเซอร์ทีม 100 ล้านบาทต่อปี”
กำลังโหลดความคิดเห็น