ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รถยนต์ซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ ได้รับการตอบรับดีมากในภูเก็ต ตั้งแต่เปิดตัวยอดจองกว่า 700 คันแล้ว จากความมั่นใจของลูกค้า และโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ทำให้การส่งรถให้ลูกค้ายาวไปถึงตุลาคมปีหน้า
นางพรรณทิพา อุปัติศฤงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ซูซูกิในพื้นที่ภูเก็ต เปิดเผยถึงตลาดรถยนต์ซูซูกิในจังหวัดภูเก็ต ในโอกาสที่ทางบริษัท เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต จำกัด จัดกิจกรรม “SUZUKI @ Work 2012” เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โชว์รูมซูซูกิ ภูเก็ต ถ.สุรินทร์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า
ภายหลังจากที่ทางค่ายรถยนต์ซูซูกิได้เปิดตัว ซูซูกิ สวิฟท์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในภูเก็ตเป็นอย่างดีเกินความคาดหมาย โดยขณะนี้ มียอดจองรถยนต์ซูซูกิ รุ่นสวิฟท์แล้วกว่า 700 คัน ทำให้การส่งรถให้ลูกค้ายาวไปจนถึงเดือนตุลาคมปีหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวทางบริษัทแม่ไม่ได้นิ่งนอนได้ ได้เพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น เพื่อที่จะส่งรถให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น ซึ่งในส่วนของภูเก็ตนั้น ขณะนี้ได้รับรถเดือนละประมาณ 40 คัน ทั้งนี้ เพราะรถยนต์ซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ เป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน และช่วงล่างเกาะถนน ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจ และนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 นี้ ทำให้ลูกค้าเข้ามาจองรถในช่วงนี้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท เอส.ยู.ซูซูกิ ภูเก็ต จำกัด ได้จัดกิจกรรม “SUZUKI @ Work 2012” ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยการเชิญลูกค้าที่ซื้อรถซูซูกิ สวิฟท์ ที่จอง และได้รับรถแล้ว มาพูดคุยกับ คุณภีมม์วัช นุชพุ่ม (อาร์ท) ลูกชายแดง สติ๊กเกอร์ เจ้าของตำนานช่างตัดสติกเกอร์มือหนึ่งของประเทศไทย ถึงการตกแต่งรถซูซูกิ สวิฟท์ ด้วยสติกเกอร์อย่างไรให้สวยงามตามความต้องการของลูกค้า
รวมทั้งได้จัดโปรโมชันตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 23 รายการ ลด 50% และฟรีค่าแรงเมื่อเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และลด 25% เมื่อเปลี่ยนอะไหล่ โดยทีมวิศวกรจากประเทศญี่ปุ่นมาตรวจเซ็กสภาพรถให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ ลูกค้าที่รถยังไม่ครบรอบเข้าตรวจสภาพ ก็สามารถที่จะซื้ออะไหล่สำรองไว้ได้โดยจะได้ส่วนลด 50% เช่นกัน
นางพรรณทิพา ยังกล่าวถึงแนวโน้มตลาดรถยนต์ซูซูกิในพื้นที่ภูเก็ตว่า ในปีหน้าตลาดรถรุ่นสวิฟท์อาจจะลดลงบ้าง จากที่นโยบายรถคันแรกของรัฐบาลได้สิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้ และลูกค้าส่วนใหญ่ที่ต้องการรถรุ่นดังกล่าวได้จองเข้ามาในปีนี้แล้วเป็นจำนวนมากเพื่อขอรับคืนภาษีของรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม ทางค่ายรถยนต์ซูซูกิได้เตรียมที่จะนำรถรุ่นใหม่ออกทำตลาดอีกหนึ่งรุ่น ที่เรียกกว่าพี่ชายของสวิฟท์ เป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และรุ่นแคร์รี (Carry) ก็เป็นอีกรุ่นที่ทำตลาดได้ดี เพราะเป็นรถที่ใช้ในเชิงพาณิชย์
ส่วนการแข่งขันนั้นถือว่าสูงมากสำหรับรถอีโคคาร์ในขณะนี้ เพราะทุกค่ายรยยนต์ได้ส่งรถอีโคคาร์ออกสู่ตลาดกันทุกค่าย ซึ่งโดยตัวแบรนด์แล้ว ซูซูกิอาจจะสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้ แต่ทางบริษัทแม่ได้ทำตัวโปรดักต์ให้ดีที่สุด ทำให้ลูกค้ามั่นใจมากด้วยเครื่องยนต์ 91 แรงม้า 4 สูบ ทำให้ได้เปรียบยี่ห้ออื่น ในขณะที่ราคาไม่ได้แตกต่างกันมาก
ด้านนายภสากร ชินมงคลกุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายพื้นที่ภาคใต้ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดรถยนต์ซูซูกิในภาคใต้ ว่า ตลาดในภาคใต้ และทั่วประเทศดีมากสำหรับรถยนต์ซูซูกิ รุ่นสวิฟท์ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยขณะนี้มียอดจองทั่วประเทศแล้วกว่า 25,000 คัน สำหรับภาคใต้มีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ 1.8% ในปัจจุบัน ซึ่งทางบริษัทพยายามที่จะดันให้ถึง 2% ภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตนั้นมียอดจองรองจากกรุงเทพฯ เท่านั้น ขณะนี้มียอดจองแล้วกว่า 700 คัน โดยมีรถรุ่นสวิฟท์เป็นรุ่นที่ทำตลาดได้ดีที่สุด รองลงมา เป็นรุ่นแคร์รี่ที่ลูกค้าซื้อเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์
