ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ก่อนจะปิดที่ 1,359.09 จุด บวกแค่ 0.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.5 หมื่นล้าน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเกือบ 1.3 พันล้านบาท โดยนักลงทุนยังจับตาหน้าผาการคลังสหรัฐฯ-การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ธ.ค.) ดัชนีแกว่งตัวผันผวนตามตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังคงติดตามการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องติดตามความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และเสถียรภาพรัฐบาลในปี 2556
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวอยู่ใกล้เคียงกับราคาปิดวันก่อนหน้า มีระดับราคาสูงสุดที่ 1,366.01 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,357.74 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,359.09 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.59 จุด หรือ 0.04% มูลค่าการซื้อขายรวม 35,040.08 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิ 1,289.05 ล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 72.30 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 493.63 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 867.72 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ CPALL ราคาปิด 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.43% มูลค่าการซื้อขาย 2,112.75 ล้านบาท ADVANC ราคาปิด 206 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 1.90% มูลค่าการซื้อขาย 1,939.15 ล้านบาท และ BANPU ราคาปิด 422 บาท เพิ่มขึ้น 20 บาท หรือ 4.98% มูลค่าการซื้อขาย 1,602.42 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่อยู่ในแดนบวกจากข่าวดีเรื่องการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลในประเทศ โดยตลาดหุ้นไทยพยายามทดสอบแนวต้านที่สำคัญ และยืนเหนือระดับ 1,360 จุด แต่ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาบ้างในระยะสั้น จนดัชนีปิดการซื้อขายตำกว่าระดับดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุนนั้น ดัชนีตลาดหุ้นยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่คงจะไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มหยุดการซื้อขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ แต่ปัจจัยในประเทศยังส่งผลดีต่อตลาดหุ้นบ้านเรา คือ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ยังขยายตัวได้ปีในปี 2556
บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ธ.ค.) ดัชนีแกว่งตัวผันผวนตามตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังคงติดตามการแก้ปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องติดตามความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และเสถียรภาพรัฐบาลในปี 2556
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวอยู่ใกล้เคียงกับราคาปิดวันก่อนหน้า มีระดับราคาสูงสุดที่ 1,366.01 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,357.74 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,359.09 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 0.59 จุด หรือ 0.04% มูลค่าการซื้อขายรวม 35,040.08 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิ 1,289.05 ล้านบาท สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 72.30 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 493.63 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 867.72 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ CPALL ราคาปิด 45.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.43% มูลค่าการซื้อขาย 2,112.75 ล้านบาท ADVANC ราคาปิด 206 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 1.90% มูลค่าการซื้อขาย 1,939.15 ล้านบาท และ BANPU ราคาปิด 422 บาท เพิ่มขึ้น 20 บาท หรือ 4.98% มูลค่าการซื้อขาย 1,602.42 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่อยู่ในแดนบวกจากข่าวดีเรื่องการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลในประเทศ โดยตลาดหุ้นไทยพยายามทดสอบแนวต้านที่สำคัญ และยืนเหนือระดับ 1,360 จุด แต่ต้องเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาบ้างในระยะสั้น จนดัชนีปิดการซื้อขายตำกว่าระดับดังกล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุนนั้น ดัชนีตลาดหุ้นยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ แต่คงจะไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มหยุดการซื้อขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ แต่ปัจจัยในประเทศยังส่งผลดีต่อตลาดหุ้นบ้านเรา คือ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ยังขยายตัวได้ปีในปี 2556