PwC ประเทศไทย เผยผลสำรวจ 4 เมือง ได้แก่ จาการ์ตา สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ และกรุงเทพฯ ติดโผเมืองน่าลงทุนในปี 2556 โดยกรุงเทพฯติดโผน่าลงทุนเป็นอันดับ 6 ขยับขึ้นจากอันดับ 14 แซงหน้าปักกิ่ง/ไทเป ชี้แนวโน้มลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิกยังสดใส
PwC ประเทศไทย ผู้ให้บริการทางด้านการตรวจสอบบัญชี บริการให้คำปรึกษาทางด้านภาษี และบริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจรายใหญ่ของโลก เผยรายงานล่าสุด Emerging Trends in Real Estate® Asia Pacific 2013
ทั้งนี้ รายงานประจำปีฉบับนี้จัดทำขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง PwC และ The Urban Land Institute (ULI) ผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ นักลงทุน ผู้จัดการกองทุน บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ผู้ให้เช่า ตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้ให้คำแนะนำ และผู้ให้คำปรึกษากว่า 400 ราย ผ่านการสัมภาษณ์และการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับแนวโน้มและการคาดการณ์ในการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนทิศทางในการพัฒนาตลาดอุตสาหกรรมดังกล่าวในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก
ผลจากการรายงานที่น่าสนใจ ได้แก่ จาการ์ตา ครองแชมป์เมืองหลวงน่าลงทุนที่สุดปี 2556 พุ่งจากอันดับ 11 ปีก่อน เพราะ GDP มีอัตราการเติบโตแข็งแกร่ง ดอกเบี้ย เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้
ขณะที่เมืองหลวงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4 เมือง ได้แก่ จาการ์ตา สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ และกรุงเทพฯ ติดโผเมืองน่าลงทุนปี 2556
กรุงเทพมหานคร ติดโผเมืองหลวงที่น่าลงทุนมากที่สุดอันดับที่ 6 ขยับขึ้นจากอันดับ 14 ในปี 2555 แซงหน้าปักกิ่งและไทเป หลังได้รับอานิสงส์จากตลาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งคาดผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ฝั่งตะวันตกเริ่มมองหาดีลใหม่ๆ และโอกาสในการขยายการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเอเชียแปซิฟิกในระยะยาวมากขึ้น
ส่วนแนวโน้มการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียแปซิฟิกยังเป็นบวก แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจากยุโรป และปัญหาหนี้การคลังสหรัฐฯยังกดดัน ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นในตลาดหลักๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะผลักดันให้ผู้ซื้อต่างชาติ มองหาโอกาสใหม่ๆหรือปรับกลยุทธ์การลงทุนไปสู่สินทรัพย์ทางเลือกในอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจง (niche sectors) มากขึ้น เช่น ระบบขนส่ง logistics